แฟลชไดร์ฟกับการเลือกใช้งานอย่างไรให้ตอบโจทย์

ในปัจจุบันนี้การที่จะเลือกซื้อของอะไรสักอย่าง เราจะเลือกซื้อตามลักษณะการใช้งาน และความคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปเป็นส่วนใหญ่ เช่นเดียวกับการเลือกซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จะต้องเลือกอย่างระมัดระวังในการเสียเงินไปเพื่อแลกมากับประสิทธิภาพการใช้งาน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีด้วยกันหลากหลายประเภทที่สามารถนำความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวันของเราให้เป็นเรื่องที่ง่ายมากยิ่งขึ้น แฟลชไดร์ฟก็เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่งที่เรามักจะเห็นกันอยู่บ่อย ๆ และมีประโยชน์ต่อการใช้งานเป็นอย่างมาก ในปัจจุบันนี้แฟลชไดร์ฟมีให้เราได้เลือกซื้อตามลักษณะการใช้งานอยู่อย่างมากมาย อย่างเช่น แฟลชไดร์ฟปากกา แฟลชไดร์ฟการ์ด และแฟลชไดร์ฟโลหะ เป็นต้น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญในการศึกษาได้ รวมไปถึงตามบริษัทต่าง ๆ ที่สามารถใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์ (Computer) หรือโน้ตบุ๊ก (Notebook) ได้นั่นเอง ซึ่งเป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยให้การเรียน การทำงาน มีความง่ายมากขึ้นมากกว่าแต่ก่อน และยังพกพาไปได้ในทุก ๆ ที่ เนื่องจากมีน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา แต่ในส่วนของคอมพิวเตอร์จะมีข้อจำกัดการใช้งานที่ไม่สามารถพกพาไปไหนได้ เพราะว่ามีน้ำหนักที่มาก คุณรู้หรือไม่ว่าในการซื้อแฟลชไดร์ฟเราจะคำนึงถึงอะไรเป็นอันดับแรก ในวันนี้เรามาดูกันว่าการเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟอย่างไรให้ตอบโจทย์กับเงินที่เราเสียไปให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด

ก่อนอื่นเลย แฟลชไดร์ฟ มีหน้าที่สำรองข้อมูล หรือสามารถเคลื่อนย้ายข้อมูลอีกที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้ เช่น การเก็บข้อมูลเอกสารต่าง ๆ เก็บไฟล์รูปภาพ เสียง และวีดีโอ เป็นต้น เมื่อคนต้องการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ประเภทนี้กันมาก ทำให้การผลิตมีจำนวนที่มากขึ้น และยังช่วยให้ลูกค้าอย่างเรามีทางเลือกในการตัดสินใจที่จะเลือกซื้อสินค้าได้หลากหลาย นอกจากนี้เรายังมีเทคนิคในการเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟให้ทุกท่านพิจารณากันอย่างคร่าว ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า

ความจุ เป็นสิ่งแรกที่เราทุกคนพิจารณาในการตัดสินใจที่จะเลือกซื้อสินค้าเป็นอันดับแรก ความจุของแฟลชไดร์ฟที่เรามักจะเห็นกันคุ้นตาก็จะมี MB GB และTB เรียงจากน้อยไปหามาก แล้วแต่ว่าจะเลือกซื้อให้ตรงกับลักษณะการใช้งานมากน้อยแค่ไหน ถ้าหากยิ่งมีความจุมาก ราคาก็จะแพงมากขึ้น ถ้าหากใครต้องการที่จะเก็บไฟล์งานเอกสารที่ใช้งานทั่วไป ๆ ควรใช้ความจุตั้งแต่ 4 GB จนไปถึง 16 GB ก็เพียงพอแล้ว

ความเร็วในการอ่าน และเขียนข้อมูลของแฟลชไดร์ฟ หรือเรียกอีกอย่างว่า การถ่ายโอนข้อมูล ซึ่งในการอ่านจะมีความเร็วมากกว่าการเขียนเหมือนกับมนุษย์เรา จะมีระบุไว้ที่ Read Speed และ Write Speed เช่น Read Speed 200MB/s, และWrite Speed 500MB/s, เป็นต้น ทั้งนี้ก็อาจจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับทุกกรณี ควรที่จะไปดูตรงที่ขนาดไฟล์ของแต่ละก้อนถึงจะมีความแน่นอนมากกว่า

การเชื่อมแฟลชไดร์ฟเข้ากับอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ประเภทอื่น ๆ ที่ต้องใช้งานร่วมด้วยถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ เนื่องจากเราจะต้องมีการโอนย้ายของข้อมูล นอกจากนี้ในการเชื่อมต่อไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นยังมีตัวพอร์ต USB ที่ในปัจจุบันนี้สามารถใช้งานเข้ากับแฟลชไดร์ฟได้

คุณสมบัติพิเศษ คุณสมบัติในลักษณะแบบนี้หาได้แค่บางรุ่นเพียงเท่านั้น แฟลชไดร์ฟไม่ได้เพียงแค่จัดเก็บไฟล์ข้อมูล หรือโอนย้ายไฟล์งานเพียงอย่างเดียว แต่บางรุ่นยังมีคุณสมบัติที่พิเศษ คือ สามารถฟังเพลงแบบ MP3 ได้ โดยจะมีรูเล็ก ๆ ในการเสียบหูฟังลงไป หรือบางรุ่นก็สามารถบันทึกเสียงได้อีกด้วย

นอกจากนี้การใช้เทคนิคต่าง ๆ ในการเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟมีอยู่อีกมาก แล้วแต่ตามลักษณะการใช้งานของผู้ที่ต้องการใช้ การเลือกซื้อสินค้าที่มีความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการใช้งานรวมไปถึงเงินที่เราต้องเสียไปจากการเลือกซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภทเป็นสิ่งที่เราจะมองข้ามไปไม่ได้โดยเด็ดขาด

Leave Comment