แฟลชไดร์ฟ คุณภาพธรรมดาทั่วไป และ แฟลชไดร์ฟ ระดับสูงต่างกันอย่างไร

ปัจจุบันเมื่อเทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามากขึ้นรวมไปถึงความเร็วของ อินเทอร์เน็ต ที่มีมากขึ้นตามไปด้วย นั่นก็หมายถึงปริมาณรับส่งข้อมูลที่มีจำนวนมากยิ่งขึ้นไปด้วยเช่นกันดังนั้นหมายความว่าการใช้งาน แฟลชไดร์ฟ ก็จำเป็นจะต้องมีคุณภาพสูงตามขึ้นไปด้วย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม...

ปัจจุบันเมื่อเทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามากขึ้นรวมไปถึงความเร็วของ อินเทอร์เน็ต ที่มีมากขึ้นตามไปด้วย นั่นก็หมายถึงปริมาณรับส่งข้อมูลที่มีจำนวนมากยิ่งขึ้นไปด้วยเช่นกัน
ดังนั้นหมายความว่าการใช้งาน แฟลชไดร์ฟ ก็จำเป็นจะต้องมีคุณภาพสูงตามขึ้นไปด้วย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ยังมีประเภทของผู้ใช้งานอีกจำนวนมาก ที่ไม่ได้อิงกับความต้องการประสิทธิภาพสูงสุดเสมอไป
ความเป็นจริงก็คือยังมีผู้ใช้อีกมากมายที่ยังคงต้องการใช้งาน แฟลชไดร์ฟ เพียงแค่ให้มีหน้าที่สำหรับการเก็บรักษาข้อมูลทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลในเรื่องของการทำงานหรือกิจกรรม
แต่ในทุกระยะเวลาของการขับเคลื่อนเทคโนโลยี เราก็จะพบได้ว่า แฟลชไดร์ฟ ที่มี สเปค หรือความจุ รวมไปถึงความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลแบบเก่า ย่อมที่จะหายไปจากท้องตลาดเสมอ ชนิดที่หาซื้อไม่ได้อีก และทดแทนด้วยสเปคที่สูงกว่า ทำให้ผู้ใช้งานมีการขยับรูปแบบการใช้ไปตามยุคสมัยโดยปริยาย และแฟลชไดร์ฟเองก็ยังยังปรับรูปแบบใหม่อีกมายมายเช่น pen usb, rubber usb, twister usb เป็นต้น
อย่างไรก็ตามสำหรับ แฟลชไดร์ฟ ที่เป็นเกรดการใช้งานทั่วไป บรรดาผู้ใช้งานก็มักจะต้องการเพียงในเรื่องของความจุของข้อมูลที่พอรับได้ โดยเฉพาะเมื่อต้องคำนวณกับราคา
ส่วนในเรื่องความเร็วของประสิทธิภาพถ่ายโอนข้อมูลนั้น หากเป็นผู้ใช้งานทั่วไปก็มักจะไม่ได้ซีเรียสในจุดนี้มากเท่าไหร่

แฟลชไดร์ฟ ประสิทธิภาพสูงนั้นขายให้ใคร?
แฟลชไดร์ฟ ที่มีประสิทธิภาพในการถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว มักจะเป็นที่ต้องการสำหรับ ผู้ที่มีหน้าที่การงาน ซึ่งต้องถ่ายโอนข้อมูลอยู่เป็นประจำทุกวัน หรือตลอดช่วงของเวลาทำงานในทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นผู้มีอาชีพในการตัดต่อภาพ หรือตัดต่อวิดีโอ ทำงานในด้านการประมวลผล หรือทำงานบ้านการออกแบบซึ่งต้องมีการถ่ายโอนข้อมูลไปมาอย่างต่อเนื่อง
หรือผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับงานที่ต้องใช้การสำรองข้อมูลอยู่เป็นประจำ ตลอดไปจนถึงงานที่เกี่ยวข้องกับองค์กรหรือบริษัท ที่ต้องใช้การประสานข้อมูลเป็นจำนวนมาก
แม้ในปัจจุบันจะมีระบบ คลาวด์ ให้ใช้แล้วก็ตาม แต่สำหรับ แฟลชไดร์ฟ นั้นก็ยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็นจะต้องใช้เป็นองค์ประกอบในการทำงานอยู่เสมอ
และนอกจากเรื่องของความจุข้อมูลและความไวของการถ่ายโอนข้อมูลแล้ว ยังมีเรื่องของคุณภาพสินค้าด้วย ที่แม้แต่ผู้ใช้งานทั่วไปก็ยังให้ความสำคัญในจุดนี้ เพราะแน่นอนว่าการเก็บข้อมูลสำคัญนั้นมักจะควบคู่กับความต้องการเก็บรักษาไว้อย่างยาวนานไปด้วยกัน
นั่นจึงทำให้มี แฟลชไดร์ฟ ในเกรดสูงขึ้นในเรื่องของคุณภาพ และ แบรนด์ ที่เชื่อถือได้มาเป็นอีกทางเลือกในท้องตลาด
อีกทั้ง แฟลชไดร์ฟ บางรุ่นยังมีเทคโนโลยีในการปกป้องข้อมูลด้วย ซึ่งเหมาะอย่างมากสำหรับผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับข้อมูลสำคัญทางราชการหรืออื่น ๆ ซึ่งสินค้าบาง แบรนด์ ที่มีการใช้งานในระดับการปกป้องสูง ราคาของสินค้าก็อาจจะมาพร้อมกับราคาของ software ในการปกป้องด้วยนั่นเอง
นอกจากนี้ประสิทธิภาพของ แฟลชไดร์ฟ คุณภาพสูง ก็ยังมีในเรื่องประเด็นของความแข็งแรงทนทาน แฟลชไดร์ฟ บางรุ่นสามารถรองรับได้กับการใช้งานในกิจกรรมที่สมบุกสมบันเช่นทนฝุ่น ทนร้อน ทนหนาว และทนฝนทนความชื้นเป็นต้น
เหมาะสำหรับผู้ใช้งานในภารกิจที่ต้องปฏิบัติงานภายใต้สภาพแวดล้อมแบบลุย ๆ
หรือ แฟลชไดร์ฟ บางรุ่นยังมีความทนทานต่อกระแสไฟ ซึ่งมีการใช้วัสดุคุณภาพสูงที่ให้ความมั่นใจได้ว่า เหตุกระทบทั่วไปที่เกิดขึ้นกับกระแสไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นกระแสไฟฟ้าตกกระแสไฟฟ้าเกิน หรือเกิดแรงกระชาก ซึ่งมักทำให้อุปกรณ์เกิดความเสียหายนั้น จะลดโอกาสเสี่ยงลง อันเนื่องมาจากวัสดุคุณภาพที่อยู่ภายในโครงสร้างนั้นมักทนทานกว่า

อย่างไรก็ตามในโลกของอุปกรณ์สินค้า แฟลชไดร์ฟ แม้จะมีความหลากหลายและความแตกต่าง รวมไปถึงคุณภาพต่าง ๆ ที่มีให้เลือกซื้ออยู่หลายเกรด แต่สำหรับการใช้งานทั่วไปนั้น แฟลชไดร์ฟ แบบธรรมดาหรือ classic usb ที่มีจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดวงกว้าง ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานแล้ว
โดยเฉพาะหากต้องการใช้งานแค่เพียงในกิจวัตรประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนนักศึกษาข้าราชการหรือพนักงานเอกชน
แต่เมื่อไหร่ก็ตามหากคุณจะต้องทำงานอยู่ในวงการเฉพาะทาง กรณีนี้ แฟลชไดร์ฟ ในเกรดคุณภาพสูงก็คือสิ่งที่จะตอบโจทย์มากที่สุด

ข้อควรระวัง ในการสั่งผลิตแฟลชไดร์ฟพรีเมี่ยม

ในการเลือกซื้อเลือกหาแฟลชไดร์ฟสักอันมาไว้ใช้งานเก็บไฟล์ข้อมูลต่าง ๆ โอนถ่ายไฟล์ระหว่างอุปกรณ์ สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปอย่างเรา ๆ ก็แน่นอนว่ามีวิธีที่ไม่ต่างจากการเลือกซื้อเลือกหาแก็ดเจ็ตชิ้นอื่น ๆ ซึ่งก็คือการเลือกซื้อเลือกหาจากแบรนด์ทั่วไปที่มีวางจำหน่ายอยู่แล้วในตลาด...

ในการเลือกซื้อเลือกหาแฟลชไดร์ฟสักอันมาไว้ใช้งานเก็บไฟล์ข้อมูลต่าง ๆ โอนถ่ายไฟล์ระหว่างอุปกรณ์ สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปอย่างเรา ๆ ก็แน่นอนว่ามีวิธีที่ไม่ต่างจากการเลือกซื้อเลือกหาแก็ดเจ็ตชิ้นอื่น ๆ ซึ่งก็คือการเลือกซื้อเลือกหาจากแบรนด์ทั่วไปที่มีวางจำหน่ายอยู่แล้วในตลาด โดยอาจเลือกจากชื่อแบรนด์ที่เราคุ้นหู เลือกจากสเปคที่ตรงตามความต้องการใช้งาน แต่สำหรับองค์กร บริษัท ห้างร้านต่าง ๆ แล้วการมองหาแฟลชไดร์ฟสักตัวไว้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการแจกจ่ายให้กับพนักงาน บุคลากรขององค์กร หรือกระทั่งแจกมอบให้กับคู่ค่าทางธุรกิจ ลูกค้า ถือว่าแตกต่างออกไป เพราะแทนที่จะเลือกซื้อเลือกหาสินค้าจากแบรนด์ผู้ผลิตเจ้าต่าง ๆ ที่มีวางจำหน่ายอยู่แล้วในตลาดนั้น ยังมีวิธีที่ดีกว่า ซึ่งก็คือ การเลือกสั่งผลิตจากโรงงานผู้ผลิตโดยตรง เพราะนอกจากจะทำให้ได้เรทราคาที่ถูกลงพอสมควรแล้ว ยังสามารถสั่งสกรีน หรือพิมพ์ลวดลายโลโก้ ข้อความชื่อบริษัท องค์กรลงไปเพื่อช่วยให้การโปรโมทองค์กรได้อีกด้วย อีกทั้งยังมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น WOODEN USB , TWISTER USB , PEN USB และอื่น ๆ อีกมากมายอย่างไรก็ตามการสั่งผลิตแฟลชไดร์ฟกับโรงงานผู้ผลิตเจ้าต่าง ๆ ก็ถือว่ามีข้อเสียที่ผู้สั่งผลิตต้องระวัง ซึ่งแตกต่างจากการเลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์มีชื่อในตลาดอยู่หลายจุดเช่นกัน ในบทความนี้จึงได้รวบรวมเอาข้อควรระวังต่าง ๆ ในการสั่งผลิตแฟลชไดร์ฟพรีเมี่ยมจากโรงงานผู้รับผลิตสินค้าพรีเมี่ยมมาบอกกล่าวให้ได้ทราบกัน
คุณภาพฮาร์ดแวร์ จุดแรกที่ต้องบอกว่าเป็นจุดสำคัญที่สุด แต่ก็ระมัดระวังได้ยากที่สุดเช่นกัน ก็คือ คุณภาพของฮาร์ดแวร์ หรือชิ้นส่วนวัสดุที่ผู้ผลิตนำมาผลิตเป็นตัวแฟลชไดร์ฟนั่นเอง ทั้งนี้หากเป็นสินค้าจากแบรนด์ผู้ผลิตมีชื่อต่าง ๆ ที่วางจำหน่ายอยู่ทั่วไปในตลาด ผู้ใช้งานยังพอที่จะประเมินคุณภาพฮาร์ดแวร์ได้จากฟีดแบ็กที่แบรนด์นั้น ๆ ได้รับจากลูกค้า หรือถูกพูดถึงในหมู่ผู้ใช้งาน หรือรีวิวเรื่องของความทนทาน อายุการใช้งาน แต่สำหรับการสั่งผลิตโดยตรงจากโรงงานผู้ผลิตแล้ว ย่อมยากที่จะหาฟีดแบ็กเหล่านี้ ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเจอผู้ผลิตที่ใช้ฮาร์ดแวร์ไม่มีคุณภาพ ใช้ชิ้นส่วนวัสดุเกรดต่ำในการผลิตมากกว่า ดังนั้นในการสั่งผลิตแฟลชไดร์ฟพรีเมี่ยมจึงควรเลือกสั่งผลิตกับโรงงานผู้ผลิตที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตสินค้าแก็ดเจ็ตไอที หรือมีประสบการณ์ในการผลิตแก็ดเจ็ตพรีเมี่ยมให้กับแบรนด์ธุรกิจเจ้าดัง ๆ มาบ้างแล้ว
เวอร์ชั่น USB จุดที่ต้องระวังต่อมานอกจากฮาร์ดแวร์โดยรวมของตัวแฟลชไดร์ฟแล้วก็คือ เวอร์ชั่นของพอร์ต USB นั่นเอง ทั้งนี้อย่างที่ทราบกันดีว่า ความเร็วในการรับส่งไฟล์ข้อมูลต่าง ๆ ของแฟลชไดร์ฟแต่ละตัวนั้นมีส่วนสัมพันธ์กันกับเวอร์ชั่นของพอร์ต USB ที่ทางผู้ผลิตให้มา ซึ่งหากเป็นสินค้าจากแบรนด์ผู้ผลิตแก็ดเจ็ตที่มีวางจำหน่ายทั่วไปในท้องตลาด เวอร์ชั่น USB มักมีการเปลี่ยนแปลง อัปเดตไปตามรุ่นสินค้า และช่วงเวลาที่วางจำหน่ายอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น สินค้าที่ผลิตออกมาวางจำหน่ายปีที่แล้ว อาจจะมาพร้อมกับพอร์ต USB 3.0 ขณะที่สินค้าที่ทำออกมาวางจำหน่ายในปีนี้ อาจมาพร้อมกับ USB 3.2 แต่สำหรับการสั่งผลิตสินค้าปริมาณมาก ๆ โดยตรงกับทางผู้ผลิต โรงงานผู้ผลิตแต่ละรายอาจไม่ได้เลือกใช้พอร์ต USB เวอร์ชั่นล่าสุดเสมอไป ตรงกันข้ามอาจเลือกใช้ USB เวอร์ชั่นต่ำ ๆ เช่น USB 2.0, USB 2.1 เพื่อลดต้นทุนให้ต่ำลงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้นก่อนการสั่งผลิตแฟลชไดร์ฟพรีเมี่ยมกับโรงงานผู้ผลิตใด ๆ จึงควรสอบถาม ตรวจเช็คให้แน่ใจก่อนว่า ผู้ผลิตเลือกใช้พอร์ต USB เวอร์ชั่นใดในการผลิต
ดีไซน์การออกแบบ อีกหนึ่งจุดที่หลายคนอาจไม่คิดว่าจะเป็นปัญหา แต่ก็เป็นจุดที่สร้างปัญหาให้กับผู้ใช้งานหลายคนก็คือ ดีไซน์การออกแบบที่ไม่สัมพันธ์กับการใช้งานนั่นเอง ทั้งนี้อย่างที่ทราบกันว่าการสั่งผลิตแฟลชไดร์ฟพรีเมี่ยมนั้น โรงงานผู้ผลิตจะผลิตตามแบบที่ผู้สั่งผลิตต้องการ ซึ่งบางครั้งดีไซน์ที่ผู้สั่งผลิตออกแบบมาเองอาจผิดแปลกไปจากรูปทรงมาตรฐานทั่วไป จึงตามมาด้วยปัญหาติดขัดในการใช้งานบางจุดได้ เช่น ก้านของพอร์ต USB ที่ยื่นออกมายาวเกินมาตรฐาน ทำให้เวลาเสียบใช้งานกับอุปกรณ์ใด ๆ แล้วไม่แน่นกระชับ หรือเข้าล็อคได้พอดีเหมือนแฟลชไดร์ฟรูปทรงมาตรฐานทั่วไป นอกจากนี้ส่วนโลหะของพอร์ต USB ที่ยื่นออกมามากเกินไปก็อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการเชื่อมต่อในระยะยาวอีกด้วยทางที่ดีควรเลือกใช้รูปแบบที่ผู้คนใช้กันอย่างเช่น METAL USB , CARD USB เป็นต้น

แฟลชไดร์ฟ ปลอดภัยขนาดไหนในปี 2024

ถึงแม้จะมีเทคโนโลยีสำหรับการเก็บข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต หรือการใช้ระบบ Cloud ในการเก็บข้อมูลในปัจจุบัน แต่ถึงอย่างนั้นการใช้อุปกรณ์แฟลชไดร์ฟ ก็ยังคงมีผู้ใช้งานอยู่เป็นจำนวนหนึ่ง ทั้งในกรณีที่เก็บข้อมูลทั่วไป โอนย้ายหรือถ่ายข้อมูล ใช้ในการลงระบบปฏิบัติการ Windows ใหม่...

ถึงแม้จะมีเทคโนโลยีสำหรับการเก็บข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต หรือการใช้ระบบ Cloud ในการเก็บข้อมูลในปัจจุบัน แต่ถึงอย่างนั้นการใช้อุปกรณ์แฟลชไดร์ฟ ก็ยังคงมีผู้ใช้งานอยู่เป็นจำนวนหนึ่ง ทั้งในกรณีที่เก็บข้อมูลทั่วไป โอนย้ายหรือถ่ายข้อมูล ใช้ในการลงระบบปฏิบัติการ Windows ใหม่ หรือไม่ว่าจะในกรณีใดก็ตาม เราก็ยังเห็นมีผู้ใช้งานอุปกรณ์แฟลชไดร์ฟกันอยู่ ซึ่งในปัจจุบันก็มีประโยชน์มากมายมหาศาลเหมือนเมื่อก่อน นอกจากนี้เหตุที่หลายคนยังคงใช้แฟลชไดร์ฟกันอยู่เนื่องจากเป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่มีราคาถูก และไม่ได้แพงเหมือนกับสมัยก่อน ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็ออกแบบมามากมายหลายแบบเพื่อให้เข้ากับยุคปัจจุบัน เช่น pen usb , rubber usb

และสำหรับในปี 2024 นี้ หลายคนอาจเกิดข้อสงสัยขึ้นมาว่า อุปกรณ์แฟลชไดร์ฟที่เราเคยใช้งานกันอย่างแพร่หลายนี้ ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีมากมายสำหรับใช้ในการเก็บข้อมูลที่มีความปลอดภัย และรัดกุมมากกว่าอยู่ในปัจจุบันแล้ว แต่อุปกรณ์แฟลชไดร์ฟในเรื่องของการใช้งานนั้นมีความปลอดภัยมากน้อยเท่าไหร่ในปัจจุบัน มีโอกาสที่จะโดนแฮกหรือผู้ไม่หวังดีมาทำลายข้อมูลหรือขโมยข้อมูลได้มากน้อยเพียงใด ในวันนี้เราจะมาให้คำตอบคุณเกี่ยวกับระบบรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์แฟลชไดร์ฟ ว่ามีความปลอดภัยจริงหรือไม่ หรือมีความปลอดภัยมากน้อยเท่าไหร่ เพื่อไว้พิจารณาสำหรับใครหลายคนที่ต้องการจะใช้อุปกรณ์ชนิดนี้ในการเก็บข้อมูล หรือใช้งานไม่ว่าจะในกรณีใดก็ตาม

ความปลอดภัยของแฟลชไดร์ฟในปัจจุบัน

หากถามว่าอุปกรณ์แฟลชไดร์ฟที่เราใช้งานกันอยู่ในปัจจุบันนี้มีความปลอดภัยหรือไม่ หรือแม้กระทั่งมันมีความปลอดภัยมากน้อยเท่าไหร่ เราขอบอกคุณได้อย่างเต็มปากเลยว่า อุปกรณ์แฟลชไดร์ฟที่มีการใช้งานอยู่ในปัจจุบันในปี 2024 นี้ มีระบบรักษาความปลอดภัยอยู่ในระดับที่ค่อนข้างดี เนื่องจากเทคโนโลยีสมัยใหม่นั้น ถูกออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยของข้อมูล แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ไม่อาจที่จะนิ่งนอนใจได้ เนื่องจากถึงจะปลอดภัยเพียงใดก็ยังมีโอกาสที่อุปกรณ์ของเราจะถูกผู้ไม่หวังดีนำไปใช้งานได้ แต่ก็อีกนั่นแหละ เราก็ยังคงสามารถป้องกันได้โดยการรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์ ซึ่งสามารถทำได้อีกมากมายหลากหลายวิธี

วิธีการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล

วิธีการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลของเราก็มีอยู่ด้วยกันมากมายหลายวิธียกตัวอย่างเช่น ในปัจจุบันมีการให้ใส่รหัสผ่านสำหรับอุปกรณ์บางชิ้นหรือบางเจ้า โดยเราจำเป็นที่จะต้องใส่รหัสผ่านเมื่อต้องการที่จะเปิดใช้งานอุปกรณ์ วิธีนี้เป็นวิธีเบื้องต้นและพื้นฐานที่ทำให้เราไม่ต้องกังวล ว่าใครจะหยิบอุปกรณ์ของเราไปใช้งาน เนื่องจากมีการรักษาความปลอดภัยขั้นพื้นฐานของเราไว้แล้ว โดยระบบของ Windows จะขึ้นให้เราทำการใส่รหัสผ่าน เพื่อทำการปลดล็อคในการเข้าถึงข้อมูลทุกครั้ง แน่นอนว่าหลักการในการตั้งรหัสผ่าน เราหลายคนน่าจะทราบกันอยู่แล้วว่าควรตั้งให้มีความซับซ้อน ความยาวที่อยู่ในระดับพอเหมาะ และเพื่อให้คนอื่นคาดเดาได้ยาก

การโหลดข้อมูลจากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ

และจากสถิติแล้ว ในการโจรกรรมข้อมูลต่างๆนั้น เกิดขึ้นได้ง่ายที่สุดจากการที่เราดาวน์โหลดข้อมูลจากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือมาใช้งาน นอกจากข้อมูลของเราอาจเกิดความเสียหายได้แล้ว ถูกขโมยได้แล้ว คอมพิวเตอร์หรือตัวอุปกรณ์ของเราอาจจะติดไวรัสได้ด้วย ไม่ว่าการดาวน์โหลดข้อมูลต่างๆจะเป็นไฟล์ในรูปแบบวิดีโอ รูปแบบไฟล์เพลง เป็นเอกสาร หรือเป็นอะไรก็ตาม หากมาจากแหล่งเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ การสแกนไวรัสก็ยังถือเป็นวิธีการสุดคลาสสิคที่เราสมควรทำอยู่ดี เนื่องจากอย่างน้อยมันสามารถที่จะให้ความปลอดภัยกับเราได้ในระดับหนึ่ง

อีกในกรณีหนึ่งที่เป็นปัญหาสำหรับผู้ใช้งานอุปกรณ์ชนิดนี้ คือการทำมันหายหรือตกหล่น เนื่องจากอุปกรณ์ชนิดนี้โดยปกติจะค่อนข้างมีขนาดเล็ก ดังนั้นอาจมีโอกาสหายและตกหล่นระหว่างทางได้ ปัญหานี้เป็นปัญหาเล็กที่เราไม่ควรที่จะมองข้าม อาจจะเก็บรักษามันไว้ โดยการนำมาห้อยไว้กับอุปกรณ์ใดก็ตาม หรืออาจจะต้องเก็บไว้ใน Package ที่เป็นถุงผ้าหรือกล่อง

เช็คลิสต์ ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟไอโฟนมาใช้งาน

อย่างที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันหนึ่งในทางเลือกในการเพิ่มขนาดพื้นที่ในการจัดเก็บไฟล์บนมือถือ หรือสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็คือการใช้งานแก็ดเจ็ตอย่างแฟลชไดร์ฟเชื่อมต่อเข้าตัวสมาร์ทโฟนโดยตรงเพื่อโอนถ่ายไฟล์ข้อมูลต่าง ๆ...

อย่างที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันหนึ่งในทางเลือกในการเพิ่มขนาดพื้นที่ในการจัดเก็บไฟล์บนมือถือ หรือสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็คือการใช้งานแก็ดเจ็ตอย่างแฟลชไดร์ฟเชื่อมต่อเข้าตัวสมาร์ทโฟนโดยตรงเพื่อโอนถ่ายไฟล์ข้อมูลต่าง ๆ มาไว้บนแฟลชไดร์ฟแทนก่อนที่จะทำการลบไฟล์ที่อยู่บนสมาร์ทโฟน เพื่อเคลียร์พื้นที่หน่วยความจำให้เหลือว่างเพียงพอสำหรับรองรับไฟล์ใหม่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสมาร์ทโฟนจากแบรนด์เจ้าอย่างดังอย่างแอปเปิ้ล ซึ่งแต่ละรุ่นไม่ได้ทำออกมารองรับการเพิ่มพื้นที่ความจำภายใน หรือการใส่ SD Card เข้าไปในตัวโทรศัพท์ ทำให้ผู้ใช้งานต้องหาวิธีจัดการกับปัญหาพื้นที่ความจำภายในเครื่องเต็มมากกว่าผู้ใช้งานฝั่งสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่แต่ละรุ่น แต่ละแบรนด์มักจะมาพร้อมระบบรองรับการเพิ่มความจำเสริมตั้งแต่ 64GB ขึ้นไป อย่างไรก็ตามการเลือกหาแฟลชไดร์ฟสำหรับใช้งานกับไอโฟนให้ตอบโจทย์การใช้งานจริง และสามารถใช้งานได้ในระยะยาวแบบไม่มีปัญหาติดขัดใด ๆ ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน เพราะโดยพื้นฐานของแก็ดเจ็ตชิ้นนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาสำหรับใช้งานกับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือแล็ปท็อป โดยความพยายามในการพัฒนาตัวแก็ดเจ็ตให้ซัพพอร์ตอุปกรณ์พกพาอย่างสมาร์ทโฟนเพิ่งจะเกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีหลังนี้ อีกทั้งตัวเลือกแบรนด์แฟลชไดร์ฟที่มีให้เราได้เลือกใช้งานในตลาดตอนนี้ก็มีมากมายซะจนแยกได้ยากว่าแบรนด์ไหนบ้างที่มีคุณภาพดีตรงตามคำโฆษณาอีกทั้งยังมีหลากหลายรูปแบบเช่น metal usb, leather usb, twister usb ในบทความนี้จึงได้นำเอาข้อควรรู้ต่าง ๆ ในการใช้งานแฟลชไดร์ฟไอโฟนมาแนะนำบอกกล่าวให้ผู้ใช้งานได้ใช้เป็นเช็คลิสต์ก่อนตัดสินใจซื้อมาใช้งานกัน

เลือกพอร์ตเชื่อมต่อให้ตรงกับรุ่นไอโฟนที่เราใช้งาน ข้อควรระวังจุดแรกที่ผู้ใช้งานอาจจะพลาดได้ง่าย ๆ ก็คือพอร์ตเชื่อมต่อของแฟลชไดร์ฟที่เราจะตัดสินใจเลือกซื้อเลือกหามาใช้งานนั่นเอง เพราะสมาร์ทโฟนไอโฟนเจเนอเรชั่นเดิม ๆ นั้นจะมาพร้อมกับพอร์ต Lightning ที่หลายคนคุ้นเคยกันมานานหลายปี แต่สำหรับเจเนอเรชั่นหลัง ๆ ที่วางจำหน่ายในช่วงไม่กี่หลังนี้ได้มีการเปลี่ยนไปใช้พอร์ตมาตรฐานเดียวกับสมาร์ทโฟแอนดรอยด์ ซึ่งก็คือพอร์ต USB-C ดังนั้นก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟรุ่นใด ๆ จากแบรนด์ ๆ จึงต้องเช็คให้แน่ใจก่อนว่าพอร์ตเชื่อมต่อเป็นแบบใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งไม่สามารถตรวจเช็คสินค้าจริงก่อนได้ อีกทั้งแบรนด์ผู้ผลิตบางรายก็อาจระบุในคำโฆษณาเพียงข้อความ “For iPhone” ที่อาจทำให้ผู้ใช้งานเข้าใจผิดได้ว่าสามารถใช้กับไอโฟนของตนเองได้

หลีกเลี่ยงแบรนด์โนเนมที่ไม่รู้จัก ปัญหายอดฮิตปัญหานึงที่ผู้ใช้งานแฟลชไดร์ฟไอโฟนหลายคนพบเจอก็คือ พลาดเลือกใช้งานแบรนด์ที่มีคุณภาพฮาร์ดแวร์ไม่ดี หรือไม่ได้มาตรฐานนั่นเอง ซึ่งผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือเมื่อใช้งานไปได้สักพัก การเชื่อมต่อแฟลชไดร์ฟเข้ากับไอโฟนของตัวเองจะเกิดข้อผิดพลาด อุปกรณ์อาจมองไม่เห็นข้อมูล อ่านข้อมูลใด ๆ บนไดร์ฟได้เลย หรือสามารถมองเห็นข้อมูลบนไดร์ฟได้ แต่ไม่สามารถเปิด เรียกดู คัดลอก โอนย้ายได้ เป็นต้น ดังนั้นในการเลือกซื้อเลือกหาแฟลชไดร์ฟสำหรับใช้งานกับไอโฟนจึงควรหลีกเลี่ยงแบรนด์โนเนมที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแบรนด์ที่พยายามพรีเซนต์ว่าเป็นแฟลชไดร์ฟสำหรับไอโฟนโดยเฉพาะ หรือไดร์ฟภายนอกอย่างเป็นทางการสำหรับไอโฟน ซึ่งนับเป็นกลยุทธ์การโฆษณาที่แบรนด์หน้าใหม่มักใช้กระตุ้นให้ผู้ใช้งานไอโฟนตัดสินใจซื้อสินค้าของตัวเองได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ควรรักษาแฟลชไดร์ฟดี ๆ อย่างการใส่ package ที่เป็นกล่องหรือถุงผ้าเพื่อป้องกันการตกหล่นที่ทำให้เกิดการชำรุดเสียหาย นอกจากนี้ไม่เสียบใช้งานแฟลชไดร์ฟกับหลายอุปกรณ์ แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วแฟลชไดร์ฟแต่ละรุ่น แต่ละแบรนด์จะสามารถเสียบเชื่อมต่อได้กับหลายอุปกรณ์ ตัวอย่างเช่น แฟลชไดร์ฟสำหรับไอโฟนที่มาพร้อมกับพอร์ต Lightning ก็อาจมีพอร์ตเชื่อมต่ออีกด้านเป็นแบบ USB-A สำหรับเสียบใช้งานกับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ แล็ปท็อป แต่สิ่งที่ควรระวังระวังในการใช้งานแฟลชไดร์ฟกับไอโฟนก็คือการหลีกเลี่ยงใช้งานแฟลชไดร์ฟกับหลายอุปกรณ์ เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าระบบปฏิบัติการที่รันการทำงานคอมพิวเตอร์ กับสมาร์ทโฟนไอโฟนนั้นแตกต่างกัน การนำแก็ดเจ็ตไปเสียบใช้งานกับหลายอุปกรณ์อาจทำให้มีการเก็บไฟล์ที่รองรับเฉพาะอุปกรณ์ใดอุปกรณ์นึง ซึ่งเมื่อนำกลับไปเสียบเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ไม่รองรับก็อาจนำมาซึ่งอาการ Error หรือการรันการทำงานที่ผิดพลาดของตัวเฟิร์มแวร์บนแก็ดเจ็ตจนทำให้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หรือไอโฟนของเราทำงานผิดพลาด และตามมาด้วยความเสี่ยงที่จะสูญเสียไฟล์ข้อมูลบางไฟล์ไปด้วยนั่นเอง

การยืดอายุการใช้งาน ถึง 2 เท่า ทำอย่างไร

ในปัจจุบันนั้น ถึงจะไม่ได้มีจำนวนผู้ใช้งานที่มากมายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่เราก็ยังเห็นผู้คนบางส่วนนิยมที่จะใช้แฟลชไดร์ฟกันอยู่ เนื่องจากอุปกรณ์แฟลชไดร์ฟ ถือเป็นอุปกรณ์สำหรับการเก็บข้อมูลในรูปแบบออฟไลน์ที่ยังคงน่าสนใจอยู่เสมอ ในยุคที่ไม่ว่าใคร ๆ...

ในปัจจุบันนั้น ถึงจะไม่ได้มีจำนวนผู้ใช้งานที่มากมายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่เราก็ยังเห็นผู้คนบางส่วนนิยมที่จะใช้แฟลชไดร์ฟกันอยู่ เนื่องจากอุปกรณ์แฟลชไดร์ฟ ถือเป็นอุปกรณ์สำหรับการเก็บข้อมูลในรูปแบบออฟไลน์ที่ยังคงน่าสนใจอยู่เสมอ ในยุคที่ไม่ว่าใคร ๆ ก็อาจจะเก็บไฟล์เอกสารหรือไฟล์อะไรสำคัญไว้ในระบบออนไลน์กันแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นการมีสิ่งนี้ติดไว้ ก็สามารถนำมาใช้งานได้อย่างสะดวกสบายได้มากกว่าในหลายกรณี ดังนั้นเราจึงถือว่าอุปกรณ์แฟลชไดร์ฟ ที่ยังเป็นอุปกรณ์ที่น่าสนใจ และผู้คนยังคงหยิบมันมาใช้งานกันอยู่เสมออีกทั้งในปัจจุบันนี้ก็มีผลิตออกมามากมายหลายแบบ อย่างเช่น metal usb, pen usb, card usb และอื่น ๆ อีกมากมาย

ทุกวันนี้แฟลชไดร์ฟเป็นอุปกรณ์ที่หาซื้อได้ง่าย อีกทั้งยังมีราคาที่ไม่แพงแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ควรที่จะดูแลรักษาอุปกรณ์ชิ้นนี้เป็นอย่างดี ไม่ใช่เพราะมันหาซื้อยากหรือมีราคาแพงแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าอาจจะเป็นการเก็บรักษาข้อมูลที่สำคัญที่อยู่ภายใน และวันนี้เราจะพาคุณมายืดอายุการใช้งานอุปกรณ์แฟลชไดร์ฟกัน ที่เชื่อกันว่าสามารถยืดอายุการใช้งานอุปกรณ์นี้ได้นานถึง 2 เท่าเลย มีหลายสิ่งที่เรานิยมทำกัน ซึ่งมันอาจทำให้แฟลชไดร์ฟของเราเสื่อมหรือเสียหายได้เร็วขึ้นอย่างที่เราคาดไม่ถึง และที่สำคัญควรมี package แฟลชไดร์ฟดี ๆ เพื่อป้องกันการตกหล่นเสียหาย

ไม่เอาแฟลชไดร์ฟห้อยกับพวงกุญแจหรือห้อยคอไว้

สิ่งหนึ่งที่หลายคนมักจะเข้าใจผิดก็คือแฟลชไดร์ฟที่ทำที่ห้อยออกมาเพื่อสำหรับการประดับพวงกุญแจ หรืออาจจะนำไปติดสายห้อยคอ วิธีการเหล่านี้เป็นวิธีการที่ไม่แนะนำเอาเสียเลย หากเรานำเอาอุปกรณ์ชิ้นนี้ไปห้อยไว้กับพวงกุญแจ อาจจะเสี่ยงต่อการเกิดการเผยแพร่และเกิดความเสียหายบางอย่างได้ เนื่องจากไม่ว่าอย่างไรสิ่งนี้ก็เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ค่อนข้างเปราะบาง การนำไว้ห้อยคอก็อาจเสี่ยงต่ออุปกรณ์เหวี่ยงไปโดนอะไรเสียหายได้ด้วยเช่นเดียวกัน

ศัตรูตัวร้ายของแฟลชไดร์ฟคือแม่เหล็ก

ไม่ใช่แค่อุปกรณ์ชิ้นนี้เท่านั้น แต่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่างก็แพ้ทางแม่เหล็กด้วยกันทั้งนั้น เพราะมันอาจทำให้หน่วยความจำหรืออะไรเกิดความเสียหายข้างในได้ แม้แต่แม่เหล็กที่เป็นอันเล็กๆบางอย่างอย่างพวกเข็มกลัด หรืออุปกรณ์ที่มีแม่เหล็กติดอยู่ข้างใน เราก็ควรที่จะนำออกห่างจากสิ่งนี้ รับรองว่ามันช่วยยืดอายุการใช้งานให้คุณได้อย่างแน่นอน

ความชื้นก็ควรหลีกเลี่ยงด้วยเช่นเดียวกัน

เนื่องด้วยในประเทศไทยเรานั้นเป็นประเทศร้อนชื้น ไม่เพียงแค่นั้น บางทีการนำอุปกรณ์ชิ้นนี้ไปใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋ากางเกง ก็อาจทำให้เกิดอุณหภูมิร้อนชื้นได้เช่นเดียวกัน ซึ่งสิ่งนี้ก็ไม่ควรทำเพราะจะทำให้อุปกรณ์ของเราเสื่อมเร็วด้วยเช่นเดียวกัน ทางที่ดีแล้วอยากให้มีกล่องไว้สำหรับเก็บอุปกรณ์ชิ้นนี้โดยเฉพาะ ทั้งนี้เพื่อป้องกันความชื้นในตัว และเป็นการดูแลไม่ให้เกิดการกระแทกได้ด้วยเช่นเดียวกัน

ศัตรูตัวฉกาจอย่างไวรัสคอมพิวเตอร์

การนำอุปกรณ์ชิ้นนี้ไปเสียบไว้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่หลากหลาย หรือการนำไปใช้งานโดยที่ไม่ได้มีการป้องกันอะไรเลย อาจทำให้อุปกรณ์ของเราเกิดอาการติดไวรัสและเกิดความเสียหายได้ แน่นอนว่าหากเราไม่สแกนไวรัสหรือตรวจสอบให้ดี ข้อมูลของเราอาจจะเกิดความเสียหายและสูญหายไป หากโชคดีสแกนไวรัสหาย ข้อมูลของเราสะอาดที่จะยังอยู่ แต่ในบางครั้งหากโชคร้ายแล้วสแกนไวรัสไม่หาย เราก็ต้องอาจทำการ Format ทิ้ง ซึ่งนั่นอาจทำให้ข้อมูลทั้งหมดหายไปเลย

สำรองข้อมูลไว้ดีที่สุด

วิธีสุดท้ายไม่อาจกล่าวได้ว่าเป็นการยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ แต่เป็นวิธีการในการรักษาข้อมูลมากกว่า ทางที่ดีเราควรที่จะมีการสำรองข้อมูลบางอย่างไว้ไม่ว่าจะในกรณีใด หรือใช้อุปกรณ์ใดในการเก็บข้อมูลก็ตาม ซึ่งเป็นการเผื่อความเสียหายของข้อมูลของเราได้ อาจจะเป็นอุปกรณ์อีกอัน หรือไม่ก็อาจจะเป็นการเก็บไฟล์เอาไว้ในออนไลน์ก็ได้

รู้ไว้ใช่ว่า กับเรื่องของแฟลชไดร์ฟที่เราใช้งานกันอยู่ในปัจจุบัน

อุปกรณ์พื้นฐานสำหรับการเก็บข้อมูลที่ไม่ว่าจะในเมื่อก่อนหรือในสมัยนี้ก็ยังมีการใช้งานกันอยู่ นั่นก็คืออุปกรณ์แฟลชไดร์ฟ นอกจากใช้ในการเก็บข้อมูลแล้วยังใช้ในการถ่ายโอนข้อมูลหรือสำรองข้อมูลในหลายกรณีด้วย เมื่อหลายปีก่อนอุปกรณ์แฟลชไดร์ฟเริ่มมีการวางขายในท้องตลาด...

อุปกรณ์พื้นฐานสำหรับการเก็บข้อมูลที่ไม่ว่าจะในเมื่อก่อนหรือในสมัยนี้ก็ยังมีการใช้งานกันอยู่ นั่นก็คืออุปกรณ์แฟลชไดร์ฟ นอกจากใช้ในการเก็บข้อมูลแล้วยังใช้ในการถ่ายโอนข้อมูลหรือสำรองข้อมูลในหลายกรณีด้วย เมื่อหลายปีก่อนอุปกรณ์แฟลชไดร์ฟเริ่มมีการวางขายในท้องตลาด โดยในช่วงแรกอาจจะมีความจุที่ไม่ได้มากมายอะไรนัก มีไม่ถึง 100 MB แถมราคายังแพงเอามากๆด้วย แต่ทุกวันนี้เทคโนโลยีได้มีการพัฒนามากยิ่งขึ้น อุปกรณ์แฟลชไดร์ฟของเราก็มีความจุมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย จนทุกวันนี้เราสามารถหาแฟลชไดร์ฟที่มีความจุทะลุเกิน 100 GB ได้แล้ว แถมยังมีวางขายทั่วไปในราคาที่ถูกแสนถูกอีกด้วย อีกทั้งยังมีการผลิตแฟลชไดร์ฟออกมาหลายรูปแบบมากขึ้น อย่างเช่น Twister Usb , Rubber Usb , Crystal Usb และอื่น ๆ อีกมากมาย

ข้อดีของอุปกรณ์แฟลชไดร์ฟที่สำคัญเลยก็คือ สามารถถ่ายโอนข้อมูลอย่างง่ายดายสะดวกและรวดเร็ว เราจะทำการลบหรือทำการคัดลอกไฟล์ต่าง ๆ ก็สามารถทำได้เพียงอึดใจเดียว อีกอย่างก็ค่อนข้างมีความทนทาน แต่ข้อควรระวังก็คือการติดไวรัสที่ง่ายเอามาก ๆ แถมยังอาจจะติดอุปกรณ์อื่นที่เรานำไปใช้งานด้วยกันได้ด้วยเหมือนกัน อีกทั้งในปัจจุบันอุปกรณ์แฟลชไดร์ฟไม่ได้เพียงแค่อุปกรณ์ที่ใช้งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เราใช้งานแฟลชไดร์ฟกันกับหลายอุปกรณ์อย่างเช่นเครื่องเสียงในรถยนต์ Smart TV ต่าง ๆ หรือสมาร์ทโฟนก็ใช้ได้ด้วยเช่นเดียวกัน

ในวันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องของข้อมูลพื้นฐานสำหรับอุปกรณ์แฟลชไดร์ฟอาจจะเป็นข้อมูลที่ใครหลายคนทราบอยู่แล้ว หรือเป็นข้อมูลใหม่ที่คุณอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อน เพื่ออัปเดต
ให้ทางเทคโนโลยีที่ใช้งานกับอุปกรณ์แฟลชไดร์ฟในปัจจุบันนี้ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย

เรื่องของความจุ

ความจุของอุปกรณ์ชนิดนี้ในปัจจุบันมีให้เราเลือกใช้งานตั้งแต่ไม่กี่ GB อาจจะเป็น 2 GB ไปจนถึงการใช้งานระดับมหึมาอย่าง 128 GB แน่นอนว่าราคาก็ค่อนข้างตรงไปตรงมา ยิ่งความจุมากขึ้นราคาก็จะยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย หากใครจะซื้อไปเพียงแค่เก็บไฟล์งานเอกสารทั่วไปอาจจะซื้อเพียงแค่ 8 GB ก็น่าจะเพียงพอแล้ว ซึ่งราคาอาจจะอยู่ที่ประมาณ 100 กว่าบาทเท่านั้น แต่หากมีการใช้งานมากขึ้นอาจจะเพิ่มความจุเป็น 64 GB หรือ 128 GB เราสามารถพิจารณาได้ตามความเหมาะสมในการใช้งาน

เรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อ

โดยทั่วไปพอร์ตเชื่อมต่อที่เราคุ้นเคยกับการใช้งานอุปกรณ์นี้จะเป็นพอร์ตรูปแบบ USB 2.0 ซึ่งหากเป็นพอร์ตแบบนี้ก็จะมีราคาที่ถูกเอามากๆ แต่ในปัจจุบันก็มีพอร์ตที่เป็นรุ่นใหม่มากกว่าให้เราได้เลือกใช้งาน อย่างการเป็นพอร์ต USB 3.0 เป็นต้น แน่นอนว่าราคามันก็ค่อนข้างสูงกว่ารุ่นเดิมที่เราคุ้นเคยและรู้จัก แต่ประโยชน์ที่สำคัญเลยก็คือ หากเป็นพอร์ต USB รุ่นใหม่ ๆ ก็จะมีอัตราการถ่ายโอนไฟล์ได้อย่างรวดเร็วมากกว่าตามมาด้วย

การประกัน

เรื่องของประกันสินค้าสำหรับอุปกรณ์ชนิดนี้ เป็นเรื่องที่ใครหลายคนอาจจะเมินเฉยและไม่นึกถึงมัน เพราะอย่างที่บอกว่าในปัจจุบันอุปกรณ์ชิ้นนี้มีราคาที่ไม่แพงอะไรเลย หากเกิดความเสียหายอะไรง่ายที่สุดก็คือซื้อใหม่ และภาวนาให้ข้อมูลที่อยู่ข้างในไม่ใช่ข้อมูลที่สำคัญอะไรมากนัก หรือไม่ก็อาจมีการสำรองข้อมูลไว้ก่อนดังนั้นจึงไม่ค่อยดูเรื่องของประกัน ปัจจุบันหลายรุ่นมีประกันให้เรายาวนานถึง 5 ปี ซึ่งนับว่าเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมากค่ะเทียบกับราคาที่เราจ่ายในการซื้ออุปกรณ์ชนิดนี้ บางรุ่นถึงกับมีการรับประกันตลอดอายุการใช้งานเลยทีเดียว

รูปลักษณ์ภายนอก

เรื่องของรูปลักษณ์ภายนอกนั้นในปัจจุบันมีทำออกมาหลากหลาย และไม่ได้มีปัจจัยใดส่งผลต่อความจุภายในเลยอย่างเช่น Pen Usb, Laether Usb เป็นต้น ผู้ซื้อสามารถที่จะซื้อมาใช้งานได้ตามสะดวก รูปลักษณ์ภายนอกเหล่านี้ไม่ส่งผลต่อชิปในการประมวลผลที่อยู่ภายในอะไร ดังนั้นสามารถอุ่นใจและสบายใจได้

การดูแลรักษา แฟลชไดร์ฟ ให้ใช้งานได้นาน ๆ

แม้ว่าโดยรูปร่างของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล ที่มีขนาดเล็กมีรูปทรงพกพาง่ายที่เรียกว่า แฟลชไดร์ฟ มองดูไปก็เป็นอุปกรณ์ที่ให้ความคล่องตัว สะดวกในการใช้งานและน่าจะมีความทนทานอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นแบบ wooden usb หรือ metal usbจากเพราะน้ำหนักที่เบาไม่เกิดแรงกระทบมาก...

แม้ว่าโดยรูปร่างของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล ที่มีขนาดเล็กมีรูปทรงพกพาง่ายที่เรียกว่า แฟลชไดร์ฟ มองดูไปก็เป็นอุปกรณ์ที่ให้ความคล่องตัว สะดวกในการใช้งานและน่าจะมีความทนทานอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นแบบ wooden usb หรือ metal usb
จากเพราะน้ำหนักที่เบาไม่เกิดแรงกระทบมาก และเป็นอุปกรณ์ที่สร้างขึ้นแบบรองรับการพกพา
แต่ทว่า แฟลชไดร์ฟ นั้นก็ยังคงจำเป็นที่จะต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี
โดยเฉพาะหากมีการใช้งานที่สมบุกสมบัน ยิ่งต้องระวัง ซึ่งไม่เพียงแต่ว่าจะต้องคำนึงถึงความเสียหายของอุปกรณ์แต่เพียงเท่านั้น เหนือไปกว่าก็คือข้อมูลที่อยู่ภายในนั่นเอง
โดยข้อมูลบางอย่างอาจมีค่าถึงขนาดประเมินราคาไม่ได้เลยทีเดียว

สำหรับการดูแลรักษา แฟลชไดร์ฟ ควรเริ่มจากเรื่องพื้นฐาน ที่ปกติแล้วเรามักใช้กันสำหรับอุปกรณ์สารพัดชนิด นั่นก็คือการหลีกเลี่ยงนำไปวางไว้ในที่ซึ่งมีอุณหภูมิสูงหรือต่ำมากเกินไป
อีกทั้งยังจะต้องหลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อม ของมลภาวะที่ส่งผลกระทบต่อปฏิกิริยาเคมีไม่ว่าจะเป็นแสงแดดแรง ๆ หรืออยู่ในจุดที่มีความชื้นความเปียก ไปจนถึงการวางไว้ใกล้กับสารระเหยต่าง ๆ ที่มีสารกัดกร่อน หรือเกาะตัวกับวัสดุ เพราะสิ่งเหล่านี้มีโอกาสที่จะทำให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์โดยเฉพาะชิ้นส่วนขนาดเล็กได้เสมอ
และแน่นอนว่าเรื่องพื้นฐานอีกประการหนึ่งนั่นก็คือ จะต้องระมัดระวังไม่ทำตกหล่นหรือเกิดการกระแทก แม้ว่ามันจะมีน้ำหนักเบาและดูทนทานก็ตาม แต่ก็มีโอกาสชิ้นส่วนภายในจะเกิดความเสียหายที่มองเห็นได้ยาก และลุกลามไปยังการสูญเสียข้อมูลภายในด้วยเช่นกัน
ดังนั้นทุกครั้งที่คุณพก แฟลชไดร์ฟ ติดตัว ก็ควรให้ความระมัดระวังในการปกป้องบ้างสักนิด
เพราะแม้ว่ามันจะดูคล้ายมีคุณสมบัติที่ทนทาน แต่แท้จริงแล้วก็ยังมีกรอบจำกัดอยู่
ทางที่ดีควรมี Package usb ที่เป็นถุงผ้าหรือกล่องเพื่อป้องกันการตกหล่น

และนอกจากจะมีการดูแลรักษาในช่วงที่เก็บ แฟลชไดร์ฟ ไว้กับตัวแล้ว แม้ในยามที่กำลังใช้งานก็จะต้องมีการระมัดระวังอยู่พอสมควรเช่นกัน การเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านการเสียบเข้ากับพอร์ตเชื่อมต่อ ก็ควรจะทำอย่างเหมาะสมไม่มีรูปแบบของการเคลื่อนไหว ที่ผิดทิศทางหรือใช้แรงกระแทก หรือใช้การจับดึงโยกคลอนแบบเร่งรีบเกินไป เพราะอาจทำให้จุดเชื่อมต่อกับขั้วต่าง ๆ ของ แฟลชไดร์ฟ เกิดความเสียหายได้
อีกทั้งยังควรจะต้องพิจารณาถึงความรั่วไหลของกระแสไฟฟ้าจากอุปกรณ์ที่เสียบ ซึ่งหากอุปกรณ์นั้นมีการชำรุดหรือมีการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้าที่สูงเกินไป ก็อาจทำให้ แฟลชไดร์ฟ เกิดความเสียหายได้เช่นกัน หรือแม้แต่ความเสียหายยังไม่เกิดขึ้นเด่นชัดกับตัวอุปกรณ์ แต่อาจส่งผลต่อข้อมูลสำคัญภายใน แฟลชไดร์ฟ ก็เป็นได้ ซึ่งเป็นกรณีที่เชื่อได้ว่าผู้ใช้หลายคนน่าจะไม่อยากให้เกิดขึ้น และกลัวความเสียหายในเรื่องนี้มากเป็นพิเศษเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามแม้ว่าคุณจะมีการดูแลรักษาอย่างถูกต้องในทุกประการข้างต้นแล้ว
ทั้งหลักวิธีในการเก็บไว้กับตัว การเก็บไว้ในกระเป๋า หรือแม้แต่การเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ต่าง ๆ
แต่ควรทราบว่าอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ ทุกชนิด ก็อาจมีชิ้นส่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เปราะบาง
หรือมีวัสดุที่มีอายุการใช้งานเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลาด้วย
ดังนั้นการให้เวลาในการตรวจสอบบ้างเป็นระยะ ว่ามีการเสื่อมสภาพแล้วหรือยังถึงรอบที่ควรเปลี่ยนใช้ แฟลชไดร์ฟ ใหม่แล้วหรือไม่ นั่นก็เป็นการดูแลรักษาข้อมูลภายในที่ดีและจำเป็นต้องทำด้วยเช่นกัน
และหากเป็นไปได้ ควรหากล่องเก็บ แฟลชไดร์ฟ ที่มีความกระชับไม่ใหญ่เกินไปไม่เกิดการเคลื่อนตัวกระทบกระแทก หรืออาจใช้ซองผ้าที่มีวัสดุหนานุ่มในการจัดเก็บก็ได้ซึ่งจะดีกว่าการเก็บไว้ในกระเป๋าทั่วไป ซึ่งอาจต้องเผชิญกับการกระทบกับสิ่งภายในกระเป๋าหรือเกิดการกระแทกจากการเคลื่อนไหวของร่างกาย
อีกทั้งยังอาจมีเสกฝุ่นผงต่าง ๆ มาทำให้อุดค้างตามซอกมุมของ แฟลชไดร์ฟ ซึ่งอาจรบกวนการเชื่อมต่อและการอ่านข้อมูลให้ไม่สามารถอ่านได้ และเกิดภาระต้องมาคอยทำความสะอาดอย่างยากลำบาก
ซึ่งหากมีการจัดเก็บไว้อย่างดี ด้วยเพียงแค่วิธีที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ก็รับรองได้ว่า แฟลชไดร์ฟ ของคุณจะมีความทนทานขึ้นอีกมากเลยทีเดียว

ระวัง ในเรื่องของการใช้งานแฟลชไดร์ฟกับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ

ถึงแม้ว่าในปัจจุบันทุกวันนี้ เทคโนโลยีในการเก็บข้อมูลของเราจะไปไกลแล้ว เรามีอุปกรณ์สำเร็จเก็บข้อมูลอยู่ด้วยกันมากมายหลากหลายในปัจจุบัน ทั้งแบบที่เราพกพาไปไหนมาไหนได้ และแบบที่เรานำมาติดโต๊ะทำงานไหว หรือจะเป็นการเก็บข้อมูลผ่านระบบ Cloud หรือการเก็บข้อมูลไว้ในอินเทอร์เน็ต...

ถึงแม้ว่าในปัจจุบันทุกวันนี้ เทคโนโลยีในการเก็บข้อมูลของเราจะไปไกลแล้ว เรามีอุปกรณ์สำเร็จเก็บข้อมูลอยู่ด้วยกันมากมายหลากหลายในปัจจุบัน ทั้งแบบที่เราพกพาไปไหนมาไหนได้ และแบบที่เรานำมาติดโต๊ะทำงานไหว หรือจะเป็นการเก็บข้อมูลผ่านระบบ Cloud หรือการเก็บข้อมูลไว้ในอินเทอร์เน็ต บรรดาซอฟต์แวร์ประมวลผลต่างๆก็มีการพัฒนาขึ้นมากแล้ว มีอุปกรณ์ให้เราได้เลือกใช้งานหรือวิธีการให้เราได้เลือกใช้หลากหลายมากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังมีผู้คนบางส่วน ที่ยังคงนิยมใช้งานอุปกรณ์แฟลชไดร์ฟอยู่ แต่ด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที่แตกต่างกันออกไป การใช้อุปกรณ์แฟลชไดร์ฟก็ยังไม่จางหายไปในปัจจุบัน และในปัจจุบันก็ยังมีการผลิตขึ้นมาใหม่หลากหลายรูปแบบเช่น wooden usb , rubber usb , twister usb และอื่น ๆ อีกมากมาย
หลายคนใช้แฟลชไดร์ฟด้วยวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป และใช้งานกับอุปกรณ์ที่แตกต่างกันออกไป ในปัจจุบันเราไม่ได้เพียงแค่ใช้งานแฟลชไดร์ฟกับเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือโน้ตบุ๊คเพียงเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้งานได้กับสมาร์ททีวี เพื่อใช้สำหรับการดูสื่อต่างๆ ใช้งานได้กับอุปกรณ์อื่น ๆอย่างโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต หรือ pen usb ที่เป็นปากกาสามารถเขียนงานได้จริง ดังนั้นจึงถือว่าการใช้งานแฟลชไดร์ฟสามารถใช้ได้ในหลายแง่มาก

แต่ในวันนี้เองเราจะเจาะลึกไปที่การใช้งานอุปกรณ์แฟลชไดร์ฟบนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เราจะมาคุยกันเรื่องของข้อควรระวัง และพฤติกรรมที่เราควรจะหลีกเลี่ยงเลย สำหรับการใช้งานอุปกรณ์ชิ้นนี้บนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดปัญหาในภายหลังได้

การดาวน์โหลดไฟล์แปลกปลอมบนอินเทอร์เน็ตจากแหล่งที่ไม่สามารถเชื่อถือได้

ในปัจจุบันขนาดความจุของอุปกรณ์ชนิดนี้โดยเฉลี่ยนั้น มีการพัฒนาและมีการเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก โดยอาจสามารถบรรจุข้อมูลได้มากกว่า 64 GB ขึ้นไป ซึ่งแตกต่างกับเมื่อก่อนมากเลยทีเดียว มันเพียงพอที่จะทำให้เราสามารถเก็บไฟล์ที่มีขนาดใหญ่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นไฟล์ที่เป็นภาพยนตร์ หรือซีรีส์เป็นต้น หนึ่งในพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยงเลยก็คือ การดาวน์โหลดไฟล์ภาพยนตร์หรือซีรีย์เหล่านี้ จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ รวมถึงแหล่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ อาจมีข้อมูลที่น่าสงสัยปะปนมาด้วย ซึ่งนั่นจะส่งผลให้อุปกรณ์ของเราเกิดความเสียหาย หรือหากเลวร้ายกว่านั้นคอมพิวเตอร์ของเราอาจเสียหายตามไปด้วย

การติดตั้งโปรแกรมน่าสงสัยลงบนแฟลชไดร์ฟ

ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับอุปกรณ์ชนิดนี้กันก่อน เราน่าจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าอุปกรณ์ชนิดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานเป็น Drive สำหรับภายนอก หรือก็คือเป็นพื้นที่สำหรับการจัดเก็บไฟล์เพียงชั่วคราวเท่านั้น เพื่อให้เกิดความสะดวกในการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ ดังนั้นเราจึงไม่ควรติดตั้งโปรแกรมอะไร ที่มีลักษณะการใช้งานซับซ้อนลงบนแฟลชไดร์ฟของเรา อาจจะมีซอฟต์แวร์ขนาดเล็กบางอย่างที่สามารถติดตั้งได้ แต่หากเป็นซอฟต์แวร์ที่มีความซับซ้อน เราไม่ควรที่จะติดตั้งและ ใช้งานบนอุปกรณ์ของเรา ซึ่งนี่ถือเป็นพฤติกรรมที่เราควรหลีกเลี่ยง เพราะซอฟต์แวร์ที่มีชุดคำสั่งต่างๆนั้น อาจจะทำให้อุปกรณ์ของเราเกิดการใช้งานอย่างผิดพลาดหรือรวนได้ อาจเกิดการชำรุดเสียหาย

ดาวน์โหลดไฟล์จากอินเตอร์เน็ตโดยไม่ทำการสแกนไวรัส

ในปัจจุบันนั้น การดาวน์โหลด ไฟล์ต่างๆมาจากอินเทอร์เน็ต ถือเป็นเรื่องปกติที่ไม่ว่าใครก็ทำกันแล้ว และนับว่าเป็นส่วนหนึ่งของการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เปลี่ยนด้วยซ้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการทำงานบนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ สิ่งหนึ่งที่ผู้ใช้งานควรระมัดระวังนั่นคือเรื่องของการบันทึกและการดาวน์โหลดไฟล์ลงในอุปกรณ์ โดยที่เราหลงลืมหรือไม่สแกนไวรัส เพราะอาจจะมีโปรแกรมที่ไม่พึงประสงค์บางอย่างปิดมาด้วยสำหรับผู้ไม่หวังดี ถึงแม้ว่าไฟล์เอกสารเหล่านี้จะมาจากคนที่รู้จักก็ตาม ดังนั้นไม่ว่าอย่างไร การสแกนไวรัสก่อนก็ไม่ได้เสียหายอะไร

แฟลชไดร์ฟ อุปกรณ์เก็บข้อมูลที่ยังเป็นที่ต้องการของตลาดอยู่เสมอ

แม้ว่าวิถีการใช้งาน แฟลชไดร์ฟ ในชีวิตประจำวันนั้น อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ใหม่อีกต่อไปในยุคที่อุปกรณ์ ไอที อยู่รอบตัวมากมาย ซึ่งถือว่ามีการใช้งานอุปกรณ์ประเภทนี้มาในระยะเวลานานพอสมควรแล้ว แต่กระนั้นก็ตามมันก็ยังคงเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับการพัฒนาอยู่เสมอ รูปแบบเช่น wooden usb, leather usb, rubber usb...

แม้ว่าวิถีการใช้งาน แฟลชไดร์ฟ ในชีวิตประจำวันนั้น อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ใหม่อีกต่อไปในยุคที่อุปกรณ์ ไอที อยู่รอบตัวมากมาย ซึ่งถือว่ามีการใช้งานอุปกรณ์ประเภทนี้มาในระยะเวลานานพอสมควรแล้ว แต่กระนั้นก็ตามมันก็ยังคงเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับการพัฒนาอยู่เสมอ รูปแบบเช่น wooden usb, leather usb, rubber usb ทั้งความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูล ไปจนถึงสีสันลวดลาย และขนาดของอุปกรณ์ ขนาดของพื้นที่ความจุการเก็บข้อมูล ซึ่งบางผู้ผลิตก็จะมีการใส่ความสามารถอื่น ๆ อีกด้วย อาทิ ความสามารถในการปกป้องข้อมูล หรือมีการเสริมฟังก์ชั่นของอุปกรณ์ชนิดอื่น ๆ ไว้ในตัวเดียวกันอย่างเช่น usbไฟฉาย pen usb หรือการเป็นพวงกุญแจเป็นต้น
และถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีสื่อเก็บข้อมูลชนิดใหม่ ๆ
รวมถึงชนิดที่มีขนาดเล็กกว่าอย่างเช่น SD card เป็นต้น แต่ด้วยความคงทนกว่า และเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ง่ายกว่า
และเมื่อเทียบด้วยขนาดที่ใหญ่กว่า เมื่อนำ แฟลชไดร์ฟ ไปเทียบกับ SD card นั่นก็หมายถึงประสิทธิภาพความจุของข้อมูลที่จะเหนือกว่าเสมอ เมื่อเทียบกับรุ่นใหม่สุดด้วยกัน เพราะเมื่อมีพื้นที่เยอะกว่าก็ย่อมติดตั้งได้มากกว่านั่นเอง และนี่เองจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ แฟลชไดร์ฟ ยังได้รับความนิยมอยู่เสมออย่างไม่เสื่อมคลาย

อย่างไรก็ตามหากคุณจำเป็นจะต้องเก็บข้อมูลที่มีความสำคัญมากที่สุดนั้น ก็จะต้องเลือกใช้สินค้าที่มีคุณภาพเชื่อถือไว้วางใจได้ เพราะหากใช้ แฟลชไดร์ฟ ที่ไม่มีคุณภาพ นั่นก็มีโอกาสที่ข้อมูลสำคัญของคุณจะสูญหายไปอย่างคาดไม่ถึง ซึ่งผู้ใช้งานจำนวนมากที่ถือว่าข้อมูลนั้นคือสิ่งที่มีมูลค่ายิ่งกว่าอุปกรณ์เลยด้วยซ้ำ

อีกทั้งยังควรเลือกพิจารณา แฟลชไดร์ฟ ที่มีความสามารถในการถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วเหมาะสมกับจุดประสงค์ที่ต้องการ อาทิ หากคุณต้องทำงานเกี่ยวกับการตัดต่อ ไฟล์ ขนาดใหญ่
ต่อวัน นั่นก็จะกลายเป็นเรื่องที่ดีกว่าแน่ ซึ่งถ้าหากคุณใช้ แฟลชไดร์ฟ ที่มีความเร็วสูง
นั่นก็จะสามารถประหยัดระยะเวลาในการรอถ่ายโอนข้อมูลในวันหนึ่งได้ รวมแล้วอาจลดได้เป็นชั่วโมงเลยทีเดียว แล้วเมื่อเทียบกับระยะเวลาต่อเดือน หรือต่อปี นั่นก็หมายถึงคุณจะได้เวลากลับคืนมาอย่างมหาศาลนั่นเอง และสามารถสร้างชิ้นงานได้มากขึ้น นำมาซึ่งรายได้มากขึ้นเช่นกัน

แต่กลับกันถ้าหากว่าคุณมีการใช้งานในเรื่องที่ไม่ได้สำคัญมาก เอาไว้สำรอง ไฟล์ เท่านั้น
โดยที่เก็บต้นฉบับเอาไว้อยู่แล้วแม้ว่าข้อมูลจะหายแต่ก็ยังมีสำรองไว้เสมอ นั่นก็อาจจะเลือกใช้สินค้าที่มีราคาย่อมเยาลงมาได้ ควบคู่กับคุณสมบัติที่ลดเกรดลง หรือยิ่งหากคุณประกอบกิจกรรมที่มีความสุ่มเสี่ยง อาจมีการสูญหายตกหล่นของอุปกรณ์ การพิจารณาใช้ แฟลชไดร์ฟ ที่มีราคาเป็นมิตรสูง นั่นก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน
ทั้งนี้เรื่องที่จะต้องระมัดระวังอย่างมากที่สุดนั่นก็คือสินค้าประเภท แฟลชไดร์ฟ นั้น
ก็มีอุปกรณ์ที่เรียกว่าของปลอมลอกเลียนแบบอยู่ด้วยเช่นกัน ซึ่งนอกจากจะไม่ได้ประสิทธิภาพตามที่ควรจะได้แล้ว และข้อมูลอาจสูญหาย หรือไฟล์เกิดเสีย นั่นจะเป็นอะไรที่ไม่ควรเกิดขึ้น
และยิ่งหากมีการสูญหายแบบทีละน้อย โดยที่ไม่ทันสังเกตเห็น ก็จะยิ่งกลายเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากเลยทีเดียว เพราะคุณจะเสียเวลามากขึ้นกับการไม่ทันรู้ และเสียหายมากขึ้นไปกับการป้อนข้อมูลไปเรื่อย ๆ ในขณะที่มีการสูญหายของข้อมูลเรื่อย ๆ
หรืออาจเลวร้ายได้ถึงขั้นแฝงมาด้วย ไฟล์ โทรจัน ที่เอื้อแก่การ แฮค โจรกรรมข้อมูลสำคัญ ดังนั้นควรตรวจสอบทุกครั้งก่อนซื้อว่าสินค้า แฟลชไดร์ฟ ที่กำลังซื้ออยู่นั้น เป็นของแท้จากผู้ผลิตหรือไม่ซึ่งหากคุณซื้อสินค้าที่มีคุณภาพ และเป็นของแท้อยู่เสมอ อุปกรณ์ชนิดนี้ก็มักจะมีอายุการใช้งานได้แบบยาว ๆ ได้เลยทีเดียว