5 เหตุผล ที่ทำให้แฟลชไดร์ฟ เป็นแก็ดเจ็ตจัดเก็บข้อมูลที่ไม่เลือนหายไปตามยุคสมัย
เมื่อพูดถึงอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเสริมสำหรับใช้งานควบคู่กับอุปกรณ์ไอที เช่น คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ แล็ปท็อป แน่นอนว่าผู้ใช้งานหลายคนคงพอจะได้เห็นไทม์ไลน์การเปลี่ยนแปลง และการเลือนหายไปของแก็ดเจ็ตหลาย ๆตัวตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแก็ดเจ็ตจัดเก็บข้อมูลที่เราคุ้นเคยกันในช่วงยุค 2000’s เช่น แผ่น Floppy Disk แผ่น CD, VCD, DVD จะเห็นได้ว่าปัจจุบันแก็ดเจ็ตเหล่านี้ได้เลือนหายไปตามกาลเวลาอย่างสมบูรณ์แล้ว แต่กลับมีแก็ดเจ็ตตัวนึงที่ไม่ได้เลือนหายไปตามกาลเวลา ซึ่งก็คือ”แฟลชไดร์ฟ” ทั้งที่มันถูกริเริ่มใช้งานในช่วงเวลาที่ไล่เลี่ยกับแก็ดเจ็ตตัวอื่น ๆ หลายตัวดังกล่าว ในบทความนี้จึงจะมาเผยถึงเหตุผลให้ได้ทราบกันว่าเพราะอะไรแก็ดเจ็ตที่จัดเก็บไฟล์ข้อมูลที่ถูกริเริ่มใช้กันมาเกินกว่า 20 ปีแล้วอย่างแฟลชไดร์ฟ จึงไม่เลือนหายไปตามกาลเวลาเหมือนเพื่อนร่วมรุ่นรายอื่น ๆ อีกทั้งยังถูกนิยมใช้ทำเป็น GIFT SET เพื่อแจกในงานต่าง ๆ ท่ามกลางทางเลือกการจัดเก็บข้อมูลที่มีให้ผู้ใช้งานได้เลือกใช้มากมายในปัจจุบัน
พื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่ยืดหยุ่นกว่า แม้ว่าแฟลชไดร์ฟจะเป็นแก็ดเจ็ตจัดเก็บข้อมูลที่มีการริเริ่มใช้งานพร้อมๆกับ แก็ดเจ็ตอย่างแผ่น Floppy Disk และแผ่นดิสก์ในรูปแบบ CD ทั้งหลาย แต่สิ่งที่ทำให้แฟลชไดร์ฟ เป็นแก็ดเจ็ตที่มีข้อดีแตกต่างจากแก็ดเจ็ตจัดเก็บข้อมูลตัวอื่น ๆ อย่างชัดเจนก็คือ สถาปัตยกรรมพื้นที่จัดเก็บข้อมูลของตนเองที่มีความยืดหยุ่นในการขยายพื้นที่ได้อย่างง่ายดายนั่นเอง โดยปัจจุบันจะเห็นได้ว่าแฟลชไดร์ฟสามารถยกระดับขนาดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลของตนเองมาถึงระดับเทราไบต์แล้วด้วยซ้ำ ขณะที่แก็ดเจ็ตที่อาศัยสถาปัตยกรรมแบบแผ่นดิสก์นั้นจะถูกจำกัดพื้นที่ด้วยขนาดของแผ่นดิสก์ ทำให้ไม่สามารถขยายพื้นที่จัดเก็บไปเกินกว่าระดับ กิกะไบต์ต้น ๆ ได้ และนั่นก็เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้แฟลชไดร์ฟยังคงอยู่ในยุคสมัยปัจจุบัน แต่แก็ดเจ็ตจัดเก็บข้อมูลตัวอื่น ๆ เลือนหายไป
พอร์ตการเชื่อมต่อที่สะดวก และมีการปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย เหตุผลประการต่อมาที่ทำให้แฟลชไดร์ฟเป็นแก็ดเจ็ตจัดเก็บข้อมูลที่โดดเด่น สะดวกต่อผู้ใช้งานมากกว่าแก็ดเจ็ตจัดเก็บข้อมูลจากเจเนอเรชั่นเดียวกันก็คือ พอร์ตการเชื่อมต่อที่สะดวก และง่ายต่อการปรับเปลี่ยนตามยุคสมัยนั่นเอง เนื่องจากแฟลชไดร์ฟใช้พอร์ตแบบ USB ซึ่งเป็นพอร์ตมาตรฐานของอุปกรณ์ไอทีต่าง ๆ ที่ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมได้หลายชนิด ขณะที่แก็ดเจ็ตชิ้นอื่น ๆ จำเป็นต้องมีพอร์ตการเชื่อมตัวเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น Floppy Disk Drive VCD/DVD Drive ซึ่งนับเป็นภาระของผู้ผลิตอุปกรณ์ไอทีที่ต้องใส่เข้ามาเพิ่มเติม สุดท้ายเมื่อความต้องการใช้งานลดลง ตัวพอร์ตจึงถูกตัดทอนทิ้งไปด้วย
ดีไซน์และขนาดที่สะดวกต่อการพกพา เหตุผลประการต่อมาที่ทำให้แฟลชไดร์ฟยังคงเป็นตัวเลือกการจัดเก็บไฟล์ข้อมูลที่ดีท่ามกลางทางเลือกอีกมากมายในปัจจุบันก็คือ ดีไซน์และขนาดที่สะดวกต่อการพกพาติดตัวนั่นเอง เรียกว่าเป็นแก็ดเจ็ตชิ้นที่ไม่มีอุปสรรคในการพกพาใด ๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขนาด น้ำหนัก หรือหน้าตาดีไซน์ที่ถูกออกแบบมาแตกต่างจากยุคก่อน ๆ อย่างเช่น Pen Usb ที่เป็นได้ทั้งปากกาและแฟลชไดร์ฟ Rubber Usb ที่เป็นแฟลชไดร์ฟยางที่ทั้งเป็นสายรัดข้อมือ พวงกุญแจและสายวัด แต่ก็ยังใช้งานเป็นแฟลชไดร์ฟได้ด้วย
ความเป็นส่วนตัว/ความปลอดภัยของข้อมูล เหตุผลสำคัญต่อมาที่ทำให้แฟลชไดร์ฟยังคงถูกเลือกใช้ทดแทนทางเลือกการจัดเก็บข้อมูลแบบอื่น ๆ ก็คือ ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยข้อมูลนั่นเอง เนื่องจากทางเลือกการจัดเก็บข้อมูลอื่น ๆ ในปัจจุบันมักจะเป็นรูปแบบออนไลน์ หรือพื้นที่กลางที่ให้บริการโดยบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์รายต่าง ๆ ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะถูกแฮ็ก หรือโจรกรรมข้อมูลจากผู้ไม่หวังดีจากทั่วทุกมุมโลก
ความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูล อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้แฟลชไดร์ฟยังคงเป็นแก็ดเจ็ตจัดเก็บข้อมูลที่ถูกเลือกใช้งานในปัจจุบัน และไม่เลือนหายไปตามยุคสมัยก็คือ ความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลที่ยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจนั่นเอง ทั้งนี้แม้ว่าปัจจุบันอุปกรณ์ต่าง ๆ จะมีเทคโนโลยีการโอนถ่ายข้อมูลระหว่างอุปกรณ์แบบไร้สาย แต่ข้อจำกัดนึงที่ทำให้ผู้ใช้งานหลายคนรู้สึกไม่สะดวกก็คือเรื่องของความเร็วนั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับไฟล์ที่มีขนาดใหญ่ การโอนถ่ายผ่านสัญญาณไร้สายมักจะใช้เวลาพอสมควร แต่การโอนถ่ายผ่านแฟลชไดร์ฟนั้นจะเป็นการเชื่อมต่อเขากับพอร์ต USB ของอุปกรณ์นั้น ๆ แบบไดเรค ทำให้โอนถ่ายไฟล์จำนวนมาก หรือไฟล์ขนาดใหญ่ทำได้รวดเร็วกว่า