แฟลชไดร์ฟในเวลานี้ตกยุคแล้วหรือยัง ?
เมื่อพูดถึงศักยภาพการพัฒนาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในช่วงตลอด 10 ปี ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นอะไรที่รวดเร็วมาก อย่างการถือกำเนิดของวงการ
Blockchain และ AI ที่เข้ามามีบทบาทจนโลกต้องรีบปรับตัวตามให้ทัน ไหนจะการมาของเครื่องมือหรืออุปกรณ์ใหม่ ๆ ที่เข้ามาช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่เราเห็นกันคุ้นตาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันมันก็ยังเป็นสินค้าที่มีขายกันอยู่ทุกที่อย่างแฟลชไดร์ฟกลับยังคงเป็นสิ่งที่ผู้คนต่างเรียกหากันอยู่ตลอด
แฟลชไดร์ฟคืออะไร ?
แฟลชไดร์ฟเป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลชนิดหนึ่งที่ถูกออกแบบมาให้สามารถพกพาและเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เพื่อทำการถ่ายโอนข้อมูลภายในคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะไฟล์เอกสาร โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ไฟล์เพลงหรือไฟล์วิดีโอ ก็สามารถจัดการได้หมด โดยการจำหน่ายแฟลชไดร์ฟจะมีราคาแตกต่างกันไปตามขนาดความจุภายในเป็นหลัก ตั้งแต่ 4 GB ถึง 2 TB มีหลากหลายแบบเช่น METAL USB, WOODEN USB, TWISTER USB เป็นต้น
การมาของแฟลชไดร์ฟ
เดิมทีก่อนที่ผู้ควรจะหันมาใช้งานแฟลชไดร์ฟกันอย่างแพร่หลาย ก่อนหน้านั้นเคยเป็นยุคของ CD-ROM Drive หรือที่เรียกกันว่า “ แผ่นซีดีรอม “ ซึ่งมีน้ำหนักเบา มีความบางเล็กสามารถพกพาได้ การทำงานค่อนข้างมีประสิทธิภาพในยุคนั้น โดยจะทำงานด้วยการสะท้อนแสงเลเซอร์ไปยังตัวอ่านข้อมูล แล้วส่งต่อให้ CPU ไปทำการประมวลผล ซึ่งทำได้รวดเร็วและประหยัดเวลา
อย่างไรก็ตามเมื่อมีการผลิตแฟลชไดร์ฟออกมาจำหน่ายมันก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ด้วยคุณสมบัติที่ทำได้เหนือกว่า CD-ROM Drive ทุกประการ ทั้งการถ่ายโอนข้อมูลที่ทำได้รวดเร็วกว่า ปริมาณความจุข้อมูลที่มากกว่า ความทนทานที่ไม่เสียหายง่าย รวมถึงความสะดวกด้านการพกพาที่ทำได้ง่ายกว่าอย่างชัดเจน แฟลชไดร์ฟจึงกลายมาเป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญของผู้ที่ทำงานกับคอมพิวเตอร์จะขาดไปไม่ได้ ซึ่งในเวลานี้โรงงานผลิต CD-ROM Drive สำหรับเก็บข้อมูล ก็ได้ประกาศปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
การถ่ายโอนและเก็บข้อมูลในปัจจุบัน
แน่นอนว่าวงการเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ย่อมต้องได้รับการพัฒนาไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งตอนนี้โลกก็ได้มีเครื่องมือสำหรับการเก็บและถ่ายโอนข้อมูลใหม่ ๆ ออกมาแล้ว ทั้ง External Hard Drive ที่เป็นฮาร์ดดิสก์แบบพกพาซึ่งสามารถเก็บข้อมูลได้ในระดับเทเลไบต์ ( TB ) พร้อมกับอ่านข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว กับ Cloud Storage บริการเก็บข้อมูลบนพื้นที่ออนไลน์ ที่ไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้ออุปกรณ์ใดเพิ่มเติม ขอแค่คุณมีอินเทอร์เน็ตก็สามารถฝากเก็บไฟล์ข้อมูลต่าง ๆ และยังสามารถเรียกใช้ข้อมูลได้จากอุปกรณ์ทุกเครื่องในต่างสถานที่ได้อีกด้วย
แฟลชไดร์ฟยังจำเป็นอยู่ไหม ?
เมื่อถามว่าแฟลชไดร์ฟยังน่าใช้อยู่ไหมในยุคปัจจุบัน ก็คงต้องตอบว่า แฟลชไดร์ฟยังคงเป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นและควรมีพกติดไว้คู่กับการทำงาน เนื่องจากแฟลชไดร์ฟก็มีข้อดีที่น่าใช้งานซึ่งต่างกับ External Hard Drive และ Cloud Storage อยู่ โดยแบ่งออกได้ดังต่อไปนี้
ความต่างกับ External Hard Drive
ถึงแม้ว่า แฟลชไดร์ฟจะสามารถเก็บข้อมูลได้น้อยกว่า แต่ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันถือว่ายังมีน้อยนักที่ใครจะมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลไว้มากถึงระดับเทเลไบต์ นอกจากผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์โดยตรงอย่าง นักพัฒนาซอฟต์แวร์ เป็นต้น ขณะที่การทำงานส่วนใหญ่ในออฟฟิศทั่วไปจะยังคงเก็บข้อมูลในระดับกิกะไบต์กันอยู่ ซึ่งบางคนอาจไม่เคยเก็บไฟล์ได้มากถึง 32 GB เลยด้วยซ้ำ
นอกจากนี้แล้วแฟลชไดร์ฟยังมีขนาดเล็กที่พกพาได้สะดวกกว่ามาก พกเก็บไว้ตาม กระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกง หรือห้อยติดกับสายคล้องคอเลยก็ได้ ด้วยเหตุนี้พนักงานส่วนมากจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องถึงกับซื้อ External Hard Drive มาใช้งาน
ความต่างกับ Cloud Storage
เมื่อพูดถึง Cloud Storage ไม่ว่าใครก็ต้องนึกถึง Google drive อันเป็นบริการที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด เพราะเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุด แต่ทั้งนี้การจะใช้งานมันคุณก็จำเป็นจะต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วมากพอต่อการถ่ายโอนไฟล์ ซึ่งถ้าหากมีสัญญาณไม่สมดุลก็อาจทำให้การดาวน์โหลดไฟล์มีปัญหาหรือทำไม่ได้เลย ในขณะที่แฟลชไดร์ฟนั่นไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอินเทอร์เน็ตแต่อย่างใด
ขณะเดียวกันแม้จะเป็นบริการฟรี แต่มันก็ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของปริมาณพื้นที่ ซึ่งถ้าหากต้องการจะขยายความจุให้เพิ่มขึ้น ผู้ใช้จำเป็นจะต้องเสียค่าสมัครบริการแบบรายเดือนหรือรายปี โดยนับเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจุกจิกพอสมควร
สรุปแล้ว แฟลชไดร์ฟยังถือเป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นต่อการทำงานอยู่เหมือนเดิม และยังมีความสอดคล้องกับสายงานอีกมากมาย เพราะมีการใช้งานที่เรียบง่าย อีกทั้งยังมีราคาที่ถูกหาซื้อได้ง่ายและยังถูกใช้เป็นของพรีเมี่ยมโดยจัดเป็น GIFT SET รวมกับสินค้าอื่น ๆ เพื่อใช้เป็นของแจกของสมนาคุณต่าง ๆ