ผลงานปลั๊กไฟ สกรีนโลโก้ A&P

...

ผลงาน แฟลชไดร์ฟ สกรีนโลโก้ usb-perfect

โรงงานผลิตแฟลชไดร์ฟ พร้อมสกรีนโลโก้ฟรี! ขั้นต่ำน้อย มีโรงงานในไทย มีโกดังสต็อคในไทย พร้อมผลิต

  • สั่งทำเพื่อเป็นของแจก ของสมนาคุณ ของพรีเมี่ยม หรือของขวัญในโอกาสต่าง ๆ
  • สามารถสั่งทำเป็นชื่อ ข้อความ โลโก้ ลวดลาย ได้ตามต้องการ

สนใจสินค้า โทร. 02-4081377 หรือ ไลน์ @premiumperfect

ผลงานแฟลชไดร์ฟอื่น ๆ













เหตุผลที่ไม่ควรใช้งานแฟลชไดร์ฟร่วมกับผู้อื่น

อย่างที่ทราบกันดีว่าในการใช้งานอุปกรณ์ไอที เช่น คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ แล็ปท็อป แท็บเล็ต สำหรับกิจกรรมการทำงาน การเรียนต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน มีแก็ดเจ็ตชิ้นนึงที่ค่อนข้างมีความสำคัญในการใช้งานควบคู่กันเพื่อให้กิจกรรมการทำงานต่าง ๆ ของผู้ใช้งานลื่นไหลมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็คือ...

อย่างที่ทราบกันดีว่าในการใช้งานอุปกรณ์ไอที เช่น คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ แล็ปท็อป แท็บเล็ต สำหรับกิจกรรมการทำงาน การเรียนต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน มีแก็ดเจ็ตชิ้นนึงที่ค่อนข้างมีความสำคัญในการใช้งานควบคู่กันเพื่อให้กิจกรรมการทำงานต่าง ๆ ของผู้ใช้งานลื่นไหลมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็คือ “แฟลชไดร์ฟ” สำหรับจัดเก็บ ส่งต่อ โอนถ่ายไฟล์ข้อมูลต่าง ๆ นั่นเองซึ่งมีมากมายหลายแบบอย่างเช่น Wooden Usb, Leather Usb, Card Usb เป็นต้น และบ่อยครั้งการใช้งานแฟลชไดร์ฟสำหรับกิจกรรมการทำงาน การเรียนต่าง ๆ  ของผู้ใช้งานหลายคนก็อาจเป็นไปในลักษณะของการใช้งานร่วมกันกับบุคคลอื่น ไม่ว่าจะเป็นการหยิบยืมชั่วคราว หรือการแบ่งปันแก็ดเจ็ตกันใช้งานในระยะยาว ซึ่งแน่นอนว่าการใช้งานในลักษณะย่อมมีข้อดีตรงที่สามารถช่วยให้ผู้ใช้งานบางส่วนประหยัดต้นทุนในการควักเงินซื้อตัวแก็ดเจ็ตมาใช้งานนั่นเอง ทั้งยังสามารถแชร์ข้อมูลให้กันได้อย่างสะดวกอีกด้วย แต่ทว่าขณะเดียวกันก็ตามมาด้วยข้อเสีย และความเสี่ยงในการใช้งานข้อมูล รวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ หลายประการเช่นกัน เรียกได้ว่าเมื่อช่างน้ำหนักดูแล้ว ข้อดีที่ได้จากการใช้งานแฟลชไดร์ฟร่วมกันในหมู่ผู้ใช้งานหลายคนอาจจะไม่คุ้มค่าสำหรับข้อเสีย และความเสี่ยงที่จะตามมาสักเท่าไหร่ ในบทความนี้จึงได้รวบรวมเอาข้อเสียและความเสี่ยงต่าง ๆ จากการใช้งานแฟลชไดร์ฟร่วมกันมาแบ่งปันให้ผู้ใช้งานได้ทราบกัน

ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ข้อเสียใหญ่อย่างแรกที่เห็นได้ชัดในการใช้งานแฟลชไดร์ฟร่วมกันในหมู่ผู้ใช้งานหลายคนก็คือ ความเป็นส่วนตัวของข้อมูลที่จะลดทอนลงไปมากเลยนั่นเอง เพราะแน่นอนว่าเมื่อเป็นการใช้งานร่วมกันหลายคน ผู้ใช้งานแต่ละคนย่อมไม่สามารถที่จะจัดเก็บไฟล์ส่วนตัว หรือไฟล์ที่ไม่ต้องการแชร์กับผู้อื่นลงไปได้ และในการจัดเก็บไฟล์งานที่จำเป็นต่าง ๆ ลงไป ก็ย่อมเท่ากับว่าผู้อื่นสามารถเข้าถึง เปิดอ่าน หรือแก้ไขไฟล์ของเราได้ด้วย

ความปลอดภัยจากโปรแกรมไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ลดน้อยลง เมื่อเป็นการใช้งานร่วมกัน หรือแชร์กันใช้งานกับผู้ใช้งานหลายคนก็แน่นอนว่าสิ่งที่จะตามมาก็คือ การนำแฟลชไดร์ฟไปเสียบเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์หลายตัว รวมถึงเสียบใช้งานกับอุปกรณ์ต่างแพลตฟอร์มด้วย และนั่นก็ย่อมทำให้ความเสี่ยงเรื่องการรักษาความปลอดภัย หรือการถูกเข้าถึง โจมตีโดยไวรัส โปรแกรมไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ มีมากขึ้นไปโดยอัตโนมัติ เพราะเราไม่สามารถทราบได้ว่าบนอุปกรณ์ของผู้ใช้งานคนอื่น ๆ มีโปรแกรมไม่พึงประสงค์ใด ๆ แอบแฝงอยู่หรือไม่

ความเสี่ยงที่แก็ดเจ็ตจะชำรุดเสียหายจากการเสียบใช้งานกับอุปกรณ์ต่างแพลตฟอร์ม อย่างที่ทราบกันดีว่าในการใช้งานร่วมกันกับผู้ใช้งานหลายคน ย่อมทำให้ตัวแฟลชไดร์ฟถูกนำไปเสียบใช้งานเข้ากับอุปกรณ์หลายตัว และบางตัวก็อาจเป็นอุปกรณ์คนละแพลตฟอร์ม หรือมีระบบปฏิบัติการที่แตกต่างกัน ซึ่งความต่างของแพลตฟอร์มนี้เองย่อมนำมาซึ่งความต่างของคำสั่งดิจิทัลในการเรียกดู เข้าถึง ไฟล์ข้อมูลบนแฟลชไดร์ฟด้วยเช่นกัน การที่ตัวแก็ดเจ็ตต้องรับคำสั่งการทำงานที่แตกต่างกัน สลับไปมาตลอดก็จะนำมาซึ่งความเสี่ยงที่แผงวงจรจะเสื่อมสภาพ หรือเสียหายได้เร็วขึ้นกว่าปกตินั่นเอง

จัดกลุ่มไฟล์ ค้นหาเรียกใช้ไฟล์ต่าง ๆ ได้ยาก อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้การใช้งานแฟลชไดร์ฟร่วมกันในหมู่ผู้ใช้งานหลายคนดูจะมีข้อเสียมากกว่าก็คือ การจัดการไฟล์ จัดกลุ่มไฟล์ ค้นหาและเรียกใช้ไฟล์ข้อมูลต่าง ๆ ที่จะยากกว่าการใช้งานเป็นแก็ดเจ็ตส่วนตัวนั่นเอง เพราะเมื่อมีผู้ใช้งานหลายคน ก็ย่อมมีการบันทึกไฟล์ หรือสร้างไฟล์จากผู้ใช้หลายคนตามไปด้วย จำนวนไฟล์ที่ถูกบันทึกก็ย่อมมีมากด้วยเช่นกัน วิธีการจัดกลุ่มไฟล์ การตั้งชื่อโฟลเดอร์ของผู้ใช้แต่ละคน ก็อาจแตกต่างกันออกไปตามความคุ้นเคยด้วย ทั้งนี้เพื่อป้องกันการสูญหายของแฟลชไดร์ฟควรเลือกใช้ Package แฟลชไดร์ฟ มีขนาดใหญ่กว่าแฟลชไดร์ฟจะได้ไม่สูญหายง่าย

เช็คลิสต์ สิ่งที่ไม่ควรทำ ในการใช้งานแฟลชไดร์ฟ Type C

เมื่อพูดถึงแก็ดเจ็ตเสริมสำหรับใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ไอที เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต แล็ปท็อป ในปัจจุบัน ก็แน่นอนมีแก็ดเจ็ตชิ้นนึงที่ได้รับความนิยมใช้งานมากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นก็คือแฟลชไดร์ฟซึ่งมีหลากหลายแบบมากมายเช่น wooden usb, metal usb, leather usb หรือแฟลชไดร์ฟ Type C แฟลชไดร์ฟที่มีพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB-C...

เมื่อพูดถึงแก็ดเจ็ตเสริมสำหรับใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ไอที เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต แล็ปท็อป ในปัจจุบัน ก็แน่นอนมีแก็ดเจ็ตชิ้นนึงที่ได้รับความนิยมใช้งานมากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นก็คือแฟลชไดร์ฟซึ่งมีหลากหลายแบบมากมายเช่น wooden usb, metal usb, leather usb หรือแฟลชไดร์ฟ Type C แฟลชไดร์ฟที่มีพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB-C นั่นเอง ทั้งนี้เดิมทีแล้วแก็ดเจ็ตชิ้นดังกล่าวถือว่าเป็นไอเทมที่ผู้ใช้งานอุปกรณ์ไอทีรู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่พอร์ตเชื่อมต่อมาตรฐานที่ติดมากับตัวแก็ดเจ็ตเป็นเวลานานนับสิบปีนั้นจะเป็นพอร์ต USB Type A ขณะที่อุปกรณ์พกพาเจเนอเรชั่นใหม่ ๆ นั้นไม่ได้มาพร้อมกับพอร์ต USB-A ทำให้ช่วงไม่กี่ปีหลังที่ผ่านมานี้ ความนิยมในการใช้งานแฟลชไดร์ฟลดน้อยถอยลงไปพอสมควร ก่อนที่แฟลชไดร์ฟ USB-C จะถูกเปิดตัวออกสู่ตลาด และทำให้ผู้ใช้งานบางส่วนกลับมาพกพาแฟลชไดร์ฟ Type-C ไว้ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์พกพาอย่างสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือแล็ปท็อป อย่างไรก็ตามในการใช้งานแฟลชไดร์ฟ พอร์ต USB-C ก็มีข้อควรระวังที่แตกต่างไปจากพอร์ต USB-A ที่ผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ ควรระมัดระวังอยู่หลายประการด้วยกัน ในบทความนี้จึงได้รวบรวมเอาสิ่งที่ควรระวัง และหลีกเลี่ยงในการใช้งานไอเทมชิ้นนี้มาบอกกล่าวให้ได้ทราบกัน

ไม่ใช่สาย/แก็ดเจ็ตแปลงพอร์ต เกินความจำเป็น อย่างที่ทราบกันว่าแฟลชไดร์ฟในยุคเริ่มต้นที่เราคุ้นเคยกันมีพอร์ตมาตรฐานแบบเดียว ซึ่งก็คือ USB-A และในการใช้งานจริง ผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ ก็แทบไม่มีความจำเป็นต้องใช้เชื่อมต่อเข้ากับพอร์ตลักษณะอื่น ๆ เพราะอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกันอย่างคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือแล็ปท็อป ก็มีพอร์ตเชื่อมต่อมาตรฐานเป็น USB-A เช่นกัน ทว่าในปัจจุบันนี้แตกต่างออกไป พอร์ต USB-C ไม่ใช่เพียงพอร์ตเชื่อมต่อมาตรฐานเดียวเท่านั้น แต่คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือแล็ปท็อปหลาย ๆ รุ่นก็ยังคงมาพร้อมกับพอร์ตแบบ USB-A นอกจากนี้ก็ยังมีพอร์ตรูปแบบอื่น ๆ ที่อยู่ในอุปกรณ์พกพา เช่น USB-B, Lightning อีก ผู้ใช้งานบางส่วนจึงอาจมีความต้องการใช้งานพอร์ตการเชื่อมต่อมากกว่า 1 พอร์ตขึ้นไป และทำให้ตัดสินใจเลือกหาขั้วแปลงพอร์ต หรือสายแปลงพอร์ตมาต่อพ่วงกับพอร์ต USB-C ของตัวแฟลชไดร์ฟอีกทีนึง ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะแม้ว่าจะไม่มีแบรนด์ผู้ผลิตรายใดออกมาแนะนำโดยตรงว่าไม่ควรใช้งานลักษณะดังกล่าว แต่ด้วยสถาปัตยกรรมของแก็ดเจ็ตชิ้นนี้ที่เป็นการใช้คำสั่งการทำงานแบบดิจิทัล และมีการส่งกระแสไฟและแปลงสัญญาณไปยังพอร์ตเชื่อมต่อเมื่อใช้งานนั้น การต่อพ่วงขั้วแปลงสัญญาณเพิ่มเติม จึงมีแนวโน้มที่จะรบกวนคำสั่งการทำงาน และอาจก่อให้เกิดเอฟเฟ็กต์ในทางลบได้

เสียบใช้งานโดยไม่สแกนไวรัส ในการใช้งานแฟลชไดร์ฟ ผู้ใช้งานหลายคนอาจจะคุ้นเคยกับการกดสแกนไวรัสเมื่อเสียบใช้งานบนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือแล็ปท็อป ก่อนที่จะเปิดดูข้อมูลบนไดร์ฟ เพื่อใช้งานไฟล์ข้อมูลต่าง ๆ หรือคัดลอก ส่งต่อ แต่สำหรับการใช้งานแฟลชไดร์ฟ USB-C กับอุปกรณ์พกพา สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หลายคนอาจจะหลงลืมถึงขั้นตอนดังกล่าวไป ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว แม้ว่าระบบของอุปกรณ์พกพา เช่น Android, IOS, Ipad OS จะมีฟังก์ชั่นป้องกันความปลอดภัยในตัว สกรีนแอปพลิเคชั่นอันตรายบนสโตร์อัตโนมัติ แต่การสแกนไวรัสจากไดร์ฟที่เชื่อมต่อเข้าไปใหม่ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ เพราะไวรัสที่อาจแฝงอยู่กับไฟล์ต่าง ๆ ในแฟลชไดร์ฟถือเป็นคนละส่วนกับที่อยู่บนอุปกรณ์ จึงอาจอยู่นอกเหนือการมองเห็นและเรียกใช้ฟังก์ชั่นความปลอดภัยอัตโนมัติของอุปกรณ์นั่นเอง

ติดตั้งแอปพลิเคชั่นช่วยจัดการไดร์ฟต่าง ๆ อีกหนึ่งข้อควรระวังที่ต้องบอกว่าค่อนข้างอันตรายในการใช้งานแฟลชไดร์ฟ Type C บนอุปกรณ์พกพาอย่างสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตก็คือ การติดตั้งแอปพลิเคชั่นเสริมช่วยจัดการข้อมูลบนไดร์ฟไว้ใช้งานควบคู่กันนั่นเอง เพราะแอปพลิเคชั่นลักษณะนี้มีให้ดาวน์โหลดอยู่บนสโตร์จำนวนมาก และการใช้งานก็เท่ากับการยินยอมให้ตัวแอปพลิเคชั่นสามารถเข้าถึงไฟล์ข้อมูลต่าง ๆ บนไดร์ฟของเรา ดังนั้นผู้ใช้งานจึงควรหลีกเลี่ยงการติดตั้งแอปพลิเคชั่นลักษณะดังกล่าวนี้ และใช้เพียงแอปพลิเคชั่นจัดการไดร์ฟที่ติดมากับอุปกรณ์ หรือเป็นแอปพลิเคชั่นทางการจากแบรนด์ผู้ผลิตแฟลชไดร์ฟที่เราใช้งานเท่านั้นและเพื่อป้องกันการสูญหายของแฟลชไดร์ฟควรเอาไว้กับ gps tracker ทำให้เห็นพิกัดของแฟลชไดร์ฟง่ายต่อการหา

 

ผลงานจริงจากโรงงาน แฟลชไดร์ฟ เลเซอร์โลโก้ CGH HOSPITAL

...

 ผลงานจริงจากโรงงาน แฟลชไดร์ฟ เลเซอร์โลโก้ CGH HOSPITAL

ผลงาน แฟลชไดร์ฟ สกรีนโลโก้ usb-perfect

โรงงานผลิตแฟลชไดร์ฟ พร้อมสกรีนโลโก้ฟรี! ขั้นต่ำน้อย มีโรงงานในไทย มีโกดังสต็อคในไทย พร้อมผลิต

  • สั่งทำเพื่อเป็นของแจก ของสมนาคุณ ของพรีเมี่ยม หรือของขวัญในโอกาสต่าง ๆ
  • สามารถสั่งทำเป็นชื่อ ข้อความ โลโก้ ลวดลาย ได้ตามต้องการ

สนใจสินค้า โทร. 02-4081377 หรือ ไลน์ @premiumperfect

ผลงานแฟลชไดร์ฟอื่น ๆ













5 เหตุผล ที่ทำให้แฟลชไดร์ฟ Type C ได้รับความนิยมมากกว่าพอร์ตไทป์อื่น ๆ

อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าแฟลชไดร์ฟ ถือเป็นแก็ดเจ็ตจัดเก็บข้อมูลชิ้นนึงที่ชาวไอทีจำนวนมากใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือแล็ปท็อปมาเป็นเวลานานแล้ว ก่อนที่ในช่วงหลัง ๆ กระแสความนิยมในการใช้งานแก็ดเจ็ตชิ้นนี้จะลดน้อยถอยลงไป...

อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าแฟลชไดร์ฟ ถือเป็นแก็ดเจ็ตจัดเก็บข้อมูลชิ้นนึงที่ชาวไอทีจำนวนมากใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือแล็ปท็อปมาเป็นเวลานานแล้ว ก่อนที่ในช่วงหลัง ๆ กระแสความนิยมในการใช้งานแก็ดเจ็ตชิ้นนี้จะลดน้อยถอยลงไป เนื่องจากผู้ใช้สามารถใช้ทางเลือกการจัดเก็บข้อมูลแบบอื่น ๆ ทดแทนได้ เช่น การใช้ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟแบบพกพา การจัดเก็บบนระบบคลาวด์ออนไลน์ เป็นต้น อย่างไรก็ตามในช่วง 1-2 ปีหลังนี้ บรรดาผู้ผลิตแก็ดเจ็ตรายต่าง ๆ ได้พากันพัฒนาแฟลชไดร์ฟให้มีสเปคที่ทันยุคทันสมัยมากขึ้นมีหลากหลายแบบมากขึ้นเช่น Pen Usb ที่เป็นการใช้งานแบบ 2 In 1 ที่สามารถใช้เป็นปากกาเขียนงานได้และใช้เป็นแฟลชไดร์ฟได้ Rubber Usb เป็นแฟลชไดร์ฟยางที่ใช้ทำเป็นสายรัดข้อมือและพวงกุญแจไม้ตกแต่งได้และทำให้เกิดเป็นแฟลชไดร์ฟที่มาพร้อมกับพอร์ตเชื่อมต่อ USB Type C ออกมาวางจำหน่ายสู่ตลาด ซึ่งก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้ใช้งานทั่วโลก อาจเรียกได้ว่าการมาของแฟลชไดร์ฟ USB-C นี้ ทำให้ผู้ใช้งานที่เลิกใช้งานแก็ดเจ็ตชิ้นกลับมาใช้งานอีกครั้งก็ว่าได้ ดังนั้นเราจึงได้เเอา 5 เหตุผลสำคัญมาบอกกล่าวให้ได้ทราบกันว่าเพราะอะไร แฟลชไดร์ฟ USB Type C นี้ ถึงได้รับความนิยมในหมู่ผู้ใช้งานมากกว่าพอร์ตเชื่อมต่อไทป์อื่น ๆ

อุปกรณ์เจเนอเรชั่นใหม่ ๆ มาพร้อมกับพอร์ต USB-C เหตุผลแรกที่ทำให้แฟลชไดร์ฟ USB-C ได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ใช้งานอุปกรณ์ไอทีมากกว่าพอร์ตเชื่อมต่อไทป์อื่น ๆ ก็คือ การที่อุปกรณ์ไอทีเจเนอเรชั่นใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นแล็ปท็อป คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรืออุปกรณ์ขนาดพกพาอื่น ๆ มักจะมาพร้อมกับพอร์ตเชื่อมต่อ USB-C นั่นเอง โดยบางอุปกรณ์ก็อาจจะยังให้พอร์ต USB-A มาด้วย แต่บางอุปกรณ์ก็ให้มาเพียงแค่ USB-C เท่านั้น ผู้ใช้งานจำนวนมากจึงมองว่า แฟลชไดร์ฟ USB-C สามารถใช้งานเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกกว่านั่นเอง

ใช้ร่วมกับอุปกรณ์ต่างแพลตฟอร์มได้อย่างสะดวก เหตุผลสำคัญประการต่อมาที่ทำให้แฟลชไดร์ฟ USB-C มีกระแสความนิยมจากผู้ใช้งานมากกว่าพอร์ตเชื่อมต่อไทป์อื่น ๆ ก็คือ การที่สามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์ต่างแพลตฟอร์มได้อย่างสะดวกนั่นเอง เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าอุปกรณ์พกพา เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต มักจะมาพร้อมกับพอร์ต USB-C ขณะที่แฟลชไดร์ฟเจเนอเรชั่นก่อน ๆ นั้นจะมาพร้อมกับพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB-A เท่านั้น ทำให้การสลับใช้งานกับอุปกรณ์ต่างแพลตฟอร์มทำได้ไม่สะดวกนัก โดยจำเป็นต้องพึ่งพาอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมอย่างสายแปลงพอร์ต หรือขั้วแปลงพอร์ต

การรับส่งข้อมูลที่รวดเร็วกว่า แม้ว่าลักษณะ หรือ Type ของพอร์ตเชื่อมต่อแต่ละ Type จะไม่ได้ส่งผลต่อความรวดเร็วในการรับส่งข้อมูลโดยตรง แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่าพอร์ตเชื่อมต่อ USB นั้นถูกพัฒนาเวอร์ชั่นมาเรื่อย ๆ ตามลำดับเวลา และเวอร์ชั่นหลัง ๆ ก็ย่อมมีประสิทธิภาพในการรับส่งข้อมูลที่รวดเร็วกว่า ซึ่งด้วยความที่พอร์ต USB Type C เพิ่งจะถูกพัฒนาออกมาในช่วงหลังนี้เอง จึงทำให้ตัวพอร์ตเชื่อมต่อมักมาพร้อมกับเวอร์ชั่นหลัง ๆ ด้วยเช่นกัน ผู้ใช้งานจึงมักสังเกตเห็นได้ว่าแฟลชไดร์ฟ USB-C สามารถรับส่งข้อมูลได้รวดเร็วกว่าแฟลชไดร์ฟไทป์อื่นที่ตนเองเคยใช้งานมา จึงกลายเป็นกระแสความนิยมชื่นชอบในประสิทธิภาพของแฟลชไดร์ฟ Type C ด้วยนั่นเอง

ประโยชน์ใช้งานที่คุ้มค่าในราคาเบา ๆ หากย้อนกลับไปในช่วงที่การจัดเก็บไฟล์ข้อมูลดิจิทัลต่าง ๆ ยังมีทางเลือกไม่มากนัก และยังไม่มีระบบจัดเก็บออนไลน์อย่างคลาวด์ ผู้ใช้งานหลายคนคงพอจะจดจำราคาของแก็ดเจ็ตอย่างแฟลชไดร์ฟ กับขนาดพื้นที่จัดเก็บที่ได้รับได้ว่าช่วงเรทราคาจำหน่ายนั้นไม่ใช่ระดับเรทราคาถูกๆ ขนาดพื้นที่จัดเก็บ 16Gb เคยมีราคาหลักพันบาทเลยด้วยซ้ำ ทว่าปัจจุบันแฟลชไดร์ฟ USB-C ที่มีวางจำหน่ายอยู่ทั่วไปในตลาดนั้นถือว่ามีเรทราคาที่ถูกลงและคุ้มค่าขึ้นมากทีเดียว

มีตัวเลือกสินค้าจากแบรนด์ผู้ผลิตรายใหญ่ให้เลือกใช้ หากพูดถึงแฟลชไดร์ฟพอร์ต USB-A ที่เราคุ้นเคยกันในช่วงหลายปีก่อนหน้า ก็แน่นอนว่าตัวเลือกสินค้าที่มีให้เราได้เลือกใช้ในตลาดนั้นมักจะเป็นสินค้าจากแบรนด์ผู้ผลิตแก็ดเจ็ตโดยเฉพาะ ซึ่งไม่ใช่แบรนด์ผู้ผลิตอุปกรณ์ไอทียักษ์ใหญ่รายต่าง ๆ ทว่าปัจจุบันแฟลชไดร์ฟ USB-C มีตัวเลือกสินค้าจากผู้ผลิตอุปกรณ์ไอทีรายใหญ่ต่าง ๆ เช่น HP, Xiaomi ฯลฯ วางจำหน่ายอยู่มากมายในตลาดให้ผู้ใช้อย่างเราๆ ได้เลือกใช้งาน และนั่นก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้แฟลชไดร์ฟ Type C ได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้ใช้งานมากกว่าพอร์ตไทป์อื่น ๆ   นอกจากนี้แฟลชไดร์ฟยังเป็นสิ่งที่นิยมในการนำไปจัดเป็น Gift Set เพื่อนำไปเป็นของขวัญหรือของแจกในงานต่าง ๆ

ผลงานแฟลชไดร์ฟการ์ด สกรีนโลโก้ KG SOLAR

...

ผลงาน แฟลชไดร์ฟ สกรีนโลโก้ usb-perfect

โรงงานผลิตแฟลชไดร์ฟ พร้อมสกรีนโลโก้ฟรี! ขั้นต่ำน้อย มีโรงงานในไทย มีโกดังสต็อคในไทย พร้อมผลิต

  • สั่งทำเพื่อเป็นของแจก ของสมนาคุณ ของพรีเมี่ยม หรือของขวัญในโอกาสต่าง ๆ
  • สามารถสั่งทำเป็นชื่อ ข้อความ โลโก้ ลวดลาย ได้ตามต้องการ

สนใจสินค้า โทร. 02-4081377 หรือ ไลน์ @premiumperfect

ผลงานแฟลชไดร์ฟอื่น ๆ













เทคนิคจัดกลุ่มไฟล์ 5 ประเภท บนแฟลชไดร์ฟ ให้ใช้งานง่าย ไม่เสียเวลาค้นหา

อย่างที่ทราบกันดีว่าแฟลชไดร์ฟนั้นเป็นแก็ดเจ็ตชิ้นนึงที่ผู้ใช้งานอุปกรณ์ไอทีหลายคนเลือกใช้เป็นตัวช่วยในการจัดเก็บ บันทึกไฟล์ดิจิทัลต่างๆ มีหลากหลายแบบอย่างเช่น card usb, metal usb, pen usb เป็นต้นซึ่งรูปแบบการใช้งานนั้นก็มีหลากหลาย แตกต่างกันไปตามบุคคล...

อย่างที่ทราบกันดีว่าแฟลชไดร์ฟนั้นเป็นแก็ดเจ็ตชิ้นนึงที่ผู้ใช้งานอุปกรณ์ไอทีหลายคนเลือกใช้เป็นตัวช่วยในการจัดเก็บ บันทึกไฟล์ดิจิทัลต่างๆ มีหลากหลายแบบอย่างเช่น card usb, metal usb, pen usb เป็นต้นซึ่งรูปแบบการใช้งานนั้นก็มีหลากหลาย แตกต่างกันไปตามบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการใช้จัดเก็บในรูปแบบของการแบ็คอัพไว้เพื่อป้องกันไฟล์สูญหายจากอุปกรณ์อื่นๆ การใช้งานเป็นพื้นที่จัดเก็บไฟล์หลัก เสมือนเป็น Device ชิ้นนึง สำหรับแบ่งไฟล์ข้อมูลต่างๆ จากอุปกรณ์อื่นๆมาจัดเก็บไว้ การใช้งานเป็นพื้นที่จัดเก็บไฟล์ชั่วคราว สำหรับการโอนถ่าย คัดลอก ส่งต่อกันระหว่างอุปกรณ์ อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นการใช้งานรูปแบบใด ปัญหานึงที่ผู้ใช้งานแฟลชไดร์ฟมักต้องเจอก็คือ การค้นหาไฟล์ที่จำเป็นต้องใช้งานในช่วงเวลาต่างๆ ซึ่งมักจะต้องค้นหาจากไฟล์จำนวนมากและหลากหลายประเภทที่ปะปนกันอยู่บนไดร์ฟ ทำให้บ่อยครั้งต้องเสียเวลาไปโดยใช่เหตุ และนำมาซึ่งความผิดพลาดในกิจกรรมการทำงานต่างๆ ด้วยนั่นเอง ในบทความนี้จึงจะมาแชร์เทคนิคการจัดกลุ่มไฟล์ 5 ประเภท บนแฟลชไดร์ฟ ที่จะช่วยให้ข้อมูลบนไดร์ฟของเราเป็นระเบียบ ใช้งานง่าย และไม่เสียเวลาค้นหา ให้ได้ทราบกัน

ไฟล์เอกสาร ไฟล์กลุ่มแรกที่ถ้าแยกประเภทออกมาแล้วจะช่วยให้การค้นหา เรียกใช้งานไฟล์ต่างๆ บนแฟลชไดร์ฟ ทำได้ง่ายมากขึ้นทีเดียวก็คือ ไฟล์เอกสาร ซึ่งเป็นไฟล์ส่วนใหญ่เราที่ใช้ในกิจกรรมการทำงานต่างๆ นั่นเอง โดยไฟล์เอกสารต่างๆ ควรจะถูกแยกมาไว้ในโฟลเดอร์เดียวกัน และเพื่อให้การค้นหาไฟล์สะดวกมากยิ่งขึ้นอีกก็ควรแบ่งโฟลเดอร์ย่อยออกเป็น 2 โฟลเดอร์ สำหรับไฟล์เอกสารสองประเภท ซึ่งก็คือ ไฟล์ที่สามารถแก้ไขได้ เช่น ไฟล์ word, excel กับไฟล์เอกสารที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ซึ่งก็คือ ไฟล์ pdf

ไฟล์รูปภาพ ไฟล์ประเภทต่อมาที่ไม่ควรจะถูกจัดเก็บไว้ปะปนรวมกับไฟล์อื่นๆ ก็คือ ไฟล์รูปภาพนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายส่วนตัว หรือรูปภาพสำหรับใช้ในกิจกรรมการทำงานต่างๆ ก็ตาม โดยไฟล์รูปภาพควรจะมีโฟลเดอร์แยกออกจากไฟล์ชนิดอื่นๆ นอกจากนี้ก็ยังอาจจะสร้างโฟลเดอร์แยกย่อยสำหรับไฟล์รูปภาพที่มีความละเอียดต่ำ และไฟล์รูปภาพที่มีความละเอียดสูง โดยอาจแบ่งกลุ่มตามนามสกุลของไฟล์ เช่น .JPG, ,PNG เป็นต้น วิธีนี้จะช่วยให้การค้นหา และใช้งานภาพต่างๆบนแฟลชไดร์ฟ ทำได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น

ไฟล์งานนำเสนอ ไฟล์กลุ่มต่อมาที่ควรสร้างโฟลเดอร์แยก เพื่อให้ข้อมูลบนแฟลชไดร์ฟของเราถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ และสะดวกในการเรียกใช้งานแต่ละครั้งก็คือ ไฟล์งานนำเสนอต่างๆ นั่นเอง เช่น ไฟล์ที่สร้างโดยโปรแกรม Power Point, Canva เป็นต้น ไฟล์เหล่านี้ถือว่ามีลักษณะ และวัตถุประสงค์การใช้งานที่แตกต่างจากไฟล์อื่นๆอย่างชัดเจน

ไฟล์สื่อมีเดีย ไฟล์ประเภทต่อมาที่เมื่อแยกกลุ่มออกมาจะช่วยให้การค้นหา เลือกใช้งานไฟล์ต่างๆบนแฟลชไดร์ฟสะดวกขึ้นไม่น้อยเช่นกันก็คือ ไฟล์สื่อมีเดียต่างๆ เช่น วิดีโอ ไฟล์เสียงบันทึก ไฟล์ภาพเคลื่อนไหวชนิดต่างๆ เป็นต้น โดยผู้ใช้งานอาจเลือกแบ่งกลุ่มเป็นโฟลเดอร์ย่อยเพิ่มเติมตามนามสกุลของไฟล์ หรือตามลักษณะการใช้งาน เช่น กลุ่มไฟล์มีเดียสื่อบันเทิงต่างๆ กลุ่มไฟล์มีเดียสำหรับกิจกรรมการทำงาน เป็นต้น

ไฟล์ที่ไม่มีการจัดกลุ่ม สำหรับไฟล์กลุ่มสุดท้ายที่จะช่วยทำให้ข้อมูลบนแฟลชไดร์ฟของเราเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น ค้นหาไฟล์ที่ต้องการได้รวดเร็วขึ้นก็คือ การนำเอาไฟล์ที่ไม่เข้ากลุ่มใดๆ เช่น ไฟล์สำหรับการติดตั้งต่างๆ(.exe) มารวมไว้ในโฟลเดอร์เดียวกันนั่นเอง วิธีนี้จะช่วยให้ไฟล์ที่ดูเหมือนจะปะปนกันอย่างไม่เป็นระเบียบบนแฟลชไดร์ฟนั้นเป็นระเบียบขึ้นมา และมองหาได้ง่าย เรียกใช้งานง่าย นอกจากนี้ก็ยังอาจใช้วิธีตั้งชื่อไฟล์ตามการใช้งาน เช่น ไฟล์สำหรับโปรเจค 1, ไฟล์สำหรับโปรเจค 2 เป็นต้น เพื่อให้สามารถค้นหาไฟล์แบบเจาะจงในกลุ่มนี้ง่ายมากยิ่งขึ้นอีก

นอกจากนี้แฟลชไดร์ฟก็ยังเหมาะแก่การนำไปเป็นของขวัญในงานสำคัญต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานแต่ง งานบวช งานเลี้ยง และในปัจจุบันนี้บริษัทหลาย ๆ ที่ยังนิยมที่จะนำแฟลชไดร์ฟไปจัดเป็น Gift Set เพื่อนำปแจกพนักงานหรือลูกค้า

5 ประโยชน์ของแฟลชไดร์ฟ ในยุคดิจิทัลไลฟ์สไตล์ที่หลายคนมองข้ามไป

เมื่อพูดถึงการใช้งานแฟลชไดร์ฟในปัจจุบัน ก็แน่นอนว่าผู้ใช้งานหลายคนทราบกันดีอยู่แล้วว่าเป็นแก็ดเจ็ตชิ้นนึงที่มีประโยชน์ในการช่วยจัดเก็บ บันทึกไฟล์ข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงใช้เป็นตัวช่วยในการโอนถ่ายไฟล์ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ ...

เมื่อพูดถึงการใช้งานแฟลชไดร์ฟในปัจจุบัน ก็แน่นอนว่าผู้ใช้งานหลายคนทราบกันดีอยู่แล้วว่าเป็นแก็ดเจ็ตชิ้นนึงที่มีประโยชน์ในการช่วยจัดเก็บ บันทึกไฟล์ข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงใช้เป็นตัวช่วยในการโอนถ่ายไฟล์ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ได้  แต่ขณะเดียวผู้ใช้งานหลายคนก็มองว่าในยุคสมัยปัจจุบันนี้ไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้งาน หรือพึ่งพาแก็ดเจ็ตชิ้นนี้สักเท่าไหร่ เพราะมีตัวเลือกบริการจัดการข้อมูลแบบอื่น ๆ ที่สามารถทดแทนกันได้ เช่น ระบบคลาวด์ หรือการใช้พื้นที่ความจำของอุปกรณ์พกพาแทน เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต เป็นต้น  อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงแล้ว แม้ว่าในแง่ของประโยชน์ใช้งานหลักสำหรับจัดเก็บ บันทึกไฟล์ข้อมูลต่าง ๆ ลงบนแฟลชไดร์ฟนั้น เราจะสามารถใช้ทางเลือกจัดการข้อมูลอื่น ๆ ทดแทนกันได้จริงดังกล่าว แต่ทว่าประโยชน์ใช้งานจริงของแฟลชไดร์ฟในยุคดิจิทัลไลฟ์สไตล์อย่างในปัจจุบันนี้ต้องบอกว่ามีมากกว่าที่หลายคนคิดไว้อย่างเช่น PEN USB ที่เป็นปากกาแฟลชไดร์ฟ  โดยสามารถใช้งานได้ทั้งการเขียนและการใช้งานแฟลชไดร์ฟ, RUBBER USB เป็นสายรัดข้อมือ นอกจะสามารถใช้งานจริงได้แล้วยังสามารถใส่เป็นแฟชั่นได้ด้วย และในหลาย ๆ บริบทก็มีส่วนช่วยให้ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ในแต่ละวันของเราลื่นไหล และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย ในบทความนี้จึงได้สรุป 5 ประโยชน์ของแฟลชไดร์ฟ ที่จะช่วยให้ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ของเราลื่นไหลยิ่งขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้กิจกรรมการทำงาน การเรียน และชีวิตส่วนตัวเป็นไปอย่างราบรื่นขึ้นด้วยนั้นมาบอกกล่าวให้ได้ทราบกัน

ช่วยจำแนกกลุ่มไฟล์ ประโยชน์อย่างแรกของแฟลชไดร์ฟที่ผู้ใช้งานหลายคนมักหลงลืม มองข้ามไปก็คือ ประโยชน์ในการช่วยจำแนก แยกจัดเก็บไฟล์ต่างประเภทกันนั่นเอง ทั้งนี้อย่างที่ทราบกันว่าในยุคดิจิทัลไลฟ์สไตล์อย่างในปัจจุบันนี้ ไฟล์ข้อมูลดิจิทัลต่าง ๆ ที่เราจำเป็นต้องจัดเก็บและใช้งานในแต่ละวันนั้น ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ไฟล์สำหรับกิจกรรมการเรียน หรือการทำงานเท่านั้น แต่ยังมีไฟล์ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตส่วนตัว ไฟล์ที่เกี่ยวข้องกับสังคม ความสัมพันธ์  หรือกิจกรรม ไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ เฉพาะบุคคล และบ่อยครั้งไฟล์เหล่านี้มักจะปะปนกันอยู่บนอุปกรณ์ใด อุปกรณ์หนึ่ง เช่น สมาร์ทโฟน แล็ปท็อป เป็นต้น ทำให้การค้นหา เรียกใช้งานแต่ละครั้งยุ่งยาก และกินเวลานาน การใช้แฟลชไดร์ฟเข้ามาช่วยแยกไฟล์ต่างประเภทกันออกจากอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น แยกไฟล์งานออกจากไฟล์ส่วนตัวต่าง ๆ บนสมาร์ทโฟน หรือแยกไฟล์สื่อบันเทิงต่าง ๆ บนแล็ปท็อปออกจากไฟล์งาน จะช่วยให้การจัดการกับไฟล์ข้อมูลต่าง ๆ สะดวกมากขึ้น ค้นหา และเรียกใช้ได้อย่างลื่นไหลขึ้น

สร้างความเป็นส่วนตัวแบบ 100% ประโยชน์ต่อมาที่ผู้ใช้งานหลายคนมักมองข้ามไปเช่นกันก็คือ การช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวแบบ 100% นั่นเอง ทั้งนี้แม้ว่าปัจจุบันเราจะมีทางเลือกบริการจัดการไฟล์ออนไลน์ เช่น ระบบคลาวด์ ให้สามารถใช้งานจัดเก็บ บันทึกไฟล์ต่าง ๆ ทดแทนแฟลชไดร์ฟได้ แต่ก็อย่างที่ทราบกันว่าบริการลักษณะนี้ ความเป็นส่วนตัวไม่ได้อยู่ในระดับ 100% เพราะอย่างน้อยที่สุดก็มีผู้ให้บริการที่สามารถเข้าถึงไฟล์ข้อมูลต่าง ๆ ของเราได้ และหากมีบุคคลใดล่วงรู้รหัสผ่านของบัญชีผู้ใช้คลาวด์ของเรา ความเป็นส่วนตัวก็ย่อมลดน้อยถอยลงไปอีก ขณะที่การบันทึกข้อมูลไว้บนแฟลชไดร์ฟนั้น ความเป็นส่วนตัวในการอนุญาตให้บุคคลใดเข้าถึงไฟล์ข้อมูลจะขึ้นอยู่ที่เรา 100% และยังหมดกังวลเรื่องข้อมูลรั้วไหลผ่านช่องทางออนไลน์อีกด้วย

เป็นตัวช่วยควบคุมชั่วโมงออนไลน์ แม้ว่าในยุคดิจิทัลไลฟ์สไตล์ ระบบออนไลน์ และกิจกรรมออนไลน์ต่างๆจะมีส่วนช่วยอำนวยความสะดวกให้กับชีวิตของผู้ใช้งานได้มากมาย ทั้งกิจกรรมการเรียน การทำงาน และความบันเทิง แต่ก็อย่างที่ทราบกันดีว่า การใช้เวลาออนไลน์บนอุปกรณ์ต่าง ๆ มากเกินไปนั้นสามารถส่งผลเสียต่อชีวิตได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเรื่องของสุขภาพ การเลือกปิดโหมดออนไลน์ หรือปิดการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนอุปกรณ์ต่าง ๆ ในบางช่วงเวลาบ้างจึงจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างดิจิทัลไลฟ์สไตล์แบบสมดุลได้ดีขึ้น ซึ่งการใช้งานแฟลชไดร์ฟจัดเก็บไฟล์ต่าง ๆ แทนระบบออนไลน์นี่เองจะช่วยให้เราสามารถควบคุมชั่วโมงออนไลน์ได้ดีขึ้น และจัดการกับกิจกรรมต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาการออนไลน์อยู่บนโลกอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา

ใช้งานไฟล์บางประเภทได้โดยไม่ต้องเปิดหน้าจอ ประโยชน์ต่อมาที่ผู้ใช้งานจำนวนมากหลงลืมไปเช่นกันก็คือ การใช้งานไฟล์บางประเภทจากแฟลชไดร์ฟได้โดยไม่จำเป็นต้องเปิดหน้าจออุปกรณ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะกับไฟล์สื่อบันเทิง เช่น ไฟล์เสียง ไฟล์ Audio เพลงของศิลปินต่าง ๆ ซึ่งเราสามารถเปิดไฟล์เหล่านี้ผ่านลำโพงบลูทูธได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้งานหน้าจอคำสั่งบนอุปกรณ์สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์

ช่วยประหยัดค่าบริการพื้นที่จัดเก็บไฟล์ออนไลน์ ประโยชน์อีกหนึ่งอย่างที่ทำให้แฟลชไดร์ฟยังคงเป็นไอเทมที่แสนคุ้มค่าในยุคดิจิทัลไลฟ์สไตล์นี้ก็คือ การช่วยเซฟค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าบริการพื้นที่จัดเก็บไฟล์ออนไลน์ที่จำเป็นต้องจ่ายเป็นประจำทุกเดือน หรือทุกปีนั่นเอง เพราะการควักจ่ายเงินซื้อแฟลชไดร์ฟสักอันนั้นจะทำให้เรามีพื้นที่ใช้งานจัดเก็บไฟล์ต่าง ๆ ได้ยาว ๆ ตราบที่ตัวแก็ดเจ็ตไม่ได้ชำรุด เสียหาย ดังนั้นควรเลือกใช้ PACKAGE เพื่อป้องกันการชำหลุดตกหล่นที่จะก่อให้เกิดความเสียหายของแฟลชไดร์ฟ

แฟลชไดร์ฟ ที่ฉันซื้อมา ปลอม หรือ แท้ ?

แฟลชไดร์ฟ อุปกรณ์เก็บข้อมูลที่ถูกทำสินค้าเลียนแบบมาอย่างยาวนาน ที่ถึงแม้ว่ายุคปัจจุบันมันจะเป็นอุปกรณ์ที่ผลิตได้ง่าย มีราคาถูก หาซื้อได้ง่ายมากกว่าในอดีตมีหลากหลายแบบมากมายไม่ว่าจะเป็น wooden usb, matal usb, twister usb, recycle usbเป็นต้น แต่ถึงอย่างไรสินค้าปลอมก็ยังคงมีอยู่เกลื่อนตลาดทุกยุคทุกสมัย...

แฟลชไดร์ฟ อุปกรณ์เก็บข้อมูลที่ถูกทำสินค้าเลียนแบบมาอย่างยาวนาน ที่ถึงแม้ว่ายุคปัจจุบันมันจะเป็นอุปกรณ์ที่ผลิตได้ง่าย มีราคาถูก หาซื้อได้ง่ายมากกว่าในอดีตมีหลากหลายแบบมากมายไม่ว่าจะเป็น wooden usb, matal usb, twister usb, recycle usbเป็นต้น แต่ถึงอย่างไรสินค้าปลอมก็ยังคงมีอยู่เกลื่อนตลาดทุกยุคทุกสมัย ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านมาตรวจดูกันว่า แฟลชไดร์ฟ ที่คุณครอบครองอยู่หรือเพิ่งซื้อมานั้น เป็นของแท้จริงหรือไม่ ?

 

การสำรวจ แฟลชไดร์ฟ จากภายนอก

การสำรวจที่สามารถเช็คได้ง่าย ๆ ตั้งแต่ก่อนซื้อสินค้า ก็คือการตรวจสอบคุณภาพงานภายนอกว่าเข้าข่ายจะเป็นของปลอมหรือไม่ แต่ถ้าหาคุณได้ซื้อมาแล้ว เราก็มาดูกันดีกว่าว่าระหว่างของแท้กับของปลอมมีความต่างกันอย่างไร

 

แฟลชไดร์ฟ ของปลอม

อย่างแรกของปลอมมักจะมีราคาถูกกว่าราคาที่ขายกันอยู่ในตลาดอย่างชัดเจน แต่ถ้าหากว่ามีราคาเท่ากันแล้ว ก็ต้องมาดูที่คุณภาพงานประกอบ เบอร์ของปลอมนั้นมักจะใช้วัสดุคุณภาพต่ำ หรืองานประกอบที่ไม่ละเอียด สกรีนข้อความไม่ชัด ชื่อแบรนด์มีความผิดปกติ และมักไม่มีประกันสินค้า

 

แฟลชไดร์ฟ ของแท้

ของแท้จะใช้วัสดุที่มีคุณภาพอย่างเช่น มีความทนทานมากกว่าจากงานประกอบที่มีความละเอียด การสกรีนข้อความและโลโก้มีความชัดเจนถูกต้อง มีประกันสินค้า รวมถึงราคาที่สมเหตุสมผลกับขนาดความจุ

 

ทดสอบการใช้งาน

 

แฟลชไดร์ฟ ของปลอม

แฟลชไดร์ฟ ของปลอมเมื่อเสียบแล้วมักจะขึ้น Error บ่อย ๆ หรือหากมีคุณภาพขึ้นมาหน่อยก็จะใช้งานได้ตามปกติ แต่จะใช้งานได้ไม่เต็มความจุ อย่างเช่น แฟลชไดร์ฟ ขนาด 32 GB เมื่อใช้งานจริงก็อาจจะใช้ได้แค่ 2 GB ส่วนไฟล์ที่เหลือก็จะเสียหายทั้งหมด หรืออาจมีปัญหาไฟล์หาย ไม่ก็ปัญหาอื่น ๆ ตามมา เมื่ออุปกรณ์ได้รับข้อมูลมากกว่าที่จะรับไหว

 

แฟลชไดร์ฟของแท้

การใช้งานจะทำได้ตามปกติ มีความสะดวกไหลลื่น ไม่ทำให้ไฟล์ที่เก็บไว้เสียหาย ที่สำคัญคือมีอายุการใช้งานยาวนานแม้เวลาจะผ่านไปหลายปี ก็ไม่มีอาการเสื่อมสภาพใด ๆ หากใช้งานอย่างทะนุถนอม โดยไม่ได้ทำให้วัสดุเสียหายด้วยมือของเจ้าของเอง

 

ใช้โปรแกรมช่วยตรวจสอบ

อีกหนึ่งวิธีที่สามารถตรวจสอบสินค้า แฟลชไดร์ฟ ที่ซื้อมาได้อย่างชัดเจนคือ การทดลองกับโปรแกรมที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ ทั้ง FakeFlashTest ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบความจุของแฟลชไดร์ฟ โดยใช้เพียงไม่กี่วินาทีก็รู้ผล ด้วยโหมด Quick Size Test

 

โปรแกรม RMPrepUSB ที่สามารถใช้ตรวจสอบได้ทั้ง คุณภาพความจุของแฟลชไดร์ฟ, ความเร็วในการอ่านข้อมูล หรือแม้แต่ใช่สร้าง USB แบบ Bootable สำหรับใช้ลงระบบปฏิบัติการก็ทำได้เช่นกัน

 

วิธีการซื้อแฟลชไดร์ฟที่ปลอดภัย

โดยปกติแล้วแฟลชไดร์ฟปลอมมักจะมีวางจำหน่ายอยู่ตามร้านค้าหรือย่านที่ไม่ใช่จุดจำหน่ายสินค้าคอมพิวเตอร์โดยตรง อย่างเช่น ร้านค้าข้างทาง ไม่ก็ตลาดขายของทั่วไป ซึ่งทางที่ดีคุณควรเดินทางไปยังห้างสรรพสินค้า ศูนย์บริการ หรือร้านไอที เพราะสถานที่เหล่านี้มีมาตรฐานการให้บริการที่ค่อนข้างสูง และยังมีประกันสินค้า สามารถนำมาเปลี่ยนใหม่ได้เมื่อซื้อไปแล้วเกิดพบปัญหา

นอกจากนี้เรายังสามารถสำรวจราคาตลาดของแฟลชไดร์ฟ เพื่อนนำมาเปรียบเทียบกับตัวสินค้าที่เรากำลังจะซื้อว่ามีราคาใกล้เคียงกันหรือไม่ หากมีราคาถูกกว่ามาก ก็ให้ตีเลยว่าเป็นของปลอม เนื่องจากสินค้าเหล่านี้มักใช้อะไหล่และชิ้นส่วนจากตลาดมืด ไม่ก็เป็นของไม่ผ่านมาตรฐาน QC จากโรงงานผลิต จึงเป็นที่มาของราคาที่ทำให้ถูกลง รวมถึงเป็นสาเหตุของสินค้าปลอมที่มีอายุการใช้งานต่ำกว่าของแท้ด้วย

 

สรุปแล้วหากคุณมีความคิดต้องการอยากจะซื้อแฟลชไดร์ฟ มาใช้โดยคาดหวังว่าจะต้องได้ของแท้กลับมา มันก็ต้องพิจารณากันตั้งแต่การเลือกร้านค้าว่ามีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน มีบริการรับประกันสินค้าหรือไม่ รวมถึงราคาจะต้องสมน้ำสมเนื้อกับคุณภาพ จากนั้นจึงเป็นเรื่องของการตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่ต้องมีการเช็คกันอย่างละเอียดอีกทีหนึ่ง และเพื่อการป้องกันการสูญหายของแฟลชไดร์ฟควรที่จะมี Package ที่เป็นถุงผ้าหรือกล่องไว้พกพา