ไขข้อข้องใจ แฟลชไดร์ฟ-SSD ทำความเร็วในการเขียน อ่านข้อมูลได้จริงตามคำโฆษณาหรือไม่ ?
เมื่อพูดถึงอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลชั่วคราวแบบพกพาอย่างแฟลชไดร์ฟ, External SSD หลายคนน่าจะพอทราบกันดีว่าหนึ่งในข้อดีที่ทำให้อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเหล่านี้ดูโดดเด่นกว่าอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายในอย่างฮาร์ดดิสก์ก็คือ ความเร็วในการเขียน-อ่านข้อมูล เนื่องจากเป็นการใช้ชุดคำสั่งแบบดิจิทัล ซึ่งไม่มีขีดจำกัดในการทำความเร็วที่ตายตัวเหมือนเทคโนโลยีจานหมุนแม่เหล็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแฟลชไดร์ฟ SSD รุ่นใหม่ ๆ ที่เราจะได้เห็นคำโฆษณาของแบรนด์ผู้ผลิตว่ามีความเร็วสูงถึงระดับ
การเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟสำหรับโทรศัพท์มือถือ
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันนั้น การสำรองข้อมูลรวมไปถึงการถ่ายโอนข้อมูล จากโทรศัพท์เครื่องหนึ่งไปยังอุปกรณ์อื่นๆ เราสามารถที่จะทำได้ผ่านระบบคลาวด์แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นระบบดังกล่าวก็มีข้อจำกัดบางประการอยู่ อย่างหากเป็นไฟล์ที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ อาจจะต้องใช้อินเทอร์เน็ตในการอัปโหลดหรือดาวน์โหลดค่อนข้างมาก ทำให้การดาวน์โหลดไฟล์หรืออัปโหลดไฟล์เหล่านี้ช้าไปด้วย หลายคนจึงยังคงนิยมวิธีการแบบออฟไลน์ นั่นก็คือการถ่ายโอนข้อมูล เก็บข้อมูล และย้ายข้อมูลผ่านทางแฟลชไดร์ฟ
พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยงในการใช้งานแฟลชไดร์ฟบน PC
แม้ว่าปัจจุบันเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต และซอฟท์แวร์การประมวลผลต่าง ๆ จะพัฒนาขึ้นจากเดิมมาก มีอุปกรณ์ไอทีให้ผู้ใช้งานได้เลือกใช้หลากหลายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการมาของอุปกรณ์แบบพกพาต่าง ๆ เช่น แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน หรือกระทั่งการปรับเปลี่ยนดีไซน์ ขนาดของแล็ปท็อปให้บางเบาลง เอื้อต่อการพกพามากขึ้น ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานโอนถ่าย เคลื่อนย้าย ส่งต่อข้อมูลดิจิทัลต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น แต่ความสำคัญและความนิยมในการใช้งานแก็ดเจ็ตจัดเก็บข้อมูลพกพาอย่าง
ข้อควรระวังในการใช้งานแฟลชไดร์ฟบนสมาร์ทโฟน Android และ IOS
เป็นที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันแบรนด์ผู้ผลิตแก็ดเจ็ตไอทีเจ้าต่างๆ ได้มีการพัฒนาแก็ดเจ็ตจัดเก็บข้อมูลพกพา “แฟลชไดร์ฟ” ให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานบนแพลตฟอร์มต่างๆ ได้อย่างอิสระ และสะดวกมากขึ้น โดยได้มีการเพิ่มพอร์ตการเชื่อมต่อแบบอื่นๆ เข้ามานอกเหนือจากพอร์ต USB-A ที่เราคุ้นเคย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพอร์ต USB-C แบบที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับที่ตัวสมาร์ทโฟนทั้ง Android และ IOS เจเนอเรชั่นใหม่ได้ทันที ทำให้สามารถโอนถ่าย คัดลอกข้อมูลร่วมกับสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตได้
เปรียบเทียบข้อจำกัด แฟลชไดร์ฟ และ SSD ใช้ทำอะไรได้-ไม่ได้บ้าง ทำไม SSD จึงมีราคาสูงกว่า ?
หากจะพูดถึงอุปกรณ์จัดเก็บไฟล์ข้อมูลต่างๆ สำหรับใช้งานบนแพลตฟอร์มไอที เช่น คอมพิวเตอร์ แล็ปท็อปในปัจจุบันก็แน่นอนว่าหลายคนย่อมนึกถึง SSD หรือ Solid State Drive ซึ่งสามารถใช้งานเป็นได้ทั้งตัวจัดเก็บข้อมูลภายใน และตัวจัดเก็บข้อมูลภายนอก หรือ External Hard Drive โดย SSD นั้นถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้งานแทนที่ หรือใช้ร่วมกับ HardDisk เพื่อประสิทธิภาพในการรันการทำงานของอุปกรณ์ได้รวดเร็วขึ้น ทั้งการเปิดโปรแกรม การอ่าน
ข้อจำกัดในการใช้แฟลชไดร์ฟเก็บข้อมูลบนสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต
เป็นที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันการใช้งานแก็ดเจ็ตจัดเก็บข้อมูลพกพาอย่างแฟลชไดร์ฟถือได้ว่ามียืดหยุ่นกว่าในช่วงหลายปีก่อนพอสมควร เนื่องจากบรรดาแบรนด์ผู้ผลิตแต่ละเจ้าต่างก็มีการพัฒนาทั้งในเรื่องของขนาดความจุ ประสิทธิภาพในการใช้งาน และพอร์ตเชื่อมต่อให้สอดรับกับเทคโนโลยี และสเปคอุปกรณ์ไอทีเจเนอเรชั่นใหม่ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของพอร์ตเชื่อมต่อ ซึ่งแต่เดิมการใช้งานแก็ดเจ็ตชิ้นนี้จะผูกติดอยู่กับพอร์ต USB-A มาตลอด เป็นเวลานานเกินกว่าทศวรรษแล้ว แต่ปัจจุบัน
การใช้งานแฟลชไดร์ฟ ปลอดภัยแค่ไหน
เชื่อว่าทุกคนน่าจะเคยใช้งานอุปกรณ์แฟลชไดร์ฟกันอย่างแน่นอน ซึ่งสิ่งนี้สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการเก็บข้อมูล การโอนย้ายหรือถ่ายข้อมูล หรือแม้แต่การใช้เก็บไฟล์เอกสารหรือไฟล์งานสำหรับการนำเสนองานทั้งในระดับโรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือแม้แต่ในการทำงานก็ตาม แฟลชไดร์ฟนับว่าเป็นอุปกรณ์ที่สามารถพกพาได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ในยุคสมัยปัจจุบันยังถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์มากมายเลยทีเดียว
แฟลชไดร์ฟ กับฮาร์ดไดร์ฟแตกต่างกันอย่างไร ใช้ทดแทนกันได้หรือไม่ ?
เมื่อพูดถึงอุปกรณ์จัดเก็บ บันทึกไฟล์ข้อมูลดิจิทัลต่างๆ สำหรับใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อย่างคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ แล็ปท็อป รวมถึงแท็บเล็ต แน่นอนว่าผู้ใช้งานทั่วไปมักคุ้นเคยกับชื่อเรียกของอุปกรณ์อย่างแฟลชไดร์ฟ ฮาร์ดดิสก์ ซึ่งเป็นตัวจัดเก็บข้อมูลที่ถูกนำมาใช้งานกันตั้งแต่ในยุคเริ่มแรกที่มีการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับบุคคลและองค์กรเอกชนทั่วไป ว่ากันง่ายๆก็คือ หากพูดถึงอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บข้อมูลภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ หลายคนก็เข้าใจว่าหมายถึงฮาร์ดดิสก์
ส่องแฟลชไดร์ฟ Type C รุ่นคุ้มค่า สำหรับใช้งานกับสมาร์ทโฟน-แล็ปท็อปเจนฯใหม่
เป็นที่ทราบกันดีว่าการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนอย่างหนึ่งในแวดวงสินค้าไอทีในช่วงไม่กี่ปีหลังนี้ก็คือ พอร์ตการเชื่อมต่อที่ใส่มากับสินค้าเจเนอเรชั่นใหม่ๆ ทั้งในส่วนของสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และแล็ปท็อป หรือโน๊ตบุ๊คจากแบรนด์ต่างๆ ซึ่งมีการใส่พอร์ต USB Type C เข้ามาแทนที่พอร์ตเดิม หรือใส่เพิ่มเติมเข้ามาจากเดิม และนั่นก็ทำให้แก็ดเจ็ตเสริมต่างๆ เช่น แฟลชไดร์ฟ พาวเวอร์แบงค์ มีการปรับตัว ออกรุ่นที่เป็นพอร์ต USB-C หรือเพิ่มพอร์ต USB-C
วิวัฒนาการของการจัดเก็บข้อมูล จากฟล็อปปี้ดิสก์สู่แฟลชไดร์ฟ
ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การเปลี่ยนแปลงที่สําคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการเก็บข้อมูลของยุคสมัยใหม่คือการเปลี่ยนจากฟล็อปปี้ดิสก์ไปเป็นแฟลชไดร์ฟที่ทันสมัยกว่า การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแต่แสดงถึงการพัฒนาของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลในแบบรูปธรรมเพียงเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงการพัฒนาแบบก้าวกระโดดในเรื่องของการเพิ่มความจุข้อมูล ความเร็วในการรับส่งข้อมูล และความสะดวกสบายในการพกพา ในบทความนี้เราจะสํารวจการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยเน้นถึงปัจจัยที่ผลักดันให้
แฟลชไดร์ฟพรีเมี่ยม เลือกอย่างไรถูกใจลูกค้า
การสร้างความประทับใจแรกให้กับลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมายของเรานั้นถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ ของพรีเมี่ยมที่เลือกนำมาใช้นั้นก็อาจจะมีอยู่ด้วยกันมากมายหลากหลายแตกต่างกันออกไป หนึ่งใน Gadget อิเล็กทรอนิกส์สำคัญที่ในปัจจุบันก็ยังคงมอบให้กับลูกค้ากันอยู่ และถือว่าเป็นของที่ได้ผลเป็นอย่างยิ่งเลยก็คือแฟลชไดร์ฟ เนื่องจากแฟลชไดร์ฟ กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญในชีวิตประจำวันสำหรับใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานส่วนตัว ใช้งานเพื่อผ่อนคลาย ฟังเพลง เสียบเข้ากับอุปกรณ์อื่น หรือ
ความเป็นมาและการทำงานของแฟลชไดร์ฟ
แฟลชไดร์ฟ เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบพกพาที่ใช้เทคโนโลยีแฟลชเมมโมรี ในการเก็บข้อมูลไว้ภายในตัวอุปกรณ์ เพื่อให้สามารถเขียนและอ่านข้อมูลได้ด้วยความเร็วสูง แฟลชไดร์ฟนั้นจะมีขนาดเล็ก มากนั้นมีความจุที่แตกต่างกันไปตั้งแต่ไม่กี่เมกะไบต์ (MB) ไปจนถึงไม่กี่เทราไบต์ (TB) และถือเป็นทางเลือกที่สะดวกสะบายในการถ่ายโอนและเก็บข้อมูลของผู้ใช้งานทั่วไป โดยไม่จำเป็นต้องใช้สายเชื่อมต่อเหมือนกับฮาร์ดดิสก์แบบอื่น ๆ