วิธีเพิ่มความปลอดภัยให้กับแฟลชไดร์ฟ
ปัจจุบันแฟลชไดร์ฟถูกใช้สำหรับเก้บข้อมูลที่สำคัญต่างๆมากมาย หลายคนมักจะใช้แฟลชไดร์ฟเพื่อทำการถ่ายโอนข้อมูลต่างๆจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปสู่อีกเครื่อง แต่นั้นอาจจะเป็นสาเหตุให้แฟลชไดร์ฟของคุณไม่ปลอดภันเพราะแฟลชไดร์ฟที่ดีจะต้องมีความปลอดภัยของข้อมูลภายในเป็นหลัก ฉะนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีเพิ่มความปลอดภัยให้กับแฟลชไดร์ฟของคุณเอง
Flash Drive คืออะไร ?
ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทุกคนต้องเคยเห็นเจ้าอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี เรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์คู่ใจในการทำงานกันเลยทีเดียว และเจ้าอุปกรณ์แท่งเล็กอันนี้ก็มีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไปทั้งๆที่คุณสมบัติและการทำงานของมัน เรียกได้ว่าเหมือนกันไปหมด แต่ชื่อของมันกลับมีออกมามากถึง4ชื่อด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Flash Drive, Handy Drive, USB Drive, และ Thumb Drive ซึ่งอุปกรณ์ที่เรียกว่า Flash Driveนี้เป็น
Mini PC คอมพิวเตอร์สมัยใหม่
ปกติแล้ว แนวคิดในเรื่องของการใช้คอมพิวเตอร์มักจะเป็นในแง่ที่ว่า ต้องมีขนาดที่ใหญ่ และสำหรับพวกอุปกรณ์อย่างโน๊ตบุ๊คถือว่าเป็นอะไรที่ไม่คู่ควรต่อการใช้งานหนัก ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมส์ หรือเป็นการ ทำงานหนักจริงๆจังๆ อาจจะเป็นเพราะ ลักษณะที่ไม่สามารถระบายอากาศได้ดี หรือ อาจจะเป็นเพราะ ลักษณะที่ไม่เอื้อต่อการใช้ประโยชน์จากช่องหัวปลั๊กต่อ USB ที่เรามักจะใช้ในการโอนถ่ายข้อมูลด้วย แฟลชไดร์ฟ ไม่ว่าจะข้อไหนก็ตาม แนวคิดในเรื่องของ Mini PC ก็ยังคงเป็นเรื่องที่ห่างไกลอยู่ดี แต่ถ้านั่นเป็นเมื่อ 10 ปี ที่แล้วนะ Mini PC ในยุคปัจจุบัน ไมว่าจะเป็นอย่างรุ่น Kangaroo Plus Mobile Desktop ที่มีประสิทธิภาพสูงอย่างน่าประหลาดใจ หรือ จะน้องจิ๋วอย่าง Intel Computer Stick ซึ่งถึงแม้ว่าจะดูเล็กจนไม่น่าเชื่อว่าเป็นคอมพิวเตอร์จริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นมันยังมีออพชั่นพื้นฐานอย่าง ช่อง USB สำหรับการโอนถ่ายข้อมูลด้วย แฟลชไดร์ฟ ด้วยเหมือนกัน หรือถ้าหากว่าคุณเป็นนักพัฒนาอิสระแล้วล่ะก็ โครงการอย่าง Raspberry Pi ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการสร้าง Mini PC ด้วยตัวเองได้เหมือนกัน อย่างที่เราได้พูดถึงไปนั่นแหละ ว่าในยุคสมัยนี้ […]
แฟลชไดร์ฟ หรือ ไมโคร SD
เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว สื่อในการจัดเก็บข้อมูลระหว่าง ถูก-แพง คือ ดิสก์เก็ต-แผ่นซีดี/ดีวีดี แต่สำหรับในปัจจุบันนี้ เราได้เปลี่ยนไปกลายเป็นระหว่าง แฟลชไดรฟ์-ไมโคร SD แทน สำหรับบทความนี้เราจะมาว่าถึงการเปรียบเทียบ ตัวเก็บข้อมูลสองตัวให้หลังอ่าง แฟลชไดรฟ์ กับ ไมโคร SD ว่ามีความต่าง และความเหมาะสมต่อการใช้งานอย่างไรได้บ้าง แฟลชไดร์ฟ ตามเทคนิคแล้ว USB แฟลชไดร์ฟ คือ ตัวรับส่งข้อมูลที่สามารถถอด-ใส่ได้ผ่านทางหัวปลั๊กเชื่อมต่อ USB โดยส่วนมากแล้ว แฟลชไดร์ฟ จะสามารถเข้ากันได้กับระบบส่วนใหญ่ที่มีหัวปลั๊ก USB ติดตั้งอยู่ ไม่ว่าจะเป็น วินโดว์, แม็ค หรือ ลินุกซ์ก็ตามโดยข้อมูลที่สามารถจัดเก็บได้มีตั้งแต่ขั้นต่ำสุด 128 MB ถึง 1 TB ในยุคปัจจุบัน โดยหัวปลั๊กที่รองรับ แฟลชไดร์ฟ ในยุคปัจจุบันคือ หัวต่อแบบ 2.0 และ 3.0 ซึ่งที่หัวต่อแบบไหม่สุด จะช่วยทำให้การส่งถ่ายข้อมูลได้ไหวขึ้น และรวมไปถึงรับข้อมูลที่ต้องรับส่งได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งตัว แฟลชไดร์ฟ […]
E-Medias แนวคิดสำหรับสื่อสมัยใหม่เพื่อคนรุ่นใหม่
หนังสือคือสื่อที่มีมาตั้งแต่ยุคสมัยโบราณแล้ว โดยรูปแบบของหนังสือ คือการบันทึกเนื้อหา, ข้อมูลต่างๆ ลงไปบนแผ่นกระดาษก่อนที่จะไสหรือเย็บกระดาษเหล่านั้นให้เป็นรูปเล่ม ซึ่งหนังสือนั้นอยู่กับเรามานานมาก และพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆตามความก้าวหน้าของยุคสมัย แต่เราปฏิเสธไม่ได้ว่า การจะทำหนังสือนั้นต้องใช้กระดาษ ซึ่งนั่นหมายถึงการตัดต้นไม้มาเพื่อทำหนังสือขึ้นมา แต่สิ่งสำคัญที่เราจะกล่าวถึงในบทความนี้ ไม่ใช่เรื่องของ รักษณ์โลกเพียงอย่างเดียว แต่เรากำลังจะพูดถึงทางเลือกใหม่ที่สามารถที่จะให้ประโยชน์ได้ทั้งกับผู้บริโภคและผู้ผลิตสื่อต่างหาก เราจะไม่เจาะลึกลงไปที่รายละเอียดข้อมูลแบบกราฟ หรืออะไรทำนองนั้นมาก แต่เราอยากลองให้ผู้อ่านลองคิดตามว่า ถ้าเราต้องการที่จะตีพิมพ์หนังสือเล่มหนึ่ง เราต้องผ่านอะไรมาอย่างคร่าวๆบ้าง? สมมติว่าเราผ่านกระบวนการในการตรวจสอบเนื้อหาเรียบร้อยแล้ว เราต้องนำต้นไม้ไปผ่านกระบวนการแปรรูปเป็นกระดาษ, กระดาษต้องถูกนำมาคัดแบ่งเป็นเกรดและขนาด, ต้องมีการตรวจสอบอุปกรณ์การพิมพ์, การพิมพ์เกิดขึ้น, กระดาษที่ถูกพิมพ์แล้วถูกจัดเข้ารูปเล่มไม่ว่าจะผ่านทางการไสกาวหรือการเย็บเป็นรูปเล่มก่อนที่จะถูกนำไปเข้าสู่กระบวนการส่งออกไปจำหน่ายให้กับร้านหนังสือต่างๆ ขั้นตอนและกระบวนการต่างๆที่กล่าวมาในที่นี้ ซึ่งยังไม่รวมถึงกระบวนการยิบย่อยอีกมากมาย ใช้ทั้งเวลาและเงินจำนวนไม่ใช้น้อยๆเพื่อให้กระบวนการทั้งหมดนี้เป็นไปอย่างลื่นไหล คราวนี้ลองจินตนาการดูซิว่า ถ้าหากเราเกิดตัดกระบวนการเหล่านี้ออกไป เราจะยังสามารถที่จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปถึงเหล่าผู้บริโภคได้หรือไม่ ถ้าเป็นเมื่อก่อนอาจจะไม่ แต่สมัยนี้ คำตอบคือ ใช่ ด้วย E- medias E – medias เป็นคำเรียกรวมๆของสื่อสมัยนี้ที่ผู้บริโภคสามารถที่จะเข้าถึงได้อย่างง่ายดายสืบเนื่องมาจากความรวดเร็วของการเชื่อมต่อทางอินเตอร์เน็ต และเทคโนโลยีที่เอื้อต่อการจัดเก็บข้อมูลที่ซื้อมาอย่าง แฟลชไดร์ฟ หรือจะจัดเก็บเอาไว้ใน “คลาวด์” ก็ได้เหมือนกัน และด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสมัยนี้ ขอเพียงแค่เรามีอุปกรณ์ที่สามารถใช้งานกับ แฟลชไดร์ฟ เราสามารถที่จะมีห้องสมุดขนาดเล็กอยู่ใน แฟลชไดร์ฟ อันเล็กจิ๋วของเราได้ สำหรับในส่วนของผู้ผลิต ด้วยกระบวนการจัดจำหน่ายที่ถูกตัดออกไป […]
เผลอลบไฟล์งานในแฟลชไดร์ฟไปแล้ว..ทำไงดี ?
แฟลชไดร์ฟ เป็นนวัตกรรมที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อจัดเก็บบันทึกข้อมูลต่างๆไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบของเอกสาร รูปภาพ วีดีโอ เสียง ด้วยขนาดที่เล็ก พกพาสะดวก รวมถึงความเอนกประสงค์อันทรงพลังของแฟลชไดร์ฟ ทำให้มันได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วและแพร่หลาย จนทุกวันนี้มันเป็นอุปกรณ์คู่ชีพของมนุษย์ไอทีทั้งหลาย การถูกนำมาใช้งานบ่อยและใช้อย่างหลากหลาย แน่นอนว่าย่อมที่จะมีโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดได้ เราอาจจะมือเร็ว ตาลาย เผลอหรือพลาดไปลบไฟล์ใดไฟล์หนึ่งแบบไม่ได้ตั้งใจ และบังเอิญเหลือเกินที่ไฟล์นั้นดันเป็นไฟล์สำคัญที่ชนิดมีหนึ่งเดียวในโลก ถ้าหากหายไปนั่นหมายถึงอนาคตของเราจะดับวูบตามมันไปด้วย แต่สำหรับการบันทึกลงในแฟลชไดร์ฟ วิบากกรรมเหล่านี้มันจะผ่านพ้นไปได้ด้วยโปรแกรม RECUVA Pro ซึ่งเป็นเสมือนของวิเศษจากกระเป๋าโดเรม่อนกันเลยทีเดียว ขั้นตอนการกู้ไฟล์ในแฟลชไดร์ฟคืนด้วยโประแกรม RECUVA Pro เพื่อกู้ข้อมูล ที่เสียหายกลับมาอยู่ในแฟลชไดร์ฟดังเดิม มันง่ายแสนง่ายในการทำเรื่องพวกนี้แม้ว่าในอดีตเราจะไม่เคยพานพบประสบเจอกับการทำอะไรระดับเทพแบบนี้มาก่อน แต่ด้วยขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน แม่ค้าขายกล้วยทับน้ำกะทิอย่างเราๆก็สามารถทำได้ด้วยตัวเองแบบเมินโปรแกรมเมอร์ไปได้เลย ขั้นตอนแรก เราต้องดาวน์โหลดโปรแกรม Recuva Pro มาติดตั้งในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราก่อน ซึ่งโปรแกรมนี้เราสามารถดาวน์โหลดฟรีตามเว็ปที่แจกโปรแกรมฟรีทั่วไป เมื่อดาวน์โหลดเสร็จให้ดูที่มุมล่างซ้ายมือ จะเห็นช่อง Recuva Pro เมื่อเอาเมาส์ไปแตะจะเห็นแถบโชว์ขึ้นมา ให้คลิกขวาตรง Show in folder จากนั้นเลือกที่โฟลเดอร์ Recuva Pro… คลิกขวาอีกทีเพื่อ เลือกที่ Extract to Recuva Pro เมื่อเข้าไปในโฟลเดอร์ […]
ดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ ดูแฟลชไดร์ฟแท้ๆต้องดูตรงไหน
ถ้าคู่ชีวิตในแง่ความรัก เราคงต้องทำความรู้จักกับคนๆนั้นให้ลึกซึ้งฉันใด ถ้าเลือกคู่ชีวิตในแง่ของการทำงานเราคงต้องทำความรู้จักกับแฟลชไดร์ฟฉันนั้น คำเปรียบเปรยที่ดูไม่ค่อยจะเข้ากันแต่มันทำให้เห็นภาพได้ชัดขึ้น เพราะการเลือกแฟลชไดร์ฟมาใช้คู่กายซักอันมันก็ไม่ต่างอะไรกับการเลือกคู่ครอง และอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำไป เพราะแฟลชไดร์ฟมักจะอยู่ติดหรือใกล้ตัวเราตลอดเวลา เรียกได้ว่าเจอกันบ่ออยกว่าเมียด้วยซ้ำไป นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงต้องเลือกแฟลชไดร์ฟกันให้ดีๆ เพราะอนาคตการงานของเราปัจจุบันนี้มักฝากข้อมูลงานสำคัญไว้ในแฟลชไดร์ฟแทบทั้งสิ้น อย่างนี้ใช่มั้ยที่เขาเรียก “อนาคตอยู่ในมือเรา” เราเลยจำเป็นจะต้องมีข้อมูลในการเลือกซื้เลือกใช้กันพอสมควร อันแรกเลยคงต้องดูที่ความจุ ความจุของแฟลชไดร์ฟขอบอกว่ายิ่งสูงยิ่งหนาว ยิ่งยี่ห้อดังๆยิ่งหนาวไปถึงกระดูกต้นคอกันเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามเราควรเลือกความจุให้เหมาะสมกับปริมาณงานและการใช้งานจะดีกว่า เพราะถ้าไม่ได้ใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่ากับราคา ก็ไม่ต่างอะไรกับการทิ้งเงินลงทะเลเปล่าๆ เช่น ถ้าเป็นพนักงานออฟฟิตหรือนักเรียนนักศึกษา หรือใช้เก็บพวกเพลงต่างๆไว้ฟังในรถ ใช้ความจุเพียงแค่ 4-8 กิ๊กก็น่าจะเพียงพอ แต่ถ้าเน้นเอาไว้ใช้งานเก็บพวกรูปภาพต่างๆก็ขยับขึ้นมาหน่อยเป็น 8 กิ๊ก ข้อต่อมาคงต้องมองความเร็วในการเชื่อมต่อ โดยทั่วไปถ้าตัวเชื่อมต่อเป็น USB เวอร์ชั่น 2.0 ก็ถือว่าดีมากแล้ว สำหรับการใช้ในงานเอกสารต่าง ๆ ส่วนเวอร์ชั่น 3.0 คงต้องให้เป็นงานพวกไฟล์ขนาดใหญ่เช่นรูปภาพหนัง อีกข้อสำคัญที่ต้องคำนึงถึงนั่นคือ ขนาดและดีไซน์ อันนี้ขึ้นออยู่กับความชอบของแต่ละคน แต่โดยหลักๆแล้วคงต้องมองว่าขนาดของแฟลชไดร์ฟที่ใหญ่เกิดไปหรือมีดีไซน์ที่เยอะแบบเว่อร์วังอลังการ อาจจะไปบังพอร์ทของช่องอื่นๆทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งต้องขอบอกว่าเป็นความผิดอย่างแรง เพราะมันจะกลายเป็นเนื้องอกของเครื่องคอมของเราทันที อีกข้อที่น่าสนใจ การรับประกันตัวแฟลชไดรฟ์ เมื่อเกิดความเสียหายหรือใช้งานไม่ได้ เราสามารถส่งเคลมสินค้าได้ทันที ถึงแม้ว่างานจะเสียหายไปด้วยแต่อย่างน้อยๆเราก็ได้อุปกรณ์เก็บข้อมูลอันใหม่มาใช้งาน เงินไม่สูญเปล่าแน่นอน ส่วนสุดท้ายเป็นคุณสมบัติพิเศษอื่นที่ทำให้แฟลชไดร์ฟของเราดูทรงคุณค่ามากขึ้น เช่น มีโปรแกรมสแกนลายนิ้วมือเจ้าของ […]
ใช้งานแฟลชไดร์ฟ อย่างถูกวิธี ชีวิตนี้ไม่มีพัง
แฟลชไดรฟ์หลายคนจะมองว่าเป็นเพียงแค่อุปกรณ์ที่ใช้เพียงช่วยในการโอนถ่ายข้อมูล จากกล้อง จากมือถือ หรืออุปกรณ์ ไอทีต่างๆเท่านั้น การใช้งานของเราจึงไม่ค่อยได้ใส่ใจมากว่า แฟลชไดรฟ์ จะทนมือทนเท้าเราไปได้อีกนานเท่าไหร่ ยิ่งเดี๋ยวนี้ แฟลชไดรฟ์ มีออกมามากมายหลายแบบให้เราเลือกใช้ และ แทบทุกอุปกรณ์ไอทีต้องมี พอร์ท USB ติดมาด้วยเสมอ เพื่อให้เราใช้งานได้อย่างง่ายขึ้น แต่จริง ๆ แล้ว เจ้าอุปกรณ์เก็บข้อมูลตัวนี้ ใช้งานได้อยางยาวนานเกินกว่าที่เราจะรู้ด้วยซ้ำไป โดยทฤษฏีแล้ว อายุการใช้งานของมันมากโขอยู่ทีเดียว ซึ่ง จากข้อมูล สามารถใช้ได้ถึง ล้านครั้ง มันมากใช่ไหมละ แต่เรารู้อีกหรือเปล่าว่า ถอด 1 ครั้ง เสียบ อีกครั้ง ก็เท่ากับ 2 ครั้งเข้าไปแล้ว และ การทำงานที่ต้องมีการทำติดกันเช่น การใช้งานฟังชั่นต่าง ๆ ใน word excel หรือ โปรแกรมอะไรก็แล้ว แต่ทุกระยะการทำงานก็นับ หนึ่งครั้ง แปลว่า อายุมันก็ไม่ได้ยาวมากขนาดนั้นนั่นเอง และเพราะ ทุกการใช้งานต้องมีไฟเข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ แฟลชไดรฟ์จึงยิ่งมีอายุสั้นเข้าไปอีก เพราะความเสื่อมจากการสปาร์คของประจุไฟนั่นเอง […]
เทคนิคการเลือกแฟลชไดร์ฟที่เหมาะสมต่อการใช้งาน
แฟลชไดร์ฟถือว่าเป็นอุปกรณ์บันทึกข้อมูลและไฟล์ดิจิตอล ซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมากในปัจจุบัน แต่ละคนนั้นก็มีความจำเป็นที่จะต้องใช้งานแฟลชไดร์ฟไม่เหมือนกัน อาจจะเป็นเพื่อบันทึกงาน ไฟล์เอกสาร ไฟล์วีดีโอ ไฟล์เพลง ซึ่งแต่ละคนนั้นจำเป็นต้องใช้แฟลชไดร์ฟเพื่อใช้งานให้เหมาะสมมากที่สุด แต่แฟลชไดร์ฟนั้นมีหลายแบบ มีการใช้งานที่ต่างกันออกไปด้วย เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นต้องเลือกใช้งานให้เหมาะสมและคุ้มค่าเหมาะกับประเภทของแฟลชไดร์ฟมากที่สุด เพราะหากเลือกแฟลชไดร์ฟผิดประเภทก็จะทำให้ใช้งานได้ไม่เต็มที่ และอาจจะส่งผลเสียต่องานของเราได้อีกด้วย และแน่นอนว่าเรามีเทคนิคการเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟที่เหมาะสมต่อการใช้งานมาฝากทุกคนกันในบทความนี้ด้วย ไปดูเทคนิคที่ว่ากันเลย เทคนิคการเลือกแฟลชไดร์ฟที่เหมาะสมต่อการใช้งาน 1.ให้คำนึงถึงการใช้งานเป็นหลัก เวลาเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟเราต้องคิดด้วยว่าจะนำไปใช้งานอะไร เช่นใช้บันทึกไฟล์เอกสารเท่านั้น ควรเลือกแบบที่มีความจุ 1-2 GB หาเลือกแบบใส่วีดีโอเท่านั้น ควรเลือกแบบที่พกพาง่าย ความจุสูงสามารถรองรับการใช้งานในเครื่องเล่นประเภทต่างๆได้ แต่หากไว้ใช้เก็บความลับ เอกสารสำคัญ ควรเลือกแบบที่สามารถตั้งรหัสเพื่อรักษาข้อมูลภายในได้ ใช้ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ควรเลือกแอร์การ์ดจากค่ายต่างๆนั้นเอง 2.คำนึงถึงขนาดความจุ ถ้าเป็นไปได้การเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟที่มีความจุสูงไว้ก่อนจะดีกว่า เพราะสามารถนำไปใส่ข้อมูล วีดีโอ หรือรูปภาพต่างๆได้อย่างไม่จำกัด อีกทั้งยังสามารถนำไปดัดแปลงใช้ได้ด้านอื่นๆได้อีกด้วย 3.มาตรฐานการผลิตแฟลชไดร์ฟ จัดว่าเป็นสิ่งสำคัญเลยก็ว่าได้ในการเลือกซื้อของอื่นๆรวมถึงแฟลชไดร์ฟด้วย เพราะหากสินค้ามีคุณภาพย่อมการันตีอายุการใช้งานได้ อีกทั้งบางแบรนด์ก็มีประกันคุณภาพอีกด้วย 4.รูปลักษณ์ภายนอกของแฟลชไดร์ฟ ควรเลือกแบบที่มีขนาดพอเหมาะ ไม่ใหญ่เกินไป สามารถพกพา ความแข็งแรงทนทาน สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ทุกเครื่อง ได้สะดวกซึ่งปัจจุบันแฟลชไดร์ฟนั้นมีหลายแบบ ทั้งแบบตัวการ์ตูน น่ารัก แบบคริสตัลขนาดเล็กสวยงาม แบบแฟชั่นที่อินตามแทรนด์ และแบบอื่นๆมากมาย ซึ่งสามารถเลือกได้ตามความชอบ 5.ราคาของแฟลชไดร์ฟ เป็นปัจจัยสุดท้ายที่ควรคำนึงถึง […]
แฟลชไดร์ฟมีกี่แบบ
แฟลชไดร์ฟเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการบันทึกข้อมูล ไฟล์งานเอกสาร ไฟล์เพลง ไฟล์วีดีโอและอื่นๆมากมาย ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากมีข้อดีหลายอย่าง แต่ทุกท่านทราบกันหรือไม่ว่า แฟลชไดร์ฟนั้นมีหลายแบบมาก ซึ่งแบ่งได้ 2 ประเภทด้วยกันคือแบ่งตามการใช้งานที่มีแยกย่อยออกไปอีกเพียบ และแบ่งตามรูปแบบภายนอก ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักแฟลชไดร์ฟประเภทแบ่งตามการใช้งานว่า มีข้อดี ข้อเสียหรือไม่ แบบไหนได้รับความนิยม แล้วแฟลชไดร์ฟที่คุณใช้งานนั้นอยู่ในประเภทไหนบ้าง ตามไปดูประเภทแบ่งตามการใช้งานนั้นเอง ไปดูกันเลยว่าประเภทนี้มีแยกย่อยออกเป็นกี่แบบกันแน่ ประเภทแฟลชไดร์ฟแบ่งตามการใช้งานแบ่งได้ดังนี้ 1.แฟลชไดร์ฟเพื่อความปลอดภัย เป็นเฟลชไดร์ฟที่มีความจำเป็นต้องกรอกรหัสและอาจจะต้องใส่รหัสเพื่อเปิดส่วนเก็บข้อมูลและเข้าถึงข้อมูลของเนื้อหาภายในแฟลชไดร์ฟ ซึ่งส่วนใหญ่นิยมใช้ในงานราชการต่างๆที่เป็นความลับหรือในงานวิจัยที่จำเป็นต้องเก็บเป็นความลับ หรืองานต่างๆมากมาย 2.แฟลชไดร์ฟที่บรรจุเฉพาะเพลง เป็นแฟลชไดร์ฟที่ใช้ในการใส่ไฟล์เพลง หรือบันทึกเพลง เสียงต่างๆ ซึ่งอาจจะสามารถย้ายไฟล์เพลงจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง หรือสามารถเชื่อมต่อพอร์ตหูฟังไว้ใช้ในการฟังเพลงได้ 3.แฟลชไดร์ฟสำหรับเริ่มระบบ เป็นแฟลชไดร์ฟที่ใช้ในการบันทึกโปรแกรมทั้งหลาย เมื่อเสียบเข้าสู่คอมพิวเตอร์ก็จะรันโปรแกรมและเริ่มการติดตั้งจนสำเร็จ ซึ่งส่วนใหญ่แฟลชไดร์ฟนี้จะมาพร้อมโปรแกรมติดตั้งสำเร็จรูป ไม่สามารถนำแฟลชไดร์ฟไปใช้งานอย่างอื่นได้ 4.แฟลชไดร์ฟเพื่อการเชื่อมต่อ หรือแอร์การ์ดเป็นแฟลชไดร์ฟที่ใช้ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นแบบใหม่ที่ได้รับความนิยมมากพอสมควร เมื่อเสียบเข้าสู่คอมพิวเตอร์แล้วเข้ารหัสเชื่อมต่อ ก็จะสามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ในความเร็วที่กำหนดไว้ และยังมีแบบที่ใช้เชื่อมต่อข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์ 2 เครื่องได้อีกด้วยแต่ไม่ได้รับความนิยมมากนัก 5.แฟลชไดร์ฟใช้บันทึกข้อมูล เป็นแฟลชไดร์ฟธรรมดาที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบันเพราะสามารถบันทึกข้อมูลได้ทุกแบบทั้งไฟล์เอกสาร ไฟล์เสียง ไฟล์วีดีโอ ไฟล์แบบงาน และไฟล์อื่นๆซึ่งสามารถนำไปใช้งานกับคอมพิวเตอร์ได้ทุกเครื่องอีกด้วย มีราคาไม่แพง มีรูปร่างหลากหลายอีกด้วย 6.แฟลชไดร์ฟใช้บันทึกวีดีโอ เป็นแฟลชไดร์ฟที่ใช้เพื่อการบันทึกหนัง หรือวีดีโอเท่านั้น มีจำนวนหน่วยความจำที่สูงมาก […]
แฟลชไดร์ฟคืออะไร
เชื่อว่าหากพูดถึงอุปกรณ์ขนาดเล็กที่ใช้บันทึกเพลง วีดีโอ บทความ และอื่นๆทุกคนต้องรู้จักกันดีอยู่แล้ว สำหรับตัวเก็บข้อมูลที่มีขนาดเล็กที่ชื่อว่า แฟลชไดร์ฟ มีหน้าที่ในการบันทึกข้อมูลต่างๆ คัดลอกไฟล์ข้อมูลมาจากคอมพิวเตอร์แล้วส่งไปบันทึกบนหน่วยความจำบนแฟลชไดร์ฟจากนั้นเมื่อนำไปใช้งานในคอมพิวเตอร์เครื่องก็สามารถนำดูข้อมูล แก้ไข ที่คัดลอกมานั้นเอง ในปัจจุบันแฟลชไดร์ฟเรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่ต้องมีติดตัวไว้ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานออฟฟิศ ที่ต้องทำงานเกี่ยวกันเอกสารไฟล์งานแบบต่างๆ ก็จำเป็นต้องใช้งานแฟลชไดร์ฟเพื่อย้ายข้อมูลไปทำต่อที่บ้านหรือย้ายงานจากที่บ้านมายังที่ทำงานก็เป็นเรื่องง่าย ไม่จำเป็นจะถือเอกสารจำนวนมากและมีขนาดใหญ่ไปไหนมาไหน เพียงแค่พกแฟลชไดร์ฟที่มีขนาดเล็กก็สามารถทำงานได้ทุกที่เลย เพิ่มความสะดวกให้ได้หลายเท่าเลย แต่เดิมแล้วก่อนจะมีกานคิดค้นแฟลชไดร์ฟขึ้นมานั้นก็มี อุปกรณ์บันทึกงานชนิดอื่นๆ เช่น ฟ๊อปปี้ไดร์ส แผ่นซีดี แผ่นดีวีดี แต่เนื่องจากสามารถบรรจุไฟล์ต่างๆได้น้อย อีกทั้งการใช้งานยังยากอีกด้วย ทำให้ตกยุคไปในที่สุดเนื่องจากมีการผลิตคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ขึ้นมาแทนที่คอมพิวเตอร์ยุคเก่าที่มีช่องใส่ฟ๊อปปี้ไดร์ส ทำให้อุปกรณ์เหล่านั้นหายไปตามกาลเวลา และจึงมีการคิดค้นและผลิตอุปกรณ์บันทึกข้อมูลที่เรียกว่าแฟลชไดร์ฟขึ้นมาแทนที่อุปกรณ์ยุคเก่า แฟลชไดร์ฟนั้นมีการผลิตขึ้นมาให้มีขนาดเล็กเหมาะกับการใช้งานในทุกเครื่องคอมพิวเตอร์ สะดวกพกพาง่าย และยังสามารถนำไปใช้งานในแบบอื่นๆได้อีกด้วย ทำให้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในทุกวัยเลย นอกจากนี้ยังสามารถเลือกชื้อได้ตามความชอบอีกด้วย นอกจากนี้ในปัจจุบันแฟลชไดร์ฟเองก็มีการพัฒนาเพิ่มความจำให้มากขึ้น ขนาดที่สามารถบรรจุวีดีโอหนังได้หลายพันเรื่องเลยทีเดียว แตกต่างจากเดิมที่สามารถใช้เพียงเพื่อบรรจุงานเท่านั้นเอง และยังมีการผลิตแฟลชไดร์ฟแบบต่างๆออกมามายไม่ว่าจะเป็นการ์ตูน แฟชั่น รูปฮาร์ต และอื่นๆมากมาย อีกทั้งยังมีหลายราคาให้เลือกซื้อตามความเหมาะสมของกำลังทรัพย์อีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วแม้คนเราจะชอบเลือกซื้อจากหน่วยความจำของแฟลชไดร์ฟเป็นหลักแต่หากเจอแบบที่ตัวเองชอบก็ย่อมต้องเลือกแบบที่ชอบอยู่แล้ว ทำให้ทุกวันนี้แฟลชไดร์ฟยังคงได้รับความนิยมอยู่มากเลยทีเดียว และกลายเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้ ทั้งวัยเรียนที่ต้องทำงานส่งอาจารย์ในแบบไฟล์เอกสาร หรือวัยทำงานที่ต้องทำงานส่งหัวหน้า ทำงานให้ลูกค้า หรือวัยกลางคนที่ใช้ในการบันทึกเพลง วีดีโอไว้ฟังยามขับรถเดินทางท่องเที่ยว เรียกได้ว่าไม่ว่าใครก็ต้องมีแฟลชไดร์ฟไว้ใช้งานในแบบของตัวเองทั้งนั้น
แฟลชไดร์ฟมีปัญหา แก้ง่ายๆ ด้วยการ Format
เมื่อใช้งานไประยะเวลาหนึ่ง แม้แต่อุปกรณ์ที่ทนทานอย่างแฟลชไดร์ฟก็อาจเกิดปัญหาจุกจิกขึ้นมาได้ ซึ่งเมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาเราไม่จำเป็นต้องซื้อแฟลชไดร์ฟใหม่ให้เป็นการสิ้นเปลือง เพราะเราสามารถแก้ไขปัญหาเบื้องต้นที่ไม่รุนแรงได้ด้วยตัวเองง่ายๆ ด้วยวิธีที่เรียกว่าการ Format นั่นเอง การ Format คือการล้างข้อมูลต่างๆ ที่ถูกบันทึกไว้ในหน่วยความจำของแฟลชไดร์ฟออกจนหมด เปรียบเหมือนการเริ่มนับ 1 ใหม่อีกครั้ง ทั้งไวรัสและข้อมูลที่มีปัญหาจะถูกลบออกจากอุปกรณ์ไปจนหมด และทำให้เราสามารถกลับมาใช้งานแฟลชไดร์ฟได้ตามปกติ แต่ข้อควรระวังก็คือ หากในแฟลชไดร์ฟยังมีงานสำคัญๆ อยู๋ ก็ควรเซฟลงในคอมพิวเตอร์ก่อนที่จะ Format เพราะไม่เช่นนั้นแล้วงานต่างๆ ก็จะถูกลบไปด้วย เพราะการ Format จะทำให้ข้อมูลทุกอย่างหายไปนั่นเอง และในวันนี้เราก็นำวิธี Format แฟลชไดร์ฟอย่างง่ายมาฝากทุกท่านตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ 1. ทำการเสียบแฟลชไดร์ฟเข้ากับคอมพิวเตอร์และแสกนไวรัสให้เรียบร้อยตามปกติ เพื่อป้องกันไวรัสในแฟลชไดร์ฟติดเข้าไปในคอมพิวเตอร์ของเรา 2. คลิกไอคอนเพื่อเข้าสู่หน้าต่าง Windows explorer จากนั้นคลิกเม้าส์ขวาที่ไอคอน My computer แล้วทำการเลือกคำสั่ง Manage 3. เมื่อมีหน้าต่างใหม่เปิดขึ้นมา ให้มองหาหัวข้อ Storage จากนั้นจึงคลิกเข้าไป และเลือกคำสั่ง Disk Management 4. ในหัวข้อคำสั่ง Disk Management ให้มองหารายชื่ออุปกรณ์ที่เป็นชื่อแฟลชไดร์ฟของเรา ซึ่งจะขึ้นเป็นชื่อไดร์ฟต่างๆ […]