แฟลชไดร์ฟรักษ์โลก ความทันสมัยที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
ปัจจุบันนั้น ประเทศไทยของวเรากำลังเผชิญกับภาวะโลกร้อน ซึ่งภาวะโลกร้อนนั้นเกิดจากการใช้งานสิ่งของหรือวัสดุต่าง ๆ ที่ทำร้ายธรรมชาติ วัสดุที่ย่อยสลายเองตามธรรมชาติไม่ได้ จึงต้องอาศัยการเผาไหม้เพื่อทำการย่อยสลาย ซึ่งการเผาไหม้นั้นส่งผลให้เกิดปริมาณก๊าซในเรือนกระจกเพิ่มมากขึ้นจึงทำให้เกิดภาวะโลกร้อน และก็ยังมีการตัดไม้ทำลายป่าที่ส่งผลต่อการเกิดภาวะโลกร้อนด้วยเช่นกัน
การรณรงค์ในเรื่องของภาวะโลกร้อนนั้น มีการออกมาตรการและการรณรงค์อย่างมากมาย ทั้งการงดใช้ถุงพลาสติก การปลูกต้นไม้เพื่อทดแทนปริมาณป่าไม้ที่ถูกทำลายทั้งการตัดไม้และการเผาไหม้จากไฟป่า นอกจากนี้แล้ว การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสามารถย่อยสลายได้เองตามํรรมชาติก็มีส่วนช่วยในการลดภาวะโลกร้อนเช่นเดียวกัน ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงแฟลชไดร์ฟที่มีส่วนช่วยในการลดภาวะโลกร้อนได้
แฟลชไดร์ฟโดยทั่วไปนั้น มีกระบวนการในการผลิตและใช้วัสดุในการผลิตที่หลากหลาย ทั้ง แฟลชไดร์ฟโลหะ แฟลชไดร์ฟยางต่าง ๆ ซึ่งแฟลชไดร์ฟเหล่านั้น ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานในด้านต่าง ๆ ของผู้บริโภค ทั้งความสวยงามภายนอกและความง่ายต่อการพกพา แต่ยังมีแฟลชไดร์ฟอีกรูปแบบหนึ่งที่สามารถช่วยโลกจากปัญหาสภาวะโลกร้อนได้เช่นกัน นั่นก็คือ แฟลชไดร์ฟไม้
หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่า แฟลชไดร์ฟไม้นนั้นทำมาจากไม้และมีไม้เป็นส่วนประกอบหลักจะเป็นการช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อย่างไร ในเมื่อหากต้องการลดภาวะโลกร้อนนั้นต้องงดการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งต้องบอกก่อนว่า สาเหตุแรกที่ผู้ผลิตได้มีการคิดค้นแฟลชไดร์ฟไม้ขึ้นมานั้น ก็เพื่อในอนาคตที่แฟลชไดร์ฟนั้นสิ้นสุดอายุการใช้งาน ส่วนประกอบหลักของแฟลชไดร์ฟนั้นจะสามารถย่อยสลายได้ง่ายกว่าการใช้พลาสติก ยาง หรือวัสดุอื่น ๆ นอกจากนี้แล้ว เรายังสามารถนำไม้ที่ใช้ในการผลิตแฟลชไดร์ฟไม้นั้นมาทำการรีไซเคิลเพื่อประกอบเป็นแฟลชไดร์ฟรีไซเคิลหรืออุปกรณ์รูปแบบอื่น ๆ ก็ได้เช่นกัน
ในส่วนเรื่องที่หลาย ๆ คนคิดว่า การนำไม้มาเป็นวัสดุหลักในการประกอบแฟลชไดร์ฟนั้นต้องบอกเลยว่า ปัจจุบันการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อการใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชต่าง ๆ นั้นเป็นเรื่องที่ผิกกฎหมาย หากเป็นการลักลอบตัดต้นไม้จากป่าไม้ธรรมชาติ แต่แฟลชไดร์ฟไม้ที่ผู้ผลิตที่ผลิตขึ้นมานั้น จะเป็นป่าไม้ที่ปลูกเพื่อทดแทนและใช้งานในด้านการทำอุตสาหกรรมและการใช้งานในเชิงพาณิชย์ต่าง ๆ ซึ่งไม้เหล่านั้นมีการปลูกขึ้นมาเพื่อต้องการนำมาใช้งานในด้านอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ ไม่ได้เป็นการตัดไม้ตามธรรมชาติ จึงไม่มีผลต่อภาวะโลกร้อนใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งการปลูกป่าทดแทนนี้ยังสามารถช่วยในการเพิ่มก๊าซออกจิเจนที่ดีให้กับโลกของเราอีกด้วย
นอกจากนี้แล้ว ปัจจุบันก็ได้มีการนำสิ่งของต่าง ๆ ที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว มาทำการดัดแปลงเพื่อใช้งานเป็นแฟลชไดร์ฟด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างง่าย ๆ ที่ทุกคนน่าจะเคยพบยเจอหรือมีโอกาสได้ซื้อเพื่อเอาไว้ใช้งานกันบ้างแล้วนั่นก็คือจุกไวน์ จุกไวน์นั้นผลิตขึ้นมาจากไม้เป็นรูปทรงกลมที่มีความยาวประมาณ 1 นิ้ว โดยจุกไวน์นั้นมีไว้สำหรับการปิดขวดไวน์เพื่อให้ไวน์นั้นคงรสชาติและกลิ่นไว้จนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสมในหารดื่ม สาเหตุที่ต้องใช้ไม้เพื่อไม่ต้องการให้ไวน์นั้นปนเปื้อนกับโลหะเพราะอาจจะส่งผลต่อรสชาติของไวน์ เมื่อเราเปิดไวน์ดื่มแล้ว จุกไวน์นั้นจะเป็นส่วนที่ไม่ได้มีการใช้งานอีก ผู้ผลิตจึงได้คิดค้นที่จะนำจุกไวน์มาประยุกต์ใช้เพื่อทำเป็นแฟลชไดร์ฟที่มีทั้งดีไซน์ที่แปลกใหม่ และยังเป็นการนำของเหลือใช้มาสร้างคุณค่าได้อีกด้วย