5 เรื่องที่ผู้ใช้งานมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับแฟลชไดร์ฟ

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า "แฟลชไดร์ฟ" ถือเป็นแก็ดเจ็ตชิ้นนึงที่ผู้ใช้งานอุปกรณ์ไอที โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ แล็ปท็อปคุ้นเคยกันดี และมีความต้องการใช้งานในชีวิตประจำวันเพื่อเป็นที่จัดเก็บข้อมูล คัดลอก โอนถ่ายไฟล์ข้อมูลระหว่างอุปกรณ์อยู่แล้ว...

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า “แฟลชไดร์ฟ” ถือเป็นแก็ดเจ็ตชิ้นนึงที่ผู้ใช้งานอุปกรณ์ไอที โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ แล็ปท็อปคุ้นเคยกันดี และมีความต้องการใช้งานในชีวิตประจำวันเพื่อเป็นที่จัดเก็บข้อมูล คัดลอก โอนถ่ายไฟล์ข้อมูลระหว่างอุปกรณ์อยู่แล้ว ซึ่งแฟลชไดร์ฟที่ผู้ใช้งานแต่ละคนเลือกใช้ก็อาจมีสเปคที่แตกต่างกันออกไป เช่นเดียวกับรูปแบบการใช้งาน ประเภทไฟล์ข้อมูลที่จัดเก็บลงบนแฟลชไดร์ฟก็อาจแตกต่างกันไปตามความจำเป็นในการใช้งานของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตามแม้ว่าแฟลชไดร์ฟดูจะเป็นแก็ดเจ็ตที่ใช้งานง่าย ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร และมีความยืดหยุ่นในการจัดเก็บ บันทึกไฟล์ข้อมูลได้หลากหลายตามความต้องการ แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้งานในหมู่ผู้ใช้งานอยู่หลายประการด้วยกัน ในบทความนี้จึงได้รวบรวมเป็น 5 ลิสต์ ความเข้าใจผิดยอดฮิตเกี่ยวกับแฟลชไดร์ฟมาบอกกล่าวให้ได้ทราบกัน

  1. ความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลขึ้นอยู่ที่ตัวแฟลชไดร์ฟ

ความเข้าใจผิดยอดฮิตประการแรกที่ต้องบอกว่ามีส่วนถูกอยู่ แต่ไม่ทั้งหมดก็คือ ความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูล ซึ่งผู้ใช้งานหลายคนมักเข้าใจว่าการรับ-ส่งข้อมูลใดๆ จะรวดเร็วแค่ไหนก็ขึ้นอยู่ที่ประสิทธิภาพของตัวแฟลชไดร์ฟ ขึ้นอยู่กับเวอร์ชั่นพอร์ตเชื่อมต่อ USB ของตัวแก็ดเจ็ต แต่ทว่าความจริงแล้ว ยังมีอีกปัจจัยที่ส่งผลต่อความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลเช่นกัน ซึ่งก็คือ พอร์ตเชื่อมต่อบนอุปกรณ์ที่เราเสียบเชื่อมต่อนั่นเอง กล่าวคือต่อให้ตัวแก็ดเจ็ตจะใช้พอร์ต USB เวอร์ชั่นล่าสุด และทำความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลได้สูงมาก แต่หากตัวอุปกรณ์ที่เราเสียบเชื่อมต่อด้วยใช้พอร์ต USB เวอร์ชั่นต่ำกว่า ความเร็วในการรับ-ส่งก็จะถูกจำกัดด้วยพอร์ต USB ของอุปกรณ์นั่นเอง

 

  1. สามารถใช้โปรแกรมช่วยกู้คืนข้อมูลได้ หากเผลอลบทิ้งไป

ความเข้าใจผิดต่อมาที่ต้องบอกว่าผู้ใช้งานหลายคนควรระมัดระวัง เนื่องจากส่งผลต่อความปลอดภัยในการใช้งานแฟลชไดร์ฟ และอุปกรณ์ต่างๆพอสมควรก็คือ การกู้คืนไฟล์ข้อมูลที่ลบทิ้งไปแล้วบนแฟลชไดร์ฟนั่นเอง โดยผู้ใช้งานหลายคนมักเข้าใจว่าเราสามารถใช้โปรแกรมช่วยกู้คืนไฟล์ต่างๆ บนไดร์ฟที่เผลอลบไปได้ ทว่าความจริงแล้วการกู้คืนข้อมูลบนแฟลชไดร์ฟนั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด และมีอัตราการกู้คืนสำเร็จน้อยมาก เพราะการบันทึกข้อมูลงบนไดร์ฟจะเป็นลักษณะของการเขียนทับไปเรื่อยๆ เมื่อข้อมูลเดิมถูกลบไป ข้อมูลที่บันทึกลงใหม่ก็จะไปทับตำแหน่งของข้อมูลเดิม หากคุณใช้งาน แฟลชไดร์ฟไม้ แฟลชไดร์ฟโลหะหรือแฟลชไดร์ฟดีไซน์อื่นๆ ก็มีความเสี่ยงในการสูญเสียข้อมูลเช่นเดียวกัน

 

  1. แฟลชไดร์ฟที่มีความจุเยอะจะเขียน-อ่านข้อมูลได้รวดเร็วกว่าความจุขนาดเล็ก

ความเข้าใจผิดยอดฮิตต่อมาก็คือ ขนาดพื้นที่ความจุ และความเร็วในการเขียน-อ่านข้อมูล ซึ่งผู้ใช้งานบางคนมักเข้าใจว่ายิ่งตัวแฟลชไดร์ฟมีขนาดความจุมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเขียน-อ่านข้อมูลได้เร็วมากเท่านั้น ทว่าความจริงแล้วขนาดความจุแทบไม่ส่งผลต่อความเร็วในการเขียน-อ่าน ข้อมูลเลย เพราะแฟลชไดร์ฟเป็นเพียงแก็ดเจ็ตที่มีคำสั่งดิจิทัลเล็กๆ รันการทำงานอยู่ ซึ่งแตกต่างจากอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน ที่มีคำสั่งการทำงานของระบบอยู่มากมาย พื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่ว่างอยู่จึงส่งผลต่อความเร็วในการรันคำสั่งการทำงานต่างๆอย่างมีนัยสำคัญ

 

  1. แฟลชไดร์ฟจะติดไวรัส หากจัดเก็บข้อมูลไว้นานๆ

ความเข้าใจผิดต่อมาที่เกิดขึ้นกับผู้ใช้งานบางกลุ่มที่ใส่ใจเรื่องความปลอดภัยในการใช้งานอุปกรณ์ไอทีต่างๆ เป็นพิเศษ ก็คือ การหมั่นเคลียร์ข้อมูล หรือลบข้อมูลบนไดร์ฟทิ้งอยู่เสมอ เมื่อใช้งานเสร็จแล้ว เพราะหากเก็บข้อมูลไว้บนไดร์ฟนานๆ จะทำให้ติดไวรัส ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การเก็บข้อมูลทิ้งไว้บนไดร์ฟนานๆ แทบไม่ได้ส่งผลต่อความเสี่ยงในการติดไวรัสเพิ่มแต่อย่างใด หากไฟล์ข้อมูลนั้นๆ ไม่ได้มีโปรแกรมไม่พึงประสงค์ใดๆ แฝงตัวอยู่ตั้งแต่แรก

 

  1. ไม่สามารถจัดเก็บไฟล์ติดตั้งได้

อีกหนึ่งความเข้าใจผิดที่ต้องบอกว่าอาจทำให้ผู้ใช้งานหลายคนใช้แฟลชไดร์ฟได้ไม่คุ้มค่าก็คือ ไม่สามารถจัดเก็บไฟล์ติดตั้งต่างๆ เช่น .exe บนแฟลชไดร์ฟได้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เราสามารถจัดเก็บไฟล์ติดตั้งต่างๆ บนแฟลชไดร์ฟได้เช่นเดียวกับไดร์ฟประเภทอื่นๆ แม้ว่าเราจะไม่สามารถติดตั้งไฟล์นั้นๆ ลงบนไดร์ฟได้ก็ตาม ทั้งนี้ควรจัดเก็บแฟลชไดร์ฟใน Package ที่ดีเพื่อป้องกันการตกหล่นหรือศูนย์ห่น

ข้อดีและข้อเสียของแฟลชไดร์ฟไม้และแฟลชไดร์ฟโลหะ

ในยุคที่การถ่ายโอนข้อมูลเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน การเลือกใช้แฟลชไดร์ฟจึงเป็นเรื่องที่หลายคนต้องให้ความสำคัญ แต่การเลือกแฟลชไดร์ฟไม่ได้จำกัดอยู่ที่ความจุหรือความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลเท่านั้น วัสดุที่ใช้ในการผลิตก็เป็นปัจจัยสำคัญที่หลายคนคำนึงถึง...

ในยุคที่การถ่ายโอนข้อมูลเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน การเลือกใช้แฟลชไดร์ฟจึงเป็นเรื่องที่หลายคนต้องให้ความสำคัญ แต่การเลือกแฟลชไดร์ฟไม่ได้จำกัดอยู่ที่ความจุหรือความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลเท่านั้น วัสดุที่ใช้ในการผลิตก็เป็นปัจจัยสำคัญที่หลายคนคำนึงถึง วัสดุยอดนิยมในปัจจุบันคือไม้และโลหะ ซึ่งแต่ละแบบก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป มาดูกันว่าแบบไม้และแบบโลหะมีข้อดีและข้อเสียอย่างไร ควรเลือกใช้แบบใดจึงจะเหมาะสมกับความต้องการของคุณมากที่สุด

 

ข้อดีของแฟลชไดร์ฟไม้

แฟลชไดร์ฟไม้เป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่รักความเป็นธรรมชาติและต้องการลดการใช้วัสดุพลาสติก วัสดุจากไม้ให้ความรู้สึกที่อบอุ่น ดูดี และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การเลือกใช้แบบไม้ยังส่งเสริมภาพลักษณ์ในด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม ทำให้หลายคนเลือกใช้ในงานที่ต้องการสื่อถึงความเป็นธรรมชาติ เช่น ของพรีเมียมหรือของขวัญในโอกาสพิเศษ

 

นอกจากนี้ แฟลชไดร์ฟไม้ยังมีความเบาและพกพาสะดวก ด้วยน้ำหนักที่น้อยกว่าโลหะ ทำให้สามารถพกใส่กระเป๋าหรือคล้องกับพวงกุญแจได้ อีกทั้งความสวยงามจากลายไม้ธรรมชาติทำให้มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกัน

 

ข้อเสียของแฟลชไดร์ฟไม้

อย่างไรก็ตาม แฟลชไดร์ฟไม้มีข้อเสียในเรื่องความไวต่อสภาพแวดล้อม เช่น ความชื้นและความร้อน ไม้อาจบวม หรือแตกร้าวได้หากถูกเก็บไว้ในที่ที่มีความชื้นสูง หรือสัมผัสกับน้ำโดยตรง นอกจากนี้ การดูแลรักษายังเป็นสิ่งสำคัญ หากถูกขีดข่วนหรือกระแทกหนักๆ ไม้ก็อาจเสียหายได้ง่ายกว่าวัสดุอื่นๆ

 

ข้อดีของแฟลชไดร์ฟโลหะ

ในด้านของโลหะ วัสดุที่ใช้มักจะมีความแข็งแรงและทนทานมากกว่าแฟลชไดร์ฟไม้หรือพลาสติก โลหะมีความทนทานต่อการกระแทก การขีดข่วน และสามารถทนต่อสภาวะอากาศที่หลากหลายได้ เช่น อุณหภูมิสูง ความชื้น และฝุ่นละออง การเลือกใช้แฟลชไดร์ฟโลหะจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องเผชิญกับการเคลื่อนไหวหรือความเสี่ยงสูง เช่น การทำงานนอกสถานที่หรือในอุตสาหกรรม

 

แฟลชไดร์ฟโลหะยังมีภาพลักษณ์ที่ดูหรูหราและทันสมัย ด้วยความเงางามของโลหะทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในโอกาสทางธุรกิจหรือเป็นของขวัญ โลหะยังสามารถสลักชื่อหรือโลโก้ได้ง่าย ทำให้เป็นที่นิยมในกลุ่มของพรีเมียมสำหรับแจกจ่ายในงานเปิดตัวสินค้า หรือใช้เป็นของที่ระลึกในงานสำคัญต่างๆ

 

ข้อเสียของแฟลชไดร์ฟโลหะ

อย่างไรก็ตาม แฟลชไดร์ฟโลหะมีข้อเสียในด้านน้ำหนักที่มากกว่าแบบไม้หรือพลาสติก ซึ่งอาจทำให้บางคนรู้สึกไม่สะดวกในการพกพา นอกจากนี้ยังไวต่อความร้อน โลหะสามารถเก็บความร้อนและเย็นได้ง่าย หากวางไว้ในที่ที่มีแสงแดดโดยตรงหรือในรถยนต์ที่มีอุณหภูมิสูง อาจทำให้โลหะร้อนจนสัมผัสไม่สะดวก

 

นอกจากนี้ แม้ว่าแฟลชไดร์ฟโลหะจะทนทานต่อการขีดข่วนในระดับหนึ่ง แต่หากไม่มีการดูแลอย่างถูกต้อง โลหะก็อาจมีรอยขีดข่วนได้ง่าย ซึ่งทำให้ดูไม่น่าประทับใจ

 

เลือกแฟลชไดร์ฟอย่างไรดี?

 

การเลือกแฟลชไดร์ฟไม่ว่าจะเป็นไม้หรือโลหะขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานของแต่ละคน หากคุณต้องการดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ รักธรรมชาติ และต้องการสนับสนุนการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แบบไม้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม ด้วยความสวยงามจากลายไม้ที่ไม่เหมือนใคร และความเบาที่ทำให้พกพาสะดวก

 

แต่หากคุณต้องการความแข็งแรงและทนทาน ต้องการแฟลชไดร์ฟที่ใช้งานในสภาวะที่หลากหลาย เช่น การทำงานนอกสถานที่ หรือการพกพาไปในสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง แฟลชไดร์ฟโลหะก็เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มากกว่า โลหะมีความทนทานต่อการกระแทกและสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ซึ่งช่วยให้แฟลชไดร์ฟสามารถใช้งานได้ยาวนานและปลอดภัยต่อข้อมูลที่จัดเก็บ

 

สุดท้ายนี้ ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้แบบใด การดูแลรักษาเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ควรเก็บไว้ในที่แห้ง หรือเก็บไว้ใน Package ที่ปลอดภัย หลีกเลี่ยงการเก็บไว้ในที่ที่มีความร้อนหรือความชื้นสูง เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยาวนาน

ผลงานแฟลชไดร์ฟไม้ เลเซอร์โลโก้ switchasia

...

ผลงาน แฟลชไดร์ฟ สกรีนโลโก้ usb-perfect

โรงงานผลิตแฟลชไดร์ฟ พร้อมสกรีนโลโก้ฟรี! ขั้นต่ำน้อย มีโรงงานในไทย มีโกดังสต็อคในไทย พร้อมผลิต

  • สั่งทำเพื่อเป็นของแจก ของสมนาคุณ ของพรีเมี่ยม หรือของขวัญในโอกาสต่าง ๆ
  • สามารถสั่งทำเป็นชื่อ ข้อความ โลโก้ ลวดลาย ได้ตามต้องการ

สนใจสินค้า โทร. 02-4081377 หรือ ไลน์ @premiumperfect

ผลงานแฟลชไดร์ฟอื่น ๆ













ความปลอดภัยในการใช้แฟลชไดร์ฟในยุคดิจิทัล

ในยุคดิจิทัลที่เราพึ่งพาอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบพกพา เช่น แฟลชไดร์ฟ เป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องระมัดระวังเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลที่เก็บไว้ หนึ่งในความเสี่ยงที่พบบ่อยคือมัลแวร์และไวรัสที่สามารถติดมากับอุปกรณ์ได้ง่าย...

ในยุคดิจิทัลที่เราพึ่งพาอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบพกพา เช่น แฟลชไดร์ฟ เป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องระมัดระวังเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลที่เก็บไว้ หนึ่งในความเสี่ยงที่พบบ่อยคือมัลแวร์และไวรัสที่สามารถติดมากับอุปกรณ์ได้ง่าย การป้องกันและการใช้งานที่ปลอดภัยจึงเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น แฟลชไดร์ฟปากกา (Pen USB), แฟลชไดร์ฟโลหะ(Metal USB)

 

วิธีป้องกันมัลแวร์และไวรัสในแฟลชไดร์ฟ

 

มัลแวร์และไวรัสที่อาจจะซ่อนอยู่ในแฟลชไดร์ฟมักจะเข้าถึงอุปกรณ์ของเราเมื่อเราเสียบแฟลชไดร์ฟเข้ากับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เพื่อป้องกันความเสี่ยงนี้ คุณสามารถทำตามขั้นตอนง่าย ๆ เหล่านี้

 

  1. สแกนแฟลชไดร์ฟทุกครั้งก่อนใช้งาน

ก่อนที่จะใช้งานแฟลชไดร์ฟ ควรทำการสแกนด้วยซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสที่เชื่อถือได้ เพื่อตรวจหามัลแวร์หรือไวรัสที่อาจจะซ่อนอยู่ การสแกนแฟลชไดร์ฟเป็นขั้นตอนที่ไม่ควรละเลย เพราะช่วยลดความเสี่ยงในการนำไวรัสเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของคุณ

 

  1. ปิดการทำงาน AutoRun

AutoRun คือฟีเจอร์ที่ทำให้แฟลชไดร์ฟทำงานอัตโนมัติเมื่อเสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นช่องทางที่มัลแวร์สามารถรันได้ทันที ควรปิดการทำงานของ AutoRun เพื่อป้องกันการรันไฟล์ที่อาจจะเป็นอันตรายต่อระบบของคุณ

 

  1. สำรองข้อมูลสำคัญเสมอ

ในกรณีที่ข้อมูลที่อยู่ในแฟลชไดร์ฟได้รับความเสียหายจากมัลแวร์ การสำรองข้อมูลเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันความสูญเสีย จัดเก็บข้อมูลสำคัญในหลาย ๆ แหล่ง เช่น บนคลาวด์หรือในฮาร์ดไดร์ฟภายนอก เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลจะไม่สูญหายแม้แฟลชไดร์ฟของคุณจะเสียหาย

 

การเลือกแฟลชไดร์ฟที่มีระบบความปลอดภัยสูง

 

เมื่อพูดถึงแฟลชไดร์ฟที่มีความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น Metal USB หรือ Pen USB ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติพิเศษในการป้องกันมัลแวร์และไวรัส เป็นเรื่องที่ควรพิจารณาอย่างจริงจัง การเลือกแฟลชไดร์ฟที่มีระบบป้องกันการเขียนข้อมูล (write protection) ช่วยลดความเสี่ยงที่มัลแวร์จะสามารถเข้าถึงหรือเขียนข้อมูลลงในอุปกรณ์ได้ โดยเฉพาะหากคุณต้องใช้แฟลชไดร์ฟในการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์หลาย ๆ เครื่อง

 

แฟลชไดร์ฟบางรุ่นยังมาพร้อมกับการเข้ารหัสข้อมูล (encryption) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้ข้อมูลของคุณปลอดภัย การเข้ารหัสนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่มีสิทธิ์สามารถเข้าถึงข้อมูลในแฟลชไดร์ฟของคุณได้ แม้ว่าจะสูญหายหรือถูกขโมยก็ตาม

 

อัปเดตซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสและการสำรวจ package ของแฟลชไดร์ฟ

 

การอัปเดตซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสของคุณให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเสมอเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญในการป้องกันมัลแวร์ แฟลชไดร์ฟ เนื่องจากมัลแวร์และไวรัสสามารถพัฒนาและเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว การมีซอฟต์แวร์ที่อัปเดตอยู่ตลอดเวลาจะช่วยให้คุณมีความปลอดภัยมากขึ้น

 

นอกจากนี้ การตรวจสอบ Package ของแฟลชไดร์ฟก่อนการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญ Package ที่มีการปิดผนึกอย่างดีมักเป็นสัญญาณว่าแฟลชไดร์ฟยังไม่ถูกแกะใช้ก่อน และลดความเสี่ยงที่อุปกรณ์จะถูกติดมัลแวร์หรือไวรัสจากแหล่งที่ไม่ปลอดภัย

 

ความสำคัญของการเลือกแฟลชไดร์ฟที่มีคุณภาพ

 

แม้ว่าแฟลชไดร์ฟที่ราคาถูกอาจดูเป็นทางเลือกที่ดีในตอนแรก แต่ความปลอดภัยของข้อมูลเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม การเลือกแฟลชไดร์ฟที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็น Pen USB หรือ Metal USB จะช่วยให้คุณมั่นใจได้มากขึ้นว่าอุปกรณ์นี้จะมีการป้องกันมัลแวร์และไวรัสได้ดีขึ้น แฟลชไดร์ฟคุณภาพสูงมักจะมีระบบป้องกันที่ดี รวมถึงฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับข้อมูลของคุณ

 

ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้แฟลชไดร์ฟสำหรับงานประจำวัน หรือเพื่อเก็บข้อมูลสำคัญ การเลือกแฟลชไดร์ฟที่มีคุณสมบัติในการป้องกันมัลแวร์และไวรัสเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงเป็นอันดับแรก เพื่อป้องกันการสูญเสียข้อมูลที่อาจจะเกิดขึ้นในยุคดิจิทัลที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง

แฟลชไดร์ฟรุ่นใหม่ที่ควรจับตามองในปี 2024

ในปี 2024 นั้น เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแบบพกพากำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว และ แฟลชไดร์ฟก็เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยความสะดวกในการพกพาและการใช้งานง่าย แฟลชไดร์ฟรุ่นใหม่ที่ควรจับตามองในปีนี้ ไม่เพียงแค่มุ่งเน้นเรื่องของความจุและความเร็ว...

ในปี 2024 นั้น เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแบบพกพากำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว และ แฟลชไดร์ฟก็เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยความสะดวกในการพกพาและการใช้งานง่าย แฟลชไดร์ฟรุ่นใหม่ที่ควรจับตามองในปีนี้ ไม่เพียงแค่มุ่งเน้นเรื่องของความจุและความเร็ว แต่ยังมีการออกแบบที่ทันสมัยและการใช้วัสดุที่หลากหลาย เช่น แฟลชไดร์ฟโลหะ (metal USB), แฟลชไดร์ฟไม้ (Wooden USB), แฟลชไดร์ฟปากกา (USB pen), และแฟลชไดร์ฟรีไซเคิล (USB recycle) ซึ่งล้วนเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ได้หลากหลายแบบ

 

แฟลชไดร์ฟโลหะ (Metal USB)

 

ในกลุ่มของแฟลชไดร์ฟที่เน้นความทนทานแฟลชไดร์ฟโลหะ ยังคงเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นในปี 2024 ด้วยความแข็งแรงทนทานต่อการกระแทกและสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิสูงหรือความชื้น ทำให้แฟลชไดร์ฟโลหะเหมาะสำหรับการใช้งานในทุกสถานการณ์ ไม่เพียงแต่ในด้านการใช้งานที่ทนทาน แต่ดีไซน์ของแฟลชไดร์ฟโลหะยังคงมีความหรูหราและดูทันสมัย เหมาะกับการพกพาไปในงานทางธุรกิจ หรือนำไปจัด Gift Set เป็นของขวัญวันสำคัญต่าง ๆ

 

ในแง่ของการจัดเก็บข้อมูล แฟลชไดร์ฟโลหะมักมาพร้อมกับความจุที่หลากหลาย รองรับตั้งแต่ข้อมูลขนาดเล็กไปจนถึงข้อมูลขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมีการออกแบบให้บางรุ่นมีการป้องกันน้ำและฝุ่น เพิ่มความปลอดภัยให้กับข้อมูลที่จัดเก็บไว้

 

แฟลชไดร์ฟไม้ (Wooden USB)

 

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบความเป็นธรรมชาติและต้องการลดการใช้วัสดุสังเคราะห์ แฟลชไดร์ฟไม้คืออีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าจับตามองในปี 2024 ด้วยความสวยงามจากลายไม้ธรรมชาติ แฟลชไดร์ฟไม้ไม่เพียงแต่ดูดี แต่ยังมีความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการผลิตจากวัสดุธรรมชาติ ทำให้แฟลชไดร์ฟไม้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์การอนุรักษ์ธรรมชาติที่กำลังได้รับความนิยม

 

แฟลชไดร์ฟไม้เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและยังสามารถใช้เป็นของขวัญที่ดูหรูหราและอบอุ่นไปพร้อมกัน อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังเรื่องการจัดเก็บ ไม่ควรเก็บในที่ที่มีความชื้นสูง เพื่อรักษาคุณภาพของไม้และอายุการใช้งานให้นานที่สุด

 

แฟลชไดร์ฟปากกา (Pen USB)

 

แฟลชไดร์ฟปากกาเป็นนวัตกรรมที่รวมความสะดวกสองอย่างไว้ในหนึ่งเดียว นอกจากจะเป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแล้ว ยังสามารถใช้เป็นปากกาในการเขียนได้ด้วย ซึ่งถือว่าเป็น gadget ที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกในการพกพาอุปกรณ์ที่มีหลายฟังก์ชัน แฟลชไดร์ฟปากกาได้รับความนิยมมากขึ้นในปี 2024 โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่ทำงานในออฟฟิศ นักธุรกิจ หรือแม้แต่บุคคลทั่วไปที่ต้องการพกพาอุปกรณ์ที่สะดวกสบาย

 

ดีไซน์ของแฟลชไดร์ฟปากกามีความหลากหลาย ตั้งแต่ปากกาที่ดูหรูหรา เหมาะกับการใช้ในโอกาสพิเศษ ไปจนถึงแบบที่มีดีไซน์เรียบง่ายสำหรับการใช้งานประจำวัน ทั้งนี้ แฟลชไดร์ฟปากกายังสามารถพกพาได้สะดวก ไม่ว่าคุณจะใช้ในการประชุมหรือพกติดตัวไว้ในที่ทำงาน

 

แฟลชไดร์ฟรีไซเคิล (Recycle USB)

 

ในยุคที่การรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นหัวข้อที่มีความสำคัญแฟลชไดร์ฟรีไซเคิลกลายเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ใส่ใจในการลดขยะอิเล็กทรอนิกส์และรักษาสิ่งแวดล้อม แฟลชไดร์ฟรีไซเคิลผลิตจากวัสดุที่นำกลับมาใช้ใหม่ เช่น พลาสติกที่ผ่านกระบวนการรีไซเคิล หรือวัสดุธรรมชาติอื่นๆ ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดปริมาณขยะและสนับสนุนการใช้ทรัพยากรที่มีความยั่งยืน

 

ไม่เพียงแค่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แฟลชไดร์ฟรีไซเคิลยังมีดีไซน์ที่สวยงามและทันสมัยในปี 2024 โดยยังคงรักษาความทนทานและการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมที่สมบูรณ์แบบ

 

เลือกแฟลชไดร์ฟอย่างไรให้เหมาะกับคุณในปี 2024

 

ปี 2024 เป็นปีที่มีตัวเลือกของแฟลชไดร์ฟมากมาย ทั้งแฟลชไดร์ฟโลหะที่เน้นความแข็งแรงและหรูหรา, แฟลชไดร์ฟไม้ที่มาพร้อมกับความสวยงามและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม,แฟลชไดร์ฟปากกาที่มีฟังก์ชันหลากหลายในอุปกรณ์เดียว และ แฟลชไดร์ฟรีไซเคิล

ที่ช่วยส่งเสริมการใช้ทรัพยากรที่ยั่งยืน การเลือกใช้งานขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และความต้องการของแต่ละคน

 

ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้แฟลชไดร์ฟแบบใด การคำนึงถึงวัสดุ การใช้งาน และการพกพาที่สะดวกจะช่วยให้คุณได้แฟลชไดร์ฟที่ตอบโจทย์และใช้งานได้ยาวนาน

ผลงานแฟลชไดร์ฟการ์ด สกรีนโลโก้ GTCC

...

ผลงานแฟลชไดร์ฟการ์ด สกรีนโลโก้ GTCC

ผลงาน แฟลชไดร์ฟ สกรีนโลโก้ usb-perfect

โรงงานผลิตแฟลชไดร์ฟ พร้อมสกรีนโลโก้ฟรี! ขั้นต่ำน้อย มีโรงงานในไทย มีโกดังสต็อคในไทย พร้อมผลิต

  • สั่งทำเพื่อเป็นของแจก ของสมนาคุณ ของพรีเมี่ยม หรือของขวัญในโอกาสต่าง ๆ
  • สามารถสั่งทำเป็นชื่อ ข้อความ โลโก้ ลวดลาย ได้ตามต้องการ

สนใจสินค้า โทร. 02-4081377 หรือ ไลน์ @premiumperfect

ผลงานแฟลชไดร์ฟอื่น ๆ













ผลงานสายชาร์จ USB สกรีนโลโก้ TFEX

...

ผลงานสายชาร์จ USB สกรีนโลโก้ TFEX

ผลงาน แฟลชไดร์ฟ สกรีนโลโก้ usb-perfect

โรงงานผลิตแฟลชไดร์ฟ พร้อมสกรีนโลโก้ฟรี! ขั้นต่ำน้อย มีโรงงานในไทย มีโกดังสต็อคในไทย พร้อมผลิต

  • สั่งทำเพื่อเป็นของแจก ของสมนาคุณ ของพรีเมี่ยม หรือของขวัญในโอกาสต่าง ๆ
  • สามารถสั่งทำเป็นชื่อ ข้อความ โลโก้ ลวดลาย ได้ตามต้องการ

สนใจสินค้า โทร. 02-4081377 หรือ ไลน์ @premiumperfect

ผลงานแฟลชไดร์ฟอื่น ๆ













แฟลชไดร์ฟ 5 แบบ ที่ควรเลิกใช้ก่อนปี 2025

อย่างที่ทราบกันดีว่า "แฟลชไดร์ฟ" ถือได้ว่าเป็นแก็ดเจ็ตจัดเก็บข้อมูลที่มีผู้นิยมใช้งานในการจัดเก็บไฟล์ข้อมูลในชีวิตประจำวันร่วมกับอุปกรณ์ไอทีต่าง ๆ มากที่สุดชิ้นนึง ไม่ว่าจะเป็นไฟล์งาน หรือไฟล์สื่อส่วนตัวต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบัน...

อย่างที่ทราบกันดีว่า “แฟลชไดร์ฟ” ถือได้ว่าเป็นแก็ดเจ็ตจัดเก็บข้อมูลที่มีผู้นิยมใช้งานในการจัดเก็บไฟล์ข้อมูลในชีวิตประจำวันร่วมกับอุปกรณ์ไอทีต่าง ๆ มากที่สุดชิ้นนึง ไม่ว่าจะเป็นไฟล์งาน หรือไฟล์สื่อส่วนตัวต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบัน แฟลชไดร์ฟก็ได้ถูกใช้งานร่วมกับอุปกรณ์หลากหลายแพลตฟอร์ม ทั้งคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ แล็ปท็อป สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต รวมถึงอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ เช่น เครื่องเล่นสื่อ อุปกรณ์นำเสนองาน บรรดาแบรนด์ผู้ผลิตแฟลชไดร์ฟรายต่าง ๆ จึงได้มีการพัฒนา ปรับเปลี่ยนสเปคสินค้าของตัวเองให้ทันยุคทันสมัย และตอบโจทย์ความต้องการผู้ใช้งานอยู่เรื่อย ๆ และยังมีรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้นอย่างเช่น RECYCLE USB, PEN USB เป็นต้นแต่ขณะเดียวก็ยังคงมีแบรนด์ผู้ผลิตบางรายที่พยายามป้อนสินค้าที่ดูจะมีสเปคที่ตกยุค ไม่ตอบโจทย์การใช้งานในปัจจุบันเข้ามาในตลาดเรื่อยๆเช่นกัน โดยที่อาศัยกลยุทธ์ด้านราคาในการดึงดูดผู้ใช้งานให้ตัดสินใจซื้อสินค้าของตัวเอง ในบทความนี้จึงจะพากันมาเช็คลิสต์ 5 สเปคของแฟลชไดร์ฟที่ผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้งานก่อนปี 2025 เพราะนอกจากจะไม่ตอบโจทย์การใช้งานแล้ว ยังอาจนำมาซึ่งปัญหาจุกจิกต่าง ๆ มาบอกกล่าวให้ได้ทราบกัน

แฟลชไดร์ฟที่ใช้ USB เวอร์ชั่นต่ำกว่า  3.0 ลงไป สเปคแรกที่ต้องบอกว่าเตรียมตกยุคอย่างสมบูรณ์แบบในปี 2025 ก็คือ เวอร์ชั่น USB ที่ต่ำกว่า 3.0 ลงไป หรือก็คือ USB เวอร์ชั่น 2 นั่นเอง เนื่องจากประสิทธิภาพความเร็วในการรับส่งข้อมูลของพอร์ต USB เวอร์ชั่น 3 และเวอร์ชั่น 2 นั้นแตกต่างกันอยู่พอสมควร ขณะเดียวกันขนาดไฟล์ดิจิทัลต่าง ๆ ก็มีแนวโน้มที่จะมีขนาดใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การใช้งาน USB เวอร์ชั่น 2 ไม่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ดีเท่าที่ควร

ไม่มีพอร์ต USB-C สเปคต่อมาที่ถือว่าเป็นสเปคบังคับในปี 2025 แน่ ๆ ก็คือ พอร์ต USB-C นั่นเอง แม้ว่าปัจจุบันเราจะยังสามารถใช้งานแฟลชไดร์ฟที่มีพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB-A ร่วมกับคอมพิวเตอร์ได้ปกติ แต่อย่างที่ทราบกันว่าอุปกรณ์รุ่นใหม่ ๆ ล้วนมาพร้อมกับพอร์ตแบบ USB-C และในปี 2025 ก็มีแนวโน้มที่พอร์ต USB-C จะถูกนำมาใช้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ มากขึ้นอีก รวมถึงอาจถูกใช้ทดแทน USB-A ในอุปกรณ์อย่างแล็ปท็อปด้วย

ความจุต่ำกว่า 16GB สเปคต่อมาที่ต้องบอกว่าอาจจะไม่เหมาะที่จะใช้ในปี 2025 แล้วเช่นกันก็คือ แฟลชไดร์ฟที่มีขนาดความจุต่ำกว่า 16GB นั่นเอง เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าไลฟ์สไตล์การใช้งานข้อมูลดิจิทัลต่าง ๆ ของผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ นั้นมีแนวโน้มเติบโตขึ้นตลอดเวลา ปริมาณข้อมูลที่มีการแลกเปลี่ยน และใช้งานในชีวิตประจำวันเพิ่มมากขึ้นทุกปี ขณะเดียวกันขนาดไฟล์ดิจิทัลก็มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน อีกทั้งยังมีไฟล์ชนิดใหม่ๆ เพิ่มมาตลอดด้วยเช่นกัน ขนาดความจุที่น้อยกว่า 16GB จึงดูจะไม่เพียงพอสำหรับความต้องการในการจัดเก็บ แบ็คอัพข้อมูลของผู้ใช้งานส่วนใหญ่แล้ว

ไม่มีซอฟท์แวร์จัดการไฟล์ของตัวเอง สเปคอีกส่วนที่น่าจะเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับแก็ดเจ็ตจัดเก็บข้อมูลอย่างแฟลชไดร์ฟในปี 2025 ก็คือ ซอฟท์แวร์จัดการไฟล์ของตัวเองสำหรับใช้งานควบคู่กันเมื่อทำการเชื่อมต่อแฟลชไดร์ฟเข้ากับอุปกรณ์ต่าง ๆ นั่นเอง ทั้งนี้อย่างที่ทราบกันว่าในการใช้งานแฟลชไดร์ฟในปัจจุบันนี้มีความแตกต่างกับการใช้งานในยุคก่อน ๆ ตรงที่ ผู้ใช้งานได้นำไปใช้งานกับอุปกรณ์หลายแพลตฟอร์ม ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงบนคอมพิวเตอร์เท่านั้น แบรนด์ผู้ผลิตเจ้าดัง ๆ จึงได้มีการพัฒนาซอฟท์แวร์จัดการไฟล์ของตัวเองขึ้นมาเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานร่วมกับหลายแพลตฟอร์มได้อย่างสะดวกและปลอดภัย ดังนั้นเพื่อความสะดวก ป้องกันปัญหาจุกจิกต่าง ๆ ผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ จึงควรหลีกเลี่ยงแบรนด์ที่ไม่มีซอฟท์แวร์จัดการไฟล์ของตัวเอง

ไม่มีระบบรับประกัน เรื่องต่อมาอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร แต่ก็นับว่าเป็นส่วนสำคัญที่ผู้ใช้งานควรใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกหาแฟลชไดร์ฟสักอันมาไว้ใช้งาน ซึ่งก็คือ ระบบรับประกันนั่นเอง เนื่องจากแฟลชไดร์ฟถือเป็นแก็ดเจ็ตที่เกิดปัญหาชำรุดเสียหายที่ตัวฮาร์ดแวร์ได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสินค้าจากแบรนด์ผู้ผลิตรายเล็ก ๆ ดังนั้นอย่างน้อยจึงควรมีระบบรับประกันให้เราสามารถเปลี่ยน หรือคืนสินค้าได้หากเกิดการชำรุด เสียหายก่อนอายุการใช้งานที่ควรจะเป็น

นอกจากนี้ การเลือกแฟลชไดร์ฟที่มี PACKAGE ที่เหมาะสมยังช่วยเสริมความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานจัดเก็บข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิผล

 

 

5 ทางเลือก จัดเก็บ-โอนถ่ายไฟล์ ที่สามารถใช้ทดแทนแฟลชไดร์ฟได้

เมื่อพูดถึงการจัดเก็บไฟล์ข้อมูลเป็นการชั่วคราว เพื่อโอนถ่ายระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ไอทีใด ๆ ก็แน่นอนว่าผู้ใช้งานส่วนใหญ่มักนึกถึงแก็ดเจ็ตอย่างแฟลชไดร์ฟเป็นลำดับแรก ๆ เพราะนับเป็นแก็ดเจ็ตชิ้นที่ใช้งานง่าย มีขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก ทั้งยังมีราคาถูกอีกด้วย...

เมื่อพูดถึงการจัดเก็บไฟล์ข้อมูลเป็นการชั่วคราว เพื่อโอนถ่ายระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ไอทีใด ๆ ก็แน่นอนว่าผู้ใช้งานส่วนใหญ่มักนึกถึงแก็ดเจ็ตอย่างแฟลชไดร์ฟเป็นลำดับแรก ๆ เพราะนับเป็นแก็ดเจ็ตชิ้นที่ใช้งานง่าย มีขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก ทั้งยังมีราคาถูกอีกด้วย อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงยังมีตัวเลือกการจัดเก็บข้อมูลชั่วคราว และโอนถ่ายระหว่างอุปกรณ์แบบอื่น ๆ อีกมากมายที่สามารถใช้งานทดแทนแฟลชไดร์ฟได้ และผู้ใช้งานบางส่วนก็มองว่าการใช้แฟลชไดร์ฟนั้นมีข้อเสียอยู่ไม่น้อยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับปัญหาอาการชำรุด เสียหายที่ส่งผลให้ไฟล์ข้อมูลที่บันทึกไว้สูญหายไปด้วย ในบทความนี้จึงได้รวบรวมเอา 5 ทางเลือกการจัดเก็บข้อมูลและโอนถ่ายไฟล์รูปแบบต่าง ๆ ที่สามารถใช้ทดแทนแฟลชไดร์ฟได้มาแนะนำบอกกล่าวให้ได้ทราบกัน

ใช้ External Harddisk ผู้ใช้งานหลายคนน่าจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า Harddisk นั้นเป็นตัวจัดเก็บข้อมูลที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือแล็ปท็อป สำหรับใช้เป็นหน่วยความจำภายในตัวเครื่องที่คอยจัดเก็บข้อมูลทุกอย่างที่ผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ กดบันทึกลงไป แต่สิ่งที่ผู้ใช้งานบางส่วนอาจจะยังไม่ทราบก็คือฮาร์ดดิสก์นั้นก็สามารถใช้งานเป็นแก็ดเจ็ตเสริมสำหรับต่อพ่วงเป็นหน่วยความจำภายนอกแทนแฟลชไดร์ฟได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น External Harddisk สำเร็จรูปที่มีวางจำหน่ายอยู่ทั่วไปตามร้านขายแก็ดเจ็ต อุปกรณ์ไอที หรือฮาร์ดดิสก์ทั่วไปที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น แล็ปท็อปที่ชำรุด เสียหายแล้ว เราก็สามารถถอดเอาฮาร์ดดิสก์มาใช้งานเป็น External Harddisk ได้เช่นกัน

E-mail เครื่องมือพื้นฐานตัวนึงที่สามารถใช้งานจัดเก็บข้อมูลเป็นการชั่วคราว และโอนถ่ายข้อมูลทดแทนแฟลชไดร์ฟได้ แต่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่มักมองข้ามไปก็คือ E-mail หรือบริการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ของผู้ให้บริการออนไลน์แพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Google นั่นเอง ทั้งนี้ปัจจุบันการรับส่งอีเมลนั้นรองรับการแนบไฟล์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นไฟล์เอกสาร รูปภาพ หรือไฟล์มีเดียเคลื่อนไหวต่าง ๆ ดังนั้นผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ จึงสามารถใช้เป็นพื้นที่จัดเก็บและโอนถ่ายไฟล์ระหว่างอุปกรณ์ได้เช่นกัน ซึ่งวิธีการก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร เพียงแค่สมัครบัญชีอีเมลของผู้ให้บริการใด ๆ ตั้งแต่สองบัญชีขึ้นไป เพื่อใช้บัญชีใดบัญชีนึงแนบไฟล์ส่งไปยังอีกบัญชี จากนั้นทำการล็อกอินบัญชีรับอีเมลบนอุปกรณ์ใด ๆ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์ลงเครื่อง ก็เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการโอนถ่ายไฟล์

External SSD แก็ดเจ็ตอีกชิ้นนึงที่สามารถใช้งานทดแทนแฟลชไดร์ฟได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง และยังรองรับการติดตั้งโปรแกรมต่าง ๆ ลงไปได้ด้วยก็คือ External SSD ที่มีวางจำหน่ายอยู่ทั่วไปเช่นกันนั่นเอง ทว่าข้อเสียของ SSD ก็คือ ราคาที่สูงกว่า และขนาดที่ไม่ได้เล็กกะทัดรัดมากนักเมื่อเทียบกับแฟลชไดร์ฟ แต่สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการความรวดเร็วและพื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ SSD ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย หากคุณกำลังมองหาอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่ไม่เพียงแต่ใช้งานได้สะดวก แต่ยังให้การทำงานที่รวดเร็ว Metal Usb หรือ Wooden Usb ก็อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ซึ่งเป็นแฟลชไดร์ฟที่มีความทนทานและดีไซน์ทันสมัย

บัญชีโซเชียลมีเดีย อีกหนึ่งตัวเลือกการจัดเก็บและโอนถ่ายข้อมูลที่หลายคนอาจนึกไม่ถึง แต่สามารถใช้งานได้ดีทีเดียวก็คือ บัญชีโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ที่เราใช้งานกันในชีวิตประจำวันอยู่แล้วนั่นเอง ซึ่งบัญชีโซเชียลฯเหล่านี้ต่างก็รองรับการอัพโหลดไฟล์รูปภาพ วิดีโออยู่แล้ว และแม้ว่าประโยชน์จริงๆ ของบัญชีโซเชียลฯจะเป็นการแชร์รูปภาพ วิดีโอต่าง ๆ ให้บุคคลอื่น ๆ ได้รับชม แต่เราก็สามารถเลือกตั้งค่าความเป็นส่วนตัวให้เฉพาะเจ้าของบัญชี ซึ่งก็คือตัวเราเห็นเท่านั้นได้ เราจึงสามารถใช้บัญชีโซเชียลฯเหล่านี้โอนถ่ายไฟล์มีเดียต่างๆ ระหว่างอุปกรณ์ ทดแทนการใช้งานแฟลชไดร์ฟได้เช่นกัน

ใช้ระบบคลาวด์ อีกหนึ่งตัวเลือกการจัดเก็บ โอนถ่ายไฟล์ที่ผู้ใช้งานหลายคนอาจคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว แต่บางคนก็อาจจะไม่เคยใช้งานมาก่อนก็คือระบบคลาวด์ หรือพื้นที่จัดเก็บไฟล์แบบออนไลน์นั่นเอง ซึ่งในปัจจุบันนี้ไม่ได้มีเพียงผู้ให้บริการออนไลน์แพลตฟอร์มรายใหญ่ เช่น Google หรือ Microsoft เท่านั้นที่ให้บริการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบคลาวด์ แต่ระบบคลาวด์ยังมีติดมากับอุปกรณ์ไอทีต่าง ๆ ที่เราใช้งานกันในชีวิตประจำวัน เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต โดยเป็นฟังก์ชั่นพื้นฐานที่แบรนด์ผู้ผลิตให้ผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ สามารถใช้งานได้ฟรี ๆ โดยให้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลเริ่มต้นมาประมาณนึง และสามารถอัพเกรดแพ็คเกจเพื่อเพิ่มพื้นที่ได้ในภายหลัง ปัจจุบันเราจึงสามารถใช้คลาวด์จัดเก็บ โอนถ่ายไฟล์ข้อมูลต่าง ๆ บนอุปกรณ์พกพาทดแทนแฟลชไดร์ฟได้อย่างสะดวกทีเดียวและนอกจากนี้หลังใช้งานเสร็จคุณควรจัดเก็บที่ Package  เพื่อป้องกันการสูญหาย