เลือกซื้อ Flash Drive อย่างไร ให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน 

หลายคนอาจมองว่า Flash Drive เป็นเครื่องมือที่ไม่น่าจะมีใครใช้แล้ว แต่รู้หรือไม่ว่า แม้กระทั่งในทุกวันนี้เอง สิ่งนี้ก็ยังตอบโจทย์การใช้งานของเราในหลาย ๆ ด้านมาก อีกทั้งในปัจจุบัน ยังมีการออกแบบให้มีการรับส่งข้อมูลได้เร็วยิ่งขึ้น และพัฒนา Flash Drive ให้มีความจุมากยิ่งขึ้นด้วย เราใช้ Flash Drive ในการเก็บข้อมูลต่าง ๆ ไปตั้งแต่รูปภาพ วิดีโอ หรือแม้แต่ไฟล์เอกสารต่าง ๆ แม้ว่าจะในปัจจุบัน ก็ยังมี Flash Drive ออกมาให้เราเลือกกันมากมายหลากหลายเจ้า แล้วเราจะเลือกอย่างไรดี ให้เหมาะสมกับการใช้งานของเรา และยังมีการดีไซน์ Flash Drive ออกมาหลากหลายรูปแบบ เช่น แฟลชไดร์ฟไม้ แฟลชไดร์ฟโลหะ แฟลชไดร์ฟคริสตัล และแฟลชไดร์ฟอื่นๆอีกมากมาย

 

ความจุของ Flash Drive

 

อย่างที่บอกไปแล้วว่า เรื่องของความจุนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอันดับต้น ๆ เลย ในการเลือกซื้อ Flash Drive เราควรเลือกที่มีความจุเหมาะสมกับการใช้งานของเรา ในปัจจุบันที่เราพบเห็นนั้น เราจะสามารถเห็นความจุได้ตั้งแต่ MB, GB และเป็น TB เลยก็มี ขึ้นอยู่กับเราจะใช้ความจุมากหรือน้อยแค่ไหน ยิ่งความจุมากขึ้น ราคาก็จะยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ในการเก็บเอกสารต่าง ๆ ทั่วไป ใช้แค่ความจุเล็กน้อยขั้นต่ำในปัจจุบันอยู่ที่ 4 GB ก็น่าจะเพียงพอแล้ว ส่วนใครที่ต้องการเก็บวิดีโอไฟล์ใหญ่ ๆ หรืออาจเป็นการสำรองข้อมูลในปริมาณมาก ก็อาจดูความจุที่มากขึ้น อาจเป็น 1 TB เลยก็ได้

 

ดูความเร็วในการอ่านและการเขียนข้อมูลของ Flash Drive

 

สิ่งแรก ๆ ที่ต้องคำนึงในการเลือกซื้อคือ ความเร็วในการอ่านและการเขียนข้อมูล หรือเราอาจจะเรียกอีกอย่างว่า ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล ซึ่งโดยธรรมชาตินั้นความเร็วในการอ่านข้อมูลนั้น จะเร็วกว่าความเร็วในการเขียนข้อมูลอยู่แล้ว จะมีการระบุไว้เป็น Read Speed และ Write Speed ยกตัวอย่างเช่น ในอุปกรณ์ 1 ตัว มีความเร็วในการอ่านข้อมูล หรือ Read Speed เท่ากับ 200 MB/S และความเร็วในการเขียนข้อมูลหรือ Write Speed อยู่ที่ 150 MB/S แต่ต้องรู้สิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งคือ ถึงแม้ความเร็วในการเขียนและการอ่านจะบอกมาแบบนี้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไฟล์ของเราจะไม่ได้ถูกเขียนและอ่านได้เท่านี้ เนื่องจากข้อมูลและขนาดของไฟล์ที่แตกต่างกัน การถ่ายโอนเร็วหรือช้าจึงแตกต่างกันไปด้วย

 

อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้การอ่านและการเขียนข้อมูลเร็วหรือช้านั้น อยู่ที่พอร์ตที่ใช้ในการเชื่อมต่อ ก่อนหน้านี้พอร์ตในการใช้กับ Flash Drive จะเป็นพอร์ต USB 2.0  แต่ก็ได้มีการพัฒนามากยิ่งขึ้นกลายเป็น USB 3.0 และ USB 3.1  ซึ่งทำให้การถ่ายโอนข้อมูลนั้นเร็วมากยิ่งขึ้น ให้ดูว่าที่เราซื้อมานั้นเป็นพอร์ตเชื่อมต่อแบบไหน และคอมพิวเตอร์ของเราสามารถรับพอร์ตเชื่อมต่อแบบนี้ได้หรือไม่

 

การรับประกันหลังการขาย

 

เนื่องจากสิ่งนี้เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้นเรื่องของประกันหรือการรับประกันหลังการขายจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อ แม้แต่อุปกรณ์ราคาหลักร้อย หลายเจ้าก็มีประกันให้เราได้อุ่นใจไว้บ้าง บางคนอาจพบเจอปัญหาซื้อไปใช้งานเพียงแค่วันหรือ 2 วัน ข้อมูลก็เสียหายแล้ว อย่างน้อยหากมีการรับประกัน สามารถที่จะเปลี่ยนได้ในกี่วันก็แล้วแต่ผู้ผลิต ถึงแม้ข้อมูลของเราจะเกิดความเสียหาย แต่อย่างน้อยเราก็ไม่เสียเงินฟรี ๆ ดังนั้นก่อนที่เราจะเลือกซื้อ เราควรสอบถามเรื่องของประกันหลังการขายให้เรียบร้อยเสียก่อน และทางที่ดีควรตรวจสอบอุปกรณ์ที่เราซื้อมาอย่างละเอียดให้ได้มากที่สุดเสียก่อน

 

ราคา

 

แน่นอนว่า ไม่ว่าเราจะซื้อของอะไรก็ตาม เราน่าจะมีการตั้งงบประมาณเอาไว้เบื้องต้นแล้ว สำหรับสิ่งนี้นั้น เราก็ต้องยอมรับว่า หากอยากได้อุปกรณ์ที่มีราคาถูก เราก็จะต้องแลกมากับความจุที่น้อยลง หรือการอ่านและการเขียนข้อมูลที่ช้าลง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายอย่าง หากอยากได้ที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ก็ต้องแลกมากับราคาที่แพงขึ้นเล็กน้อยด้วย

 

Leave Comment