แฟลชไดร์ฟเป็นอุปกรณ์ที่เนรมิตให้เก๋เลิศได้หลายรูปแบบ

แฟลชไดร์ฟในอดีตที่มีการใช้งานกันอยู่ทั่วไปนั้น ส่วนใหญ่จะมีการดีไซน์ที่เป็นทรงยาวสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่เป็นทรงพื้นฐานของแฟลชไดร์ฟ ในหลายๆแบรนด์มีสีที่เรียบง่ายแบบพื้นๆหรืออาจจะมีสีสันที่สดใสในบางรุ่น ด้วยบางแบรนด์เป็นแบรนด์ที่ดังก็อาจจะมีการอัพราคาแฟลชไดร์ฟให้สูงขึ้น ซึ่งแฟลชไดร์ฟก็จะมีการออกแบบ ชนิดแบบมีฝาปิดที่เป็นแบบเบซิกมากๆ ต่อมาก็มีการพัฒนาให้แฟลชไดร์ฟสามารถม้วนกลับไปอีกด้าน เพื่อเป็น การเก็บแฟลชไดร์ฟก็สามารถทำได้ ซึ่งไม่ว่า แฟลชไดร์ฟจะมีการปิดเป็นแบบไหน แต่ที่ให้ความสนใจแก่ผู้ซื้อ ในการใช้งานแฟลชไดร์ฟมากที่สุด ก็คงจะเป็นเรื่องการดีไซน์ให้แฟลชไดร์ฟมีความน่ารักมากขึ้น ทำให้เป็นที่ดึงดูดให้ผู้ใช้งานในการเก็บข้อมูลสนใจที่จะหาซื้อเพื่อเก็บไปไว้ดูเล่นในยามใช้งาน ซึ่งการดีไซน์แฟลชไดร์ฟให้มี ความน่ารักสดใสนี้สามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งทำเป็นตัวการ์ตูนหรือเลียนแบบอุปกรณ์ต่างๆ เช่น แก้วน้ำ โทรศัพท์มือถือ หรือจะทำเป็นรูปขนม อย่างโดนัท ก็ทำได้ เมื่อแฟลชไดร์ฟมีรูปลักษณ์ภายนอกที่น่าใช้ ผู้ใช้งานก็มีความสุขและสนุกไปด้วย นอกจากจะมีประโยชน์ ในการเก็บข้องมูลต่างๆที่ต้องการแล้ว ความน่ารักของอุปกรณ์ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ใช้งานผ่อนคลายจากความเครียด ไปได้โดยผู้ใช้งานไม่รู้ตัว แม้จะเป็นความสุขเล็กๆแต่ก็เป็นความสุขที่ทำให้ผู้ใช้งานด้านคอมพิวเตอร์ลดความกังวลหรือความเมื่อยล้าจากการทำงานไปได้ ถือเป็นการรักษาโรคทางใจอย่างหนึ่ง ซึ่งผู้ผลิตก็มองเห็นในส่วนนี้ว่าจะช่วยเพิ่มความสุขให้กับผู้ใช้งานได้อย่างมากมาย และหากใครชอบเก็บสะสมแฟลชไดร์ฟในปัจจุบันนี้ก็มีให้สะสมแล้ว เนื่องจากในแต่ละแบรนด์ที่ขายแฟลชไดร์ฟมีการผลิตออกมา เพื่อตอบสนองความต้องการของคนที่ชอบแฟลชไดร์ฟมีดีไซน์ที่น่ารักสดใส ไม่มีความจืดชืด หลายๆแบรนด์จึงผลิตแฟลชไดร์ฟที่เอาใจแก่ลูกค้าเป็นอย่างมาก ทั้งตัวการ์ตูนที่มีลิขสิทธิ์ชื่อดัง อย่างเช่น มิกกี้เม้าส์ คิตตี้ หรือโดราเอมอน ฯลฯ แต่หากเป็นในรูปทรงอื่นๆก็มีเช่นเดียวกัน โดยเป็นการลอกเลียนแบบสิ่งของจากแบรนด์ดังๆ อาทิ ไอศกรีมแมกนั่ม กล้องถ่ายรูปโซนี่ รวมไปถึงภาพยนตร์ อย่างไอรอนแมน แฟลชไดร์ฟก็มีให้เห็นมาแล้ว ทั้งนี้ แฟลชไดร์ฟนอกจากจะเป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์ในการเก็บข้อมูลสำรองไว้เป็นอย่างดีแล้ว […]

แฟลชไดร์ฟคลังข้อมูลที่ต้องมีการป้องกัน

ในปัจจุบันเราคงไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่เราต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งการทำงานและการเรียน ซึ่งสามารถพิมพ์งานที่เป็นเอกสารสำคัญต่างๆ เพื่อใช้ในการประชุมหรือการเรียน ที่ต้องทำรายงานส่งคุณครู อีกทั้ง งานปริ้นที่ต้องการจะอ่านข้อมูลจากงานพิมพ์นั้น หรือเพื่อต้องการข้อมูลไปทำ อย่างอื่น เช่น ปริ้นรูป เพื่อต้องการเก็บไว้เป็นที่ระลึก เป็นต้น ซึ่งบางครั้งคอมพิวเตอร์อาจจะเกิดการติดไวรัสได้ ฉะนั้น เราจึงต้องมีอุปกรณ์ในการเก็บสำรองข้อมูลไว้ ซึ่งปัจจุบัน นั่นคือ แฟลชไดร์ฟ เป็นอุปกรณ์ที่มีขนาดจิ๋ว แต่ประโยชน์ไม่จิ๋วเลย ด้วยความพิเศษที่สามารถกักเก็บข้อมูลได้เยอะมากทั้งข้อมูลตัวอักษร ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ pdf หรือ document หรือจะเป็นการเก็บรูปภาพ เพื่อใช้ทบทวนความทรงจำ อีกทั้ง ไฟล์เพลงหรือวิดีโอต่างๆ ก็สามารถเก็บได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความจุของแต่ละอุปกรณ์ด้วย แม้แฟลชไดร์ฟจะเป็นที่เก็บข้อมูลได้อย่างยอดเยี่ยมก็ตาม แต่หากการเก็บข้อมูลเหล่านั้น ผู้ใช้งานไม่ได้ ทำการสแกนข้อมูลแฟลชไดร์ฟก่อนการเปิดใช้งาน บางครั้งไวรัสที่มีอยู่ในคอมพิวเตอร์เครื่องที่เราทำการเสียบ แฟลชไดร์ฟไปนั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อแฟลชไดร์ฟ จึงทำให้ข้อมูลที่มีการเก็บไว้เสียหายไปได้ ฉะนั้น ก่อน การใช้งานแฟลชไดร์ฟทุกครั้งควรที่จะมีการสแกนไวรัสก่อนเสมอ เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลและเป็น การปกป้องให้แฟลชไดร์ฟของคนอื่นๆที่หากมีการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ร่วมกับเราไม่ติดไวรัสพ่วงไปด้วย ซึ่งที่กล่าวมานั้น เป็นการป้องกันขั้นพื้นฐานที่เราสามารถทำได้ในการใช้งานแฟลชไดร์ฟ หรือหากแฟลชไดร์ฟ ไม่มีข้อมูลหลงเหลือแล้ว ผู้ใช้งานอาจทำการล้างแฟลชไดร์ฟอีกครั้ง เพื่อความแน่ใจว่าการใช้งานครั้งต่อไป ไวรัสจะไม่มี เพราะบางครั้งการใช้งานโดยข้อมูลที่ผ่านมาอาจจะมีการติดไวรัสแต่เราไม่ทราบ ซึ่งอาจจะมีไวรัสแฝง […]

วิธีการใช้งานแฟลชไดร์ฟครั้งแรกอย่างถูกต้อง

การใช้งานแฟลชไดร์ฟ หลายๆ คนก็ทราบว่าให้นำแฟลชไดร์ฟไปเสียบกับช่อง USB ของคอมพิวเตอร์ แล้วทำการโอนย้ายข้อมูลเมื่อเสร็จแล้วก็ดึงแฟลชไดร์ฟออกจากช่องเสียบUSB คอมพิวเตอร์ แต่เรารู้หรือไม่ว่าในการใช้งานแฟลชไดร์ฟครั้งแรก หากเราใช้งานอย่างถูกวิธี ก็จะช่วยส่งผลให้การใช้งานครั้งต่อไปสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการใช้งานแฟลชไดร์ฟอย่างถูกวิธีในการใช้งานครั้งแรก เราจะต้องทำอะไรกันบ้าง เราตามมาดูคำตอบกันเลยค่ะ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ส่งผลโดยตรงกับการทำงานของแฟลชไดร์ฟ แต่เราก็ควรที่จะสร้างลูกเล่นให้กับแฟลชไดร์ฟของเราด้วยการดาวน์โหลดไอคอนมาใส่ไว้ใน Root ของแฟลชไดร์ฟ ซึ่งเป็นการตั้งค่าให้แฟลชไดร์ฟสามารถที่จะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ หลังจากที่เราใส่ไอคอนให้กับแฟลชไดร์ฟของเราแล้ว สิ่งต่อมาที่เราควรทำต่อไป ก็คือลงไฟล์โปรแกรมที่เราต้องใช้งานบ่อยๆ และไฟล์โปรแกรมที่กำลังได้รับความนิยมมาเก็บไว้ในแฟลชไดร์ฟคราวนี้เราก็สามารถที่จะเรียกใช้โปรแกรมที่จัดเก็บไว้ในแฟลชไดร์ฟที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้สามารถช่วยเพิ่มความสะดวกในการเรียกใช้โปรแกรมที่สำคัญได้เป็นอย่างดี เมื่อเราลงไฟล์โปรแกรมที่จำเป็นต้องใช้ไว้ในแฟลชไดร์ฟเรียบร้อยแล้ว ให้เราทำการตั้งค่าป้องกันการเขียนข้อมูลต่างๆ ลงไปในแฟลชไดร์ฟ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ทั้งไวรัส กับสปายแวร์เข้ามาในตัวแฟลชไดร์ฟช่วยให้เราสามารถใช้แฟลชไดร์ฟได้อย่างปลอดภัยเมื่อต้องทำการเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นๆ แต่ถ้าหากเราต้องการบันทึกข้อมูลต่างๆ ลงไปในแฟลชไดร์ฟเพิ่มเติม เราก็ทำการปลดค่าป้องกัน และเมื่อเราทำการบันทึกข้อมูลลงไปในแฟลชไดร์ฟเสร็จสิ้น ก็ให้ทำการตั้งค่าป้องกันการเขียนข้อมูลลงไปเช่นเดิม คราวนี้ไม่ว่าเราจะเรียกใช้โปรแกรม หรือไฟล์ข้อมูลต่างๆ เราก็ไม่ต้องกังวลว่าสปายแวร์ กับไวรัสจะฝังอยู่ในแฟลชไดร์ฟ และสำหรับคนที่ต้องการจะใช้ Linux บนแฟลชไดร์ฟให้ทำแฟลชไดร์ฟบูทได้ซะก่อน ด้วย pendrivelinuxซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้เราสามารถที่จะใช้โปรแกรมเคลื่อนที่ได้เป็นการอัพเกรดให้ตัวแฟลชไดร์ฟ มีความทันสมัย และสามารถใช้งานได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งเพียงแค่เราทำตามวิธีการใช้แฟลชไดร์ฟครั้งแรกอย่างถูกต้อง ก็จะช่วยให้การใช้งานแฟลชไดร์ฟครั้งต่อๆ ไปมีประสิทธิภาพอย่างมากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอย่าลืมหมั่นทำการสำรองข้อมูลในแฟลชไดร์ฟเป็นประจำ ซึ่งอาจจะทำการสำรองข้อมูลด้วยการคัดลอกข้อมูลลงแผ่นซีดี เป็นต้น เพื่อเป็นการป้องกันข้อมูลที่อาจเกิดความเสียหายจากการที่แฟลชไดร์ฟโดนไวรัส หรือแฟลชไดร์ฟโดนขโมย

เทคนิคเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟให้ถูกใจ

แฟลชไดร์ฟหรือที่หลายๆ คนเรียกว่าHandy Drive ( แฮนดี้ไดร์ฟ )หรือ Thumb Drive ( Thumb Drive ) เป็นอุปกรณ์พกพาที่ไว้ใช้สำหรับในการเก็บข้อมูลไฟล์ต่างๆ ( ไฟล์เอกสาร , ไฟล์รูปภาพ , ไฟล์หนัง , ไฟล์เพลง )ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สะดวกสบายมากขึ้นในการเก็บ หรือโอนย้ายไฟล์ไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ได้โดยไม่ต้องพกเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเก็บข้อมูลไปด้วยนอกจากนี้ตัวแฟลชไดร์ฟที่มีน้ำหนักเบา , มีขนาดกะทัดรัด จึงช่วยเพิ่มความสะดวกในการพกพาไปไหนมาไหนและด้วยเหตุนี้จึงทำให้แฟลชไดร์ฟเป็นที่นิยมนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งก็ยังมีอีกหลายคนที่อยากจะหาซื้อแฟลชไดร์ฟมาใช้บ้างแต่ติดตรงไม่รู้ว่าควรเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟตัวไหนมาใช้จึงจะถูกใจ ต้องลองหันมาอ่านทางนี้กันแล้วล่ะค่ะ เพราะเรามีเทคนิคการเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟมาฝากทุกคนกันค่ะ ซึ่งเทคนิคการเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟให้ได้ถูกใจ ก็คือเราจะต้องเลือกแบบที่เหมาะสมกับการใช้งานของเรา โดยคำนึงถึงขนาดความจุที่ใช้งาน กับคามเร็วในการเชื่อมต่อกับพอร์ต USB ยิ่งเราเน้นใช้เก็บไฟล์ขนาดใหญ่ หรือเก็บไฟล์เยอะ ก็ควรเลือกแฟลชไดร์ฟที่มีความจุมากๆ และเป็นUSB3.0ส่วนขนาดของแฟลชไดร์ฟที่เราควรเลือกซื้อ ก็คือเลือกขนาดที่เหมาะกับการจัดเก็บของเรา นอกจากนี้การเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟเราจะต้องดูด้วยว่าความเร็วในการอ่านเขียนข้อมูลของตัวแฟลชไดร์ฟอยู่ที่เท่าไหร่ โดยหากเราเลือกแฟลชไดร์ฟที่มีความเร็วน้อย ก็จะส่งผลต่อเวลาในการโอนย้ายเก็บข้อมูล ซึ่งถ้าเรามีการย้ายโอนข้อมูลบ่อยๆ เราก็ควรจะเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟแบบความเร็วสูงที่มีการใช้เทคโนโลยีSingle-Level Cell ( SLC )ซึ่งสามารถให้ความเร็วในการอ่านเขียนข้อมูลได้สูงกว่าแฟลชไดร์ฟที่ใช้เทคโนโลยี Multi-Level Cell ( MLC )และในการเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟเราควรที่จะดูฟีเจอร์พิเศษของแฟลชไดร์ฟ เพราะแต่ละรุ่นก็จะมีฟีเจอร์พิเศษที่แตกต่างกันไป […]

จะแก้ไขอย่างไรหากคอมพิวเตอร์มองไม่เห็นแฟลชไดร์ฟของคุณ

แฟลชไดร์ฟเป็นอุปกรณ์จัดเก็บไฟล์ที่มีระบบการใช้งานที่ง่าย สะดวก สามารถใช้งานได้กับคอมพิวเตอร์แทบทุกรุ่นทุกยี่ห้อเลยทีเดียว แต่คุณคงไม่สบายใจอย่างแน่นอนหากแฟลชไดร์ฟที่อัดแน่นไปด้วยข้อมูลต่างๆ เอกสารไฟล์งาน หรือไฟล์ที่คุณหวงแหน เกิดเปิดไม่ติดแม้ว่าจะพยายามเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เครื่องใด อาการแฟลชไดร์ฟแสดงผลใดๆแบบนี้มักจะเกิดจากไม่กี่สาเหตุ ฉะนั้นวันนี้เราจะมาเรียบรู้ถึงสาเหตุและวิธีการแก้หากเกิดอาการดั่งกล่าวขึ้น สาเหตุของอาการแฟลชไดร์ฟเปิดไม่ติดนั้นมักจะเกิดความผิดพลาดของระบบปฏิบัติการณ์กับระบบภายในของแฟลชไดร์ฟที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกันได้ คุณจึงต้องใช้วิธีสัก 2 – 3 วิธีเพื่อช่วยแก้ไขอาการดั่งกล่าว วิธีแรกเริ่มต้นด้วยการเสียบแฟลชไดร์ฟเข้ากับคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คให้เรียบร้อย จากนั้นมาที่หน้าจอและคลิ๊กขวาที่ไอคอน My computer กดเลือกที่เมนูProperties จะปรากฏหน้าจอใหญ่ขึ้นมาให้คุณสังเกตุที่ด้านซ้ายจะพบเมนู Device Manager ให้กดเลือกเข้าไปจากนั้นจะพบกับรายชื่อ Device มากมายที่ได้ทำการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของคุณ สังเกตุว่าจะมีบางตัวที่ขึ้นไอคอนตกใจสีเหลืองหรือส่วนมากจะอยู่ในส่วนจอง Universal Serial เมื่อพบให้กดคลิ๊กขวาที่ USB Mass Storage Device ตรงจุดนี้คุณสามารถเลือกคำสั่ง Uninstall เพื่อให้ระบระทำการถอนการติดตั้งไดรเวอร์ตัวเดิมของแฟลชไดร์ฟออก จากนั้นให้ผู้ใช้ถอดแฟลชไดร์ฟออกแล้วลองเชื่อมต่อใหม่เพื่อทำให้คอมพิวเตอร์ทำการติดตั้งไดรเวอร์เพื่อช่วยในการเชื่อมต่อนั่นเอง อีกคำสั่งหนึ่งคือคลิกขวาและเลือก Update driver Software หากคอมพิวเตอร์ของคุณเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตระบบจะทำการค้นหาและทำการติดตั้งให้โดยอัตโนมัติ หากคุณยังไม่พบให้เลือกใช้วิธีถัดมาคือให้คุณคลิกขวาที่ My computer เช่นเดิมแต่เลือกที่เมนู Manage จะปรากฏหน้าต่างเมนูขึ้นมาให้คุณคลิ๊กที่ Disk Management ที่บริเวณด้านซ้าย จะพบรายชื่อ Volume หรือไดร์ฟต่างๆที่อยู่ในเครื่องของเรา […]

เลือกแฟรชไดร์ฟให้เหมาะสมกับงาน

ในปัจจุบันแฟรชไดร์ฟในปัจจุบันเป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานได้เป็นอย่าง เนื่องจากเป็นอุปกรณ์หน่วยความจำแบบแฟลชที่สามารถเพิ่มเติมข้อมูลได้ และสามารถนำตัวแฟรชไดร์ฟกลับมาใช้งานซ้ำได้ อีกทั้งในปัจจุบันแฟรชไดร์ฟยังมีราคาที่ถูกลงกว่าในสมัยก่อนเป็นอย่างมาก จึงทำให้เจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้ได้รับความนิยมมากนั่นเอง แต่ในปัจจุบันได้มีแฟรชไดร์ฟออกจำหน่ายในท้องตลาดเป็นจำนวนมาก หลายรูปแบบหลายยี่ห้อ หลายขนาดความจุ จึงทำให้ผู้ใช้งานเกิดตั้งคำถามว่า เราควรเลือกแฟรชไดร์ฟอย่างไรกันดี วันนี้ผมมีเรื่องราวดีๆ มาฝากคุณผู้อ่านทุกคนครับ สิ่งที่ควรคำนึงถึงเบื้องต้นในการเลือกซื้อแฟรชไดร์ฟมาใช้งาน มีดังนี้ 1. ยี่ห้อแฟรชไดร์ฟ ในปัจจุบันมียี่ห้อของแฟรชไดร์ฟออกมาจำหน่ายหลายยี่ห้อ ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว แต่ละยี่ห้อก็ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก อาจแตกต่างกันที่ราคาเพียงนิดหน่อยและระยะเลาในการรับประกันเท่านั้นครับผม ซึ่งบางคนอาจจะมองที่เรื่องของความคุ้มค่าและความน่าเชื่อถือของยี่ห้อนั่นเอง 2. ความจุของแฟรชไดร์ฟในเรื่องของพื้นที่การเก็บงานนั้น เป็นอีกเรื่องที่สำคัญที่สุดนะครับ เพราะเราซื้อแฟรชไดร์ฟมาเพื่อการบรรจุข้อมูล ดังนั้น เราควรจะพิจารณาว่าไฟล์งานที่เราต้องการนำมาจัดเก็บนั้น มีไฟล์ที่ใหญ่ขนาดเท่าใด เพียงพอต่อการเก็บไฟล์งานหรือไม่ ต้องพิจารณาดูให้ดีนะครับ เพื่อที่เราซื้อแฟรชไดร์ฟมาแล้วจะได้ไม่เสียใจที่ว่า รู้อย่างนี้ซื้อที่ขนาดใหญ่กว่านี้จะดีกว่าอะไรทำนองนี้นะครับ ซึ่งในปัจจุบันแฟรชไดร์ฟมีขนาดตั้งแต่ 1 GB, 4 GB, 16 GB จนไปถึง 1 TB ก็มีแล้วนะครับ 3. ชนิดของแฟรชไดร์ฟชนิดของแฟรชไดร์ฟก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องพิจารณาเพราะจะส่งผลถึงเรื่องความเร็วในการรับส่งข้อมูล ซึ่งอาจจะไม่มีผลกับไฟล์เล็กๆนะครับ แต่ไฟล์ใหญ่เราจะได้ไม่เสียเวลาในการรับส่งข้อมูลมากเกินไปถูกต้องไหมครับ โดยในปัจจุบันนี้จะมีแฟรชไดร์ฟ ก็จะมีตั้งแต่ 2.0 3.0 จนถึง 3.1 แล้วนะครับ […]

ประวัติของแฟลชไดร์ฟ

อุปกรณ์ที่ใช้งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์หลัก หรืออุปกรณ์เสริม นั้นมีอยู่มากมายหลายชนิด เพื่อวัตถุประสงค์ในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น แป้นพิมพ์ก็จะใช้สำหรับป้อนข้อมูลเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ ก็จะเป็นหน่วยแสดงผลชนิดหนึ่งที่ออกมาในรูปของแผ่นกระดาษ แต่จะมีอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งเป็นที่ส่วนใหญ่จะเป็นสี่เหลี่ยมขนาดประมาณนิ้วมือ หรือบางอันก็จะเป็นรูปตัวการ์ตูนรูปร่างต่างๆ แตกต่างกันออกไป ถ้าคนที่ใช้งานบ่อยๆหรือมีความคุ้นเคยจะเรียกเจ้าสิ่งของชิ้นนี้ว่าแฟลชไดร์ฟซึ่งในวันนี้ผมจะพาทุกคนไปรู้จักกับประวัติความเป็นมาของเจ้าแฟลชไดร์ฟกันครับ แฟลชไดร์ฟ (Flashdrive) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยใช้หน่วยความจำแบบแฟรช โดยขนาดของแฟลชไดร์ฟนั้นจะมีขนาดเล็ก สามารถพกพาได้อย่างสะดวก โดยประวัติความเป็นมาของเจ้าแฟลชไดร์ฟในยุคแรกตั้งแต่กลางปี 1980 มีต้นกำเนิดมาจากการเป็นหน่วยความจำแฟรช(Flash memory) ซึ่งจะเป็นแบบ NAND จะมีรูปร่างเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมบางๆ มันถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท Toshiba นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต ของพวกเรานั่นเอง และจากนั้น USB Flash drives ก็ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาช่วงปลายปี 1990 เปลี่ยนจากการใช้รูปแบบ NAND ที่จะเป็นสี่เหลี่ยม มีแผ่นทองแดงติดไว้ มาเป็น USB port ที่มีรูปร่างเหมือนในปัจจุบันนั่นเองครับ ซึ่งมีคุณสมบัติที่ดีขึ้นตรงที่การเชื่อมต่อแฟลชไดร์ฟไม่ต้องใช้โปรแกรมเพิ่มเติมมาใช้เชื่อมต่อครับ โดยบริษัทที่มีชื่อเสียงมากเกี่ยวกับแฟลชไดร์ฟในขณะนั้น คือ Sandiskซึ่งทุกวันนี้ก็ยังอยู่นะครับบริษัทนี้ ส่วนเรื่องความจุของแฟลชไดร์ฟในยุคเริ่มแรกนั้น มีคามจุเพียง 8 เมกะไบต์ เท่านั้นเอง มาจากบริษัท IBM […]

ทำไมเราถึงควรเลือกใช้งานแฟลชไดร์ฟ

แฟลชไดร์ฟ (Flash drive) เป็นอุปกรณ์หน่วยความจำของคอมพิวเตอร์ที่ใช้บันทึกข้อมูลในรูปของความจำแฟลช คือ สามารถลบหรือเพิ่มเติมข้อมูลได้ตลอดเวลา ซึ่งในปัจจุบันแฟลชไดร์ฟ ถือว่าเป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญในการใช้งานคอมพิวเตอร์เลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะทำงานอะไรหรือใครใช้งานส่วนมากก็จะมีการพกพาแฟลชไดร์ฟไปใช้งานด้วยเสมอ แล้วถ้าถามถึงว่าทำไมแฟลชไดร์ฟจึงได้รับความนิยมในการใช้งานเป็นอย่างมาก ก็น่าจะมีข้อดีในเรื่องของการใช้งาน ดังนี้ 1. มีขนาดเล็กพกพาง่ายแฟลชไดร์ฟเป็นหน่ยความจำที่มีขนาดเล็กเพียงประมาณขนาดเท่านิ้วมือ จึงทำให้สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดก ช่วยในการคัดลอกข้อมูลหรือเคลื่อนย้ายไฟล์งานต่างๆ ได้อย่างง่ายดายนั่นเองครับ 2. เป็นหน่วยความจำที่ราคาไม่แพงในปัจจุบันราคาของแฟลชไดร์ฟถือว่ามีราคาถูกลงมาจากเมื่อก่อน แถมยังได้พื้นที่ในการเก็บข้อมูลมากเพียงพอต่อการใช้งานอีกด้วย จึงถือว่าในการใช้งานเก็บข้อมูลบางอย่างที่ใช้แฟลชไดร์ฟก็เพียงพอนั้น ถือว่าเป็นการใช้อุปกรณ์หน่วยความจำที่มีราคาไม่แพงเลย 3. สามารถบรรจุไฟล์ข้อมูลได้ทุกประเภทแฟลชไดร์ฟเป็นอุปกรณ์หน่ยความจำแบบแฟลช สามารถจัดเก็บข้อมูลได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นไฟล์เอกสาร ไฟล์รูปภาพ ไฟล์เสียง หรือไฟล์วิดีโอต่างๆ แฟลชไดร์ฟสามารถใช้จัดเก็บข้อมูลได้ทั้งสิ้น แฟลชไดร์ฟจึงได้รับความนิยมในการใช้งานมาก 4. มีขนาดความจุให้เลือกได้มากมายในปัจจุบันแฟลชไดร์ฟได้ผลิตออกมาหลากหลายรูปแบบ และมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลหลายขนาดตามความต้องการใช้งาน แฟลชไดร์ฟจึงช่วยตอบโจทย์ในการใช้งานได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ได้รับความนิยมนำมาใช้งานนั่นเองครับ 5. สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้แฟลชไดร์ฟเป็นอุปกรณ์ที่เป็นหน่วยความจำแบบแฟลช สามารถเพิ่มเติมข้อมูล หรือลบ ทำซ้ำ ทำใหม่ เพื่อใช้งานในด้านต่างๆ ได้ ถือว่าเมื่อซื้อแฟลชไดร์ฟมาใช้งานนั้นสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานและมีความคุ้มค่าแน่นอนครับผม อุปกรณ์ไอที หรืออุปกรณ์ที่ใช้งานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์นั้น มีอยู่หลายอย่างหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับการใช้งานของเราในแต่ละประเภท ซึ่งแฟลชไดร์ฟก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นในการใช้งานในปัจจุบันเพราะไม่ว่าเราจะไปที่ใดก็ตาม ตามสำนักงานต่างๆ เชื่อได้เลยว่าจะต้องพบแฟลชไดร์ฟอย่างน้อย 1 อัน เพื่อใช้ในงานสำนักงานหรืองานส่วนตัว ก็เพราะมันเป็นตัวช่วยเราได้เป็นอย่างดีนั่นเองครับ […]

เชื่อมต่อแฟรชไดร์ฟกับเครื่องคอมพิวเตอร์

การเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์ เช่น เมาส์หรือคีย์บอร์ด จะเชื่อมต่อด้วยช่องเสียบหรือที่เราเรียกว่าพอร์ต (Port) ซึ่งรอบๆตัวเครื่องคอมพิวเตอร์จะมีพอร์ตอยู่หลากหลายรูปแบบตามลักษณะของการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป แต่พอร์ตที่ได้รับความนิยมมาก คือ พอร์ต USB ซึ่งแฟรชไดร์ฟก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ใช้การเชื่อมต่อด้วยพอร์ต USB ครับผม พอร์ต USB นั้นได้เกิดขึ้นมาเมื่อปลาย พ.ศ.2538 (ค.ศ.1995) ซึ่งออกมาในช่วงระบบปฎิบัติการ Windows 95 เปิดตัวใหม่ๆ เช่นกัน แต่พอร์ต USB เริ่มเป็นที่รู้จักใช้งานกันจริงจังในช่วง พ.ศ. 2541 (ค.ศ.1998) ในสมัยนั้นใครมีแฟรชไดร์ฟ ขนาดเนื้อที่ประมาณ 8 เมกกะไบต์ ถือว่าเป็นจำนวนคนกลุ่มน้อยมากๆ เพราะในช่วงนั้นแฟรชไดร์ฟมีราคาสูงมากๆ แต่ในปัจจุบัน ยุค 2016 การใช้งานพอร์ต USB ใช้งานกันอย่างแพร่หลายจนเป็นเรื่องปกติ แล้วราคาของแฟรชไดร์ฟก็ถูกลงมากที่ทุกคนสามารถหาซื้อมาใช้งานได้ เพื่อใช้งานตามัตถุประสงค์ต่างๆ บางคนอาจใช้บรรจุข้อมูลเพื่อไปทำงานในสถานที่ต่างๆ บางคนอาจใช้แค่บรรจุเพลงฟังเพื่อความบันเทิงเท่านั้น แต่ท้งนี้ทั้งนั้นแฟรชไดร์ฟก็ถือว่าได้รับความนิยมในการใช้งานเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นหน่วยความจำที่มีราคาถูก มีขนาดเล็ก ซึ่งสามารถพกพาได้สะดวกไปยังสถานที่ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ไม่จำเป็นต้องพกพาหน่วยความจำที่มีขนาดใหญ่ๆ ไป อีกทั้งแฟรชไดร์ฟยังเป็นหน่วยความจำแบบแฟรช ที่สามารถเพิ่ม ลบ […]

4 ทริค เลือกซื้อแฟลชไดร์ฟ ให้คุ้มค่าที่สุด

ในปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแฟลชไดร์กำลังเป็นทีนิยมและมีความสำคัญเป็นอย่างมาก นั่นก็เพราะแฟลชไดรฟ์ เป็นตัวช่วยที่ดีในการเก็บข้อมูลและถ่ายโอนข้อมูลจากอุปกรณ์หนึ่งไปอีกอุปกรณ์หนึ่งนั่นเอง อีกทั้งยังพกพาได้สะดวกและใช้งานง่ายอีกด้วย แต่ทั้งนี้การจะเลือกซื้อแฟลชไดรฟ์มาครอบครองสักอันนั้น จะต้องเลือกให้คุ้มค่าที่สุด โดยมี 4ทริคแนะนำ ดังนี้ เลือกความจุให้เหมาะกับการใช้งาน การจะเลือกแฟลชไดรฟ์ให้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่านั้น อันดับแรกจะต้องดูก่อนว่าต้องการใช้งานแบบไหน ใช้เก็บไฟล์เอกสารเพียงอย่างเดียว เก็บรูป หรือมีไฟล์เพลง ไฟล์หนังขนาดใหญ่ด้วย ซึ่งหากใช้เพื่อเก็บเอกสารในการทำงานเท่านั้น ก็อาจเลือกซื้อที่ขนาด 4-8 GB ก็พอ แต่หากใช้เก็บไฟล์หนังหรือไฟล์ขนาดใหญ่ แฟลชไดรฟ์ขนาด 16 GB ก็จะเหมาะที่สุด ขนาดและดีไซต์สุดเก๋ แฟลชไดรฟ์ ยิ่งมีขนาดเล็ก และมีดีไซต์สุดเก๋ ก็จะยิ่งน่าใช้งานมากขึ้น โดยในส่วนนี้ คุณสามารถเลือกแฟลชไดรฟ์ที่มีดีไซต์เก๋ น่ารัก หรือดูเรียบง่ายๆ เท่ห์ๆ ตามชอบได้เลย แต่ทั้งนี้ก็อย่าลืมคำนึงถึงความสะดวกในการใช้งานด้วย ตรวจเช็กพอร์ตเชื่อมต่อ สำหรับพอร์ตเชื่อมต่อ USB ในปัจจุบันก็จะมี 2 แบบด้วยกัน คือ USB 2.0 และ USB 3.0 ซึ่งก็มีความเหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกันไปด้วย นั่นก็คือ USB 2.0 […]

รู้ไหมว่าใช้ แฟลชไดร์ฟ เป็นกุญแจล๊อคคอมพิวเตอร์ได้นะ

วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆในการใช้ แฟลชไดร์ฟ มาบอกกันหลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้ว่า สามารถตั้งค่าให้ แฟลชไดร์ฟ เป็นกุญแจล๊อคคอมพิวเตอร์เราได้ด้วยนะ ก็ประมาณว่าจะใช้คอมก็ต้องเสียบแฟลชไดร์ฟเข้าไปถอดออกก็ปิดเลยและใครก็มาเปิดคอมพิวเตอร์เราใช้ไม่ได้ คราวนี้เราก็ไม่ต้องระแวงว่าใครจะมาทำอะไรกับข้อมูลในคอมพิวเตอร์เรา ซึ่งเคล็ดลับนี้ในต่างประเทศมีการใช้งานกันแพร่หลายแต่ในบ้านเราก็คงมีคนรู้บ้างแต่อาจจะไม่มากนักดังนั้นเรามาดูกันว่าเขาทำกันอย่างไร ก่อนอื่นเลยก็ต้องมีแฟลชไดร์ฟสำหรับทำเป็นกุญแจ 1 อัน แต่ไม่ต้องกลัวนะว่าจะนำมาใช้งานอื่นๆไม่ได้ยังใช้งานได้ปรกติเหมือนเดิมแค่เพิ่มเติมความสามารถพิเศษเข้าไปแค่นั้นเอง เมื่อมีแฟลชไดร์ฟแล้วก็ต้องไปกาดาวน์โหลดโปรแกรมนี้เลยนั้นคือโปรแกรม Predator แต่แนะนำไว้ก่อนว่าควรเลือกแฟลชไดร์ฟที่ไม่มีข้อมูลใดๆจะดีที่สุด หลังจากโหลดโปรแกรมและติดตั้งแล้วก็ให้เสียบแฟลชไดร์ฟที่ต้องการทำเป็นกุญแจเข้ากับคอมพิวเตอร์ หลังจากนั้นโปรแกรมจะมีหน้าต่างให้เราตั้งค่ารหัสผ่าน  รวมถึงการตั้งรหัสปลดล๊อคกรณีแฟลชไดร์ฟตัวที่เป็นกุญแจหาย และสามารถตั้งค่าให้แสดงกล่องโต้ตอบเพื่อตรวจสอบรหัสทุกครั้งก็ได้เช่นกัน เมื่อตรวจสอบความถูกต้องทุกอย่างแล้วก็ตอบตกลง หลังจากนั้นแฟลชไดร์ฟตัวนั้นจะกลายเป็นกุญแจเปิดปิดคอมพิวเตอร์ของคุณทันที เห็นไหมว่าแฟลชไดร์ฟมีประโยชน์และทำอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด หากรู้จักวิธีการใช้ประโยชน์อื่นๆที่มากว่าการเก็บไฟล์งานต่างๆ และที่สำคัญคือมันทำได้ไม่ยากแค่มีตัวช่วยนิดๆหน่อย และอีกอย่างคือโปรแกรม Predator สำหรับทำแฟลชไดร์ฟเป็นตัวล๊อคนี้เป็นโปรแกรมที่ดาวน์โหลดได้ฟรี และหาดาวน์โหลดได้ไม่ยากการใช้งานก็ไม่ได้ยุ่งยากแต่ประโยชน์ของมันเหลือเฟือจริงๆ ตั้งแต่เป็นกุญแจล๊อคคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะหากคุณต้องการที่จะป้องกันข้อมูลต่างๆหรือไม่ยากให้ใครมาเปิดดูในเวลาที่คุณไม่อยู่เหมาะกับชาวออฟฟิศมากๆเพราะหากคุณไม่อยู่ที่โต๊ะทำงานก็จะไม่มีใครมาเปิดคอมพิวเตอร์คุณได้ หรือบ้านไหนที่ลูกๆติดเกมขนาดหนักก็ใช้ แฟลชไดร์ฟ ล็อคมันซะเลยไม่มีก็เปิดไม่ได้รับรองว่าแก้ปัญหาเล่นเกมดึกๆได้พอสมควร สำหรับคราวหน้าเราจะนำเรื่องราวสาระหรือเรื่องราวน่ารู้อะไรของ แฟลชไดร์ฟ มาฝากกันอีกก็ต้องติดตามกันให้ดีรับรองว่ามีประโยชน์และสามารถนำไปใช้งานได้จริงๆอย่างแน่นอนสำหรับวันนี้คงต้องลากันไปก่อน อย่าลืมลองไปทำแฟลชไดร์ฟ ให้เป็นกุญแจล๊อคคอมกันนะ

เลือกซื้อ แฟลชไดร์ฟ ทั้งทีควรเลือกความจุที่เท่าไหร่ดี

มีเรื่องราวดีๆ ของ แฟลชไดร์ฟ มาแนะนำกันอีกแล้วในวันนี้ หลายคนต้องใช้ แฟลชไดร์ฟ เพื่อเก็บงานต่างๆและอาจต้องใช้หลายๆอันหรือซื้อใช้บ่อยๆ เพราะอาจต้องมีการส่งงานให้ลูกค้าโดยการใส่ข้อมูลใน แฟลชไดร์ฟ ส่งให้ลูกค้าแบบไม่เรียกคืนเพื่อความสะดวก หรือ นักเรียนนักศึกษาที่ต้องเซฟงานสำหรับประกอบการเรียน การทำงาน หรือ ทำธีสิสอาจต้องมีการส่งต่องานให้เพื่อนๆหรือแม้แต่ให้อาจารย์ตรวจงาน แต่ด้วยขนาดไฟล์ที่ใหญ่หรือไม่สะดวกในการแชร์เข้าเน็ตเวิร์คดังนั้น แฟลชไดร์ฟ จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้ แต่การเลือกซื้อ แฟลชไดร์ฟ ไว้ใช้งานในลักษณะนี้ควรเลือกขนาดความจุเท่าไหร่ดี หรือ หากจะซื้อไว้ใช้ส่วนตัวควรเลือกแบบไหน เราลองมาหาคำตอบกัน การเลือก แฟลชไดร์ฟ นั้นหลายคนดูจากขนาดความจุ ไม่ค่อยจะดูจากการใช้งานหรือประเภทการใช้งานซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกที่ความจุสูงๆตามงบประมาณที่ต้องการจ่าย เช่น มีงบซื้อในราคาไม่เกิน 300 บาทก็จะดูก่อนว่าราคานี้ได้ความจุเท่าไหร่ มียี่ห้ออะไรบ้างอันไหนสูงสูดหรือดีสุดเท่าที่มีให้เลือกตามงบที่ตั้งไว้ก็มักจะเลือกอันนั้น แต่หากเลือกสักนิดรับรองว่าจะได้ แฟลชไดร์ฟ ที่เหมาะสมกับการใช้งานยกตัวอย่างเช่น หากต้องการเซฟไฟล์ที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนักและเป็นการใช้เซฟงานเพื่อส่งต่อให้ลูกค้าหรือให้คนอื่นก็ควรเลือกซื้อ แฟลชไดร์ฟ ขนาด 2 GB เพราะมีราคาไม่สูงมากนักราคาแค่หลักสิบไม่ถึงร้อย ซึ่งปัจจุบันไม่ค่อยมีผลิตมาแล้วนอกจากจะไปหาตามแหล่งขายไอที แต่จะไม่ค่อยมแบรนด์ดังๆนัก  ความจุต่ำสุดในปัจจุบันจะเป็นขนาด 4GB  มีหลายแบรนด์ราคาหลักร้อยต้น ซึ่งอันนี้จะเหมาะมากกับการส่งงานแล้วให้ลูกค้าไปเลย (ส่วนใหญ่บวกราคาแฟลชไดร์ฟ เข้าไปแล้วทั้นนั้น) หรือหากเพื่อนยืมลืมก็ยังไม่เสียดายเท่าไหร่นัก แต่หากเป็นการใช้งานเองก็ควรเลือกแบรนด์ที่มีคุณภาพสักนิด มีความจุที่คิดว่าเหมาะกับการใช้งานของเราหรือเลือกความจุประมาณ 16 GB […]