การเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟสำหรับโทรศัพท์มือถือ
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันนั้น การสำรองข้อมูลรวมไปถึงการถ่ายโอนข้อมูล จากโทรศัพท์เครื่องหนึ่งไปยังอุปกรณ์อื่นๆ เราสามารถที่จะทำได้ผ่านระบบคลาวด์แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นระบบดังกล่าวก็มีข้อจำกัดบางประการอยู่ อย่างหากเป็นไฟล์ที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ อาจจะต้องใช้อินเทอร์เน็ตในการอัปโหลดหรือดาวน์โหลดค่อนข้างมาก ทำให้การดาวน์โหลดไฟล์หรืออัปโหลดไฟล์เหล่านี้ช้าไปด้วย หลายคนจึงยังคงนิยมวิธีการแบบออฟไลน์ นั่นก็คือการถ่ายโอนข้อมูล เก็บข้อมูล และย้ายข้อมูลผ่านทางแฟลชไดร์ฟแต่ในปัจจุปันนี้แฟลชไดร์ฟก็พัฒนารูปแบบขึ้นมามากมาย เช่น PEN USB , RECYCLE USB , GARD USB และอื่น ๆ อีกมากมาย
ในปัจจุบันเรามีแฟลชไดร์ฟที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับโทรศัพท์มือถือ หรือสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ ซึ่งในปัจจุบันในท้องตลาดก็มีอยู่ด้วยกันมากมายหลากหลายยี่ห้อ และหลากหลายแบรนด์ให้ผู้บริโภคได้เลือกใช้งานกัน วันนี้เราจะพาคุณมาเลือกแฟลชไดร์ฟสำหรับมือถือ คุณจะสามารถเลือกซื้อมันได้อย่างไร เพื่อให้สามารถใช้งานได้ตรงกับเป้าหมายการใช้งานมากที่สุด ก่อนอื่นจะต้องบอกก่อนว่า แฟลชไดร์ฟในรูปแบบมือถือนั้น เราเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า แฟลชไดร์ฟแบบ OTG ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้มีพอร์ตรองรับการใช้งานร่วมกับโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตด้วย
พอร์ตที่รองรับ
ขั้นแรกให้เราดูพอร์ตที่รองรับก่อน เนื่องจากโทรศัพท์มือถือแต่ละรุ่นนั้นอาจจะรองรับพอร์ตที่มีความแตกต่างกัน ดังนั้นจึงต้องเลือกซื้อให้ตรงกันด้วย ยกตัวอย่างเช่นมือถือ Android รุ่นปัจจุบันทั่วไป พอร์ตที่รองรับจะเป็นพอร์ต USB-C ส่วนหากเป็น iPhone หากใครต้องการใช้แฟลชไดร์ฟประเภทนี้อาจต้องเลือกเป็นพอร์ต Lightning หรือถ้าหากใครต้องการนำไปเสียบกับคอมพิวเตอร์ด้วย ก็อาจเลือกแบบที่มีทั้งสองพอร์ต จะสะดวกในการใช้งานมากกว่า
ขนาดขนาดความจุของไฟล์
แน่นอนว่า แฟลชไดร์ฟแบบ OTG นี้ วิธีการในการเลือกใช้ก็ดูเหมือนจะมีความคล้ายกับแฟลชไดร์ฟทั่วไป คือเลือกตามขนาดความจุที่เราต้องการจะนำไปใช้งาน โดยมีขั้นต่ำอยู่ที่ตั้งแต่ 32 GB ไปจนถึงขั้นที่มีความจุค่อนข้างมากคือ 512 GB หรืออาจมีมากกว่านั้นให้เราได้เลือกกันในท้องตลาด การพิจารณาว่าจะเลือกขนาดความจุขนาดขนาดไหน ก็อยู่ที่ว่าเราใช้ในการเก็บไฟล์มากน้อยขนาดไหน ไฟล์ที่เราเก็บนั้นเป็นรูปแบบอะไร อย่างหากเราต้องการเก็บไฟล์ที่เป็นวิดีโอความละเอียดสูง เราอาจจะต้องใช้พื้นที่และความจุมากกว่าปกติเป็นต้น
ความเร็วสำหรับการถ่ายโอนข้อมูล
หลายหลายรุ่นที่วางขายในท้องตลาดนั้น มักจะมีการระบุไว้ว่ามีความเร็วในการอ่านข้อมูลและการเขียนข้อมูลอยู่ที่เท่าไหร่ แน่นอนว่ายิ่งหากเวลาในการถ่ายโอนข้อมูลเร็ว ใครหลายคนก็น่าจะชื่นชอบและเลือกซื้อมากกว่า แต่ในบางรุ่น ก็ไม่ได้มีการบอกในเรื่องของความเร็วในการถ่ายโอนและการเขียนข้อมูลไว้ หากเป็นแบบนั้นให้เราดูเมื่อจะมาตรฐานเวอร์ชั่นของ USB ได้ โดยปกติทั่วไปทุกวันนี้ ที่เราพบเห็นขั้นต่ำอาจจะเป็นแบบ USB3.0 ขึ้นไปแล้ว ยิ่งเป็นเวอร์ชั่นที่มีความใหม่มากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งถ่ายโอนข้อมูลได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น
ราคา
เรื่องของราคายังคงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและเป็นหนึ่งในตัวเลือกและปัจจัยที่จะทำให้เราซื้อหรือซื้อ ที่จะบอกก็คือ ไม่ใช่ว่าราคาถูกหรือราคาแพงจะดี เพียงแต่ให้เราเลือกที่มีความสมเหตุสมผล เลือกพอเหมาะและพอดีกับลักษณะงานที่เราจะนำไปใช้ ยกตัวอย่างเช่นหากเราใช้เพียงแค่นำมาเก็บไฟล์เอกสาร เราอาจซื้อที่มีความจุน้อยๆ และนั่นจะทำให้ราคาถูกลงมา อาจจะไม่จำเป็นต้องซื้อราคาแพงที่มีความจุมาก แบบนี้จะทำให้เราใช้งานได้คุ้มค่ามากกว่า หากเราซื้อมาเกินเท่าที่เราจะใช้งาน เราอาจจะต้องเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ก็ได้ หากคุณกำลังตามหาของขวัญให้ใใครซักคนอยู่แนะนำว่าควรซื้อแบบเป็น GIFT SET บอกเลยว่าคุ้มค่าสุด ๆ ผู้รับจะต้องประทับใจแน่นอน