แฟลชไดร์ฟแบบไหนดี ?

ใครว่าแฟลชไดร์ฟที่ดีจำเป็นที่จะต้องขายตามห้าง หรือร้านดัง ๆ แต่คงไม่ใช่อย่างนั้นเสมอไป แฟลชไดร์ฟที่ดีคือ แฟลชไดร์ฟที่มีประสิทธิภาพการใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม เหมาะสมกับราคาที่เราจะต้องเสียไป เพื่อนำมาใช้ในการทำงาน แฟลชไดร์ฟก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่คนส่วนใหญ่เลือกที่จะใช้งานแทนอุปกรณ์บางประเภท เนื่องด้วยแฟลชไดร์ฟมีประโยชน์ในการใช้งานอยู่อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การโอนย้ายข้อมูลอีกเครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง และการจัดเก็บข้อมูลได้ในระยะเวลานาน เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้คนส่วนใหญ่เลือกใช้งานกันเป็นจำนวนมาก หรือเรียกอีกอย่างว่าแฟลชไดร์ฟทางเลือกนั่นเอง ในการเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟสักอันนั้น จำเป็นอย่างมากที่จะต้องทำการศึกษาเกี่ยวกับแฟลชไดร์ฟที่จะนำมาใช้งาน เพื่อให้การทำงานของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น แฟลชไดร์ฟถูกผลิตขึ้นมาหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น แฟลชไดร์ฟโลหะ แฟลชไดร์ฟไม้ และแฟลชไดร์ฟปากกา รวมไปถึงมีการจัดทำ Gift set แฟลชไดร์ฟขึ้นมา เพื่อให้ลูกค้าได้มีช่องทางในการเลือกซื้อสินค้าเพิ่มมากขึ้น

ในการเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟเราควรเลือกซื้อกับแหล่งที่ผลิต และจัดจำหน่ายแฟลชไดร์ฟที่มีความน่าเชื่อถือ และที่สำคัญจะต้องมีความปลอดภัยในการใช้งาน เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่าง ๆ ขึ้นมาในภายหลัง แฟลชไดร์ฟสามารถหาซื้อได้ตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วไปที่จำหน่าย ไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า แหล่งที่ผลิต และจัดจำหน่ายแฟลชไดร์ฟ และตามช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ทาง Social Media สำหรับคนที่ต้องการเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟ เพื่อนำไปใช้งานแต่ยังไม่รู้วิธีการเลือกใช้งานที่ถูกต้อง แบบไหนถึงจะดี หรือแบบไหนที่ไม่ควรซื้อมา ในวันนี้เรามีวิธีการเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟแบบเบื้องต้น ไม่ว่าใครก็สามารถนำไปใช้ได้

  1. เลือกความจุให้เหมาะสมกับการใช้งาน

ก่อนเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟ ต้องดูการใช้งานของผู้ใช้งานเป็นหลัก ว่าปกติแล้วเน้นการใช้งานแบบไหน ถ้าใช้เก็บเพียงแค่ไฟล์งานเอกสาร รูปภาพเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เลือกความจุประมาณ 4-8 GB ก็เพียงพอ แต่หากคุณต้องการเก็บพวกไฟล์หนัง เพลง  หรือไฟล์ที่มีขนาดใหญ่ ควรซื้อที่ความจุประมาณ 16 GB ขึ้นไป จะได้ประหยัดเงินไปภายในครั้งเดียว

  1. คำนึงถึงความปลอดภัย และการรับประกัน

หากใช้งานแฟลชไดร์ฟสำหรับการโอนถ่ายข้อมูลระหว่างโน๊ตบุ๊ค หรือ คอมพิวเตอร์ที่บ้าน ไม่ได้ใช้งานในที่สาธารณะ สามารถเลือกใช้แฟลชไดร์ฟแบบปกติทั่วไป แต่ถ้าหากคุณจำเป็นต้องใช้งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์สาธารณะ หรือในสำนักงานที่มีหลายคนใช้ร่วมกัน คุณควรเลือกซื้อ USB ที่สามารถป้องกันข้อมูลของคุณได้ เช่น มีการใส่รหัสผ่าน สแกนลายนิ้วมือ หรือป้องกันการโอนถ่ายไวรัส และมัลแวร์ เป็นต้น นอกจากนั้นคุณควรดูด้วยว่า แบรนด์ที่ซื้อมามีการรับประกันหลังการขายอย่างน้อย 1 ปี จนถึงตลอดการใช้งาน เพราะถ้าแฟลชไดร์ฟที่คุณใช้เกิดมีปัญหาขึ้นมา ทำให้ข้อมูลต่าง ๆ ของคุณอาจได้รับความเสียหายได้

  1. วัสดุที่ใช้ผลิต

ไม่ว่าคุณจะเลือกซื้อรุ่นที่สามารถป้องกันข้อมูลได้ดีแค่ไหน ถ้าวัสดุที่ใช้ผลิตแฟลชไดร์ฟนั้นไม่ดี ไม่แข็งแรง เป็นพลาสติก เผลอทำหล่น ก็อาจจะทำให้ข้อมูลเสียหายได้ ควรเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟที่ใช้อลูมิเนียม หรือวัสดุที่มีความแข็งแรงเป็นเคสด้านนอก มีหัว หรือฝาปิดป้องกันตัวด้านใน ถ้าเป็นไปได้ควรเลือกซื้อแบบกันน้ำได้ แต่ราคาอาจจะค่อนข้างสูง

  1. ราคาคุ้มค่ากับความจุ

ในส่วนของราคาที่ซื้อแฟลชไดร์ฟจะต้องมีความสมเหตุสมผล คุ้มกับความจุในการนำมาใช้งาน อย่างเช่น ถ้าใช้งานปกติทั่วไป เก็บไฟล์งานเอกสารอย่าง Word, PDF, เพลง หรือรูปภาพ ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน แต่ถ้ามีงบเพิ่มขึ้นมาอีกสัก  1,000-2,000 บาท ก็จะซื้อแฟลชไดร์ฟที่มีความจุประมาณ 32 GB-64 GB (USB 3.0) มาไว้ใช้งานได้ก็เพียงพอแล้ว

จากข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้กล่าวไปข้างต้นเป็นวิธีในการเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟว่าควรเลือกซื้อแบบไหนถึงจะดี และเกิดกาความคุ้มค่าได้มากที่สุด เนื่องจากในปัจจุบันมีการวางขายแฟลชไดร์ฟในยี่ห้อต่าง ๆ ออกมาอย่างมากมาย ทำให้เราจำเป็นที่จะต้องรู้วิธีการเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟอย่างถูกต้องได้ไม่มากก็น้อย

ผลงานแฟลชไดร์ฟ 

Leave Comment