แฟลชไดร์ฟ USB 3.0 คืออะไร ใหม่กว่า เร็วกว่าหรือไม่
แฟลชไดร์ฟ นับว่าเป็นอุปกรณ์เคียงคู่ออฟฟิศ หรือสำหรับหลายคนเปรียบเสมือนอุปกรณ์ที่จำเป็นที่จะต้องพกพาไปไหนมาไหนตลอดเวลาด้วยซ้ำ เนื่องจากสิ่งนี้ค่อนข้างที่จะมีประโยชน์ในด้านของการทำงานสามารถที่จะทำให้เราทำการรับและส่งข้อมูลไปได้มากมายหลากหลายสามารถที่จะนำไปใช้กับคอมพิวเตอร์ได้มากมายหลากหลายเครื่อง และในปัจจุบันนี้เอง มีเทคโนโลยีใหม่เข้ามาใช้กับอุปกรณ์แฟลชไดร์ฟ พัฒนาให้มีความเร็วในการรับส่งข้อมูลมากยิ่งขึ้น แบบหนึ่งที่เราน่าจะเคยเห็นกันมาบ้าง นั่นก็คืออุปกรณ์แฟลชไดร์ฟ ที่อยู่ในรูปแบบของ USB 3.0 มีหลายรูปแบบ เช่น แฟลชไดร์ฟโลหะ แฟลชไดร์ฟไม้ หรือแฟลชไดร์ฟยาง
หลายคนที่ใช้งานอุปกรณ์แฟลชไดร์ฟ น่าจะเกิดคำถามกันมาบ้างว่า แฟลชไดร์ฟที่เราเรียกกันว่าแบบ USB 3.0 สิ่งนี้คืออะไร แล้วทำไมเราต้องเรียกว่า 3.0 มันมีความเหมือนหรือแตกต่างจากแบบยูเอสบีที่เราใช้งานกันทุกวันนี้หรือไม่ เเล้วเแฟลชไดร์ฟ ที่เราใช้งานกันอยู่ในปัจจุบันทุกวันนี้ เป็นแบบ 3.0 หรือเป็นแบบ 2.0 สอง แบบนี้มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ถ้านำมาใช้งานกับคอมพิวเตอร์ของเราสามารถที่จะใช้งานได้หรือไม่ และความเร็วในการรับส่งข้อมูลจะเร็วหรือช้าขึ้นอย่างไร
ทำความเข้าใจ พอร์ต USB 3.0
พอร์ต USB 3.0 คือมาตรฐานในการรับส่งข้อมูล ที่เรียกได้ว่าถูกพัฒนาขึ้นมาจากแบบดั้งเดิม แต่ก็ยังคงสามารถที่จะใช้งานได้ปกติ เหมือนกับแฟลชไดร์ฟ ที่เป็นในรูปแบบ USB 2.0 แต่จุดสังเกตที่เปลี่ยนไปของเวอร์ชั่นใหม่นี้ก็คือ บริเวณพอร์ตหรือบริเวณหัวเสียบ ที่จะมีลักษณะเป็นสีฟ้า และบริเวณหัวต่อจะมีสัญลักษณ์เป็น SS เพื่อสามารถที่จะให้ผู้ใช้งานเข้าใจและแยกออกได้ว่า แฟลชไดร์ฟที่ผู้ใช้งานใช้งานอยู่นี้ อยู่ในรูปแบบของ USB 2.0 ที่เป็นในรูปแบบเดิม หรือเป็นในรูปแบบใหม่ที่เป็น USB 3.0 นั่นเอง
ประสิทธิภาพที่สูงยิ่งขึ้น
โดยปกติทั่วไปแล้ว USB 3.0 ปิ่นเทคโนโลยีที่ถูกผลิตมาทีหลัง USB 2.0 ด้วยเหตุนี้ จึงมีประสิทธิภาพในการใช้งานที่สูงกว่าอย่างแน่นอน โดยมีการคำนวณมาเป็นตัวเลขว่า USB 3.0 มีประสิทธิภาพ และความเร็วในการรับส่งข้อมูลมากถึง 5 Gbps ซึ่งเทคโนโลยีแบบเดิม USB 2.0 มีความเร็วในการรับส่งข้อมูลเพียงแค่ 480 Mbps เพียงเท่านั้น ซึ่งนับว่าเป็นความเร็วที่มากกว่าเดิมถึง 10 เท่าตัวเลยทีเดียว
และที่กล่าวมานี้ เป็นข้อมูลที่ใช้ในเชิงทฤษฎีสามารถนำมาอ้างอิง และนำมาเปรียบเทียบได้ในระดับนึง ในความเป็นจริงแล้ว มีปัจจัยอีกมากมายหลากหลายที่มีส่วนสำคัญ ที่ทำให้ความเร็วในการรับส่งข้อมูลแตกต่างกันออกไปในแต่ละเครื่อง และแต่ละอุปกรณ์สำหรับการใช้งาน
สามารถใช้งานร่วมกันได้หรือไม่
คำถามต่อมาก็คือ แล้วแบบนี้ ที่เป็นแบบ USB 3.0 สามารถใช้ร่วมกับพอร์ตแบบเดิม หรือก็คือแบบ USB 2.0 ได้หรือไม่ คำตอบคือมันสามารถที่จะใช้งานร่วมกันได้ แต่หากเรานำเอา USB 2.0 มาเสียบกับพอร์ต USB 3.0 ความเร็วในการรับส่งข้อมูลจะถูกปรับให้อยู่ในรูปแบบของ USB 2.0 โดยอัตโนมัติ และหากนำแบบที่เป็น USB 3.0ไปเสียบกับ USB 2.0 ความเร็วในการรับส่งข้อมูลก็จะถูกปรับให้อยู่ในรูปแบบของ USB 2.0 เช่นเดียวกัน การใช้งาน USB 3.0 ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เราจำเป็นที่จะต้องเสียบใช้งานกับพอร์ตแบบเดียวกันถึงจะสามารถรับและส่งข้อมูลได้และมีประสิทธิภาพสูงที่สุดในการใช้งาน
ซึ่งในปัจจุบันนี้ USB 3.0 นับว่าเป็นที่แพร่หลาย และใช้งานกันอย่างมากบนอุปกรณ์มากมาย ซึ่งแทบจะเป็นธรรมดากันแล้ว กลับกัน แบบที่เป็นรูปแบบเดิมหรือก็คือ USB 2.0 หายากมากขึ้น และไม่ค่อยเป็นที่นิยมเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นหากใครอยากนำมาจัดทำเป็นของพรีเมี่ยม ก็เลือกเอาที่สะดวก อาจจะเรื่องที่ความยากง่ายในการหาก็ได้