5 ทางเลือก จัดเก็บ-โอนถ่ายไฟล์ ที่สามารถใช้ทดแทนแฟลชไดร์ฟได้

เมื่อพูดถึงการจัดเก็บไฟล์ข้อมูลเป็นการชั่วคราว เพื่อโอนถ่ายระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ไอทีใด ๆ ก็แน่นอนว่าผู้ใช้งานส่วนใหญ่มักนึกถึงแก็ดเจ็ตอย่างแฟลชไดร์ฟเป็นลำดับแรก ๆ เพราะนับเป็นแก็ดเจ็ตชิ้นที่ใช้งานง่าย มีขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก มีหลากหลายแบบเช่น metal usb, rubber usb, pen...

เมื่อพูดถึงการจัดเก็บไฟล์ข้อมูลเป็นการชั่วคราว เพื่อโอนถ่ายระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ไอทีใด ๆ ก็แน่นอนว่าผู้ใช้งานส่วนใหญ่มักนึกถึงแก็ดเจ็ตอย่างแฟลชไดร์ฟเป็นลำดับแรก ๆ เพราะนับเป็นแก็ดเจ็ตชิ้นที่ใช้งานง่าย มีขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก มีหลากหลายแบบเช่น metal usb, rubber usb, pen usb อีกทั้งยังมีราคาถูกอีกด้วย อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงยังมีตัวเลือกการจัดเก็บข้อมูลชั่วคราว และโอนถ่ายระหว่างอุปกรณ์แบบอื่น ๆ อีกมากมายที่สามารถใช้งานทดแทนแฟลชไดร์ฟได้ และผู้ใช้งานบางส่วนก็มองว่าการใช้แฟลชไดร์ฟนั้นมีข้อเสียอยู่ไม่น้อยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับปัญหาอาการชำรุด เสียหายที่ส่งผลให้ไฟล์ข้อมูลที่บันทึกไว้สูญหายไปด้วย ในบทความนี้จึงได้รวบรวมเอา 5 ทางเลือกการจัดเก็บข้อมูลและโอนถ่ายไฟล์รูปแบบต่าง ๆ ที่สามารถใช้ทดแทนแฟลชไดร์ฟได้มาแนะนำบอกกล่าวให้ได้ทราบกัน

ใช้ External Harddisk ผู้ใช้งานหลายคนน่าจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า Harddisk นั้นเป็นตัวจัดเก็บข้อมูลที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือแล็ปท็อป สำหรับใช้เป็นหน่วยความจำภายในตัวเครื่องที่คอยจัดเก็บข้อมูลทุกอย่างที่ผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ กดบันทึกลงไป แต่สิ่งที่ผู้ใช้งานบางส่วนอาจจะยังไม่ทราบก็คือฮาร์ดดิสก์นั้นก็สามารถใช้งานเป็นแก็ดเจ็ตเสริมสำหรับต่อพ่วงเป็นหน่วยความจำภายนอกแทนแฟลชไดร์ฟได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น External Harddisk สำเร็จรูปที่มีวางจำหน่ายอยู่ทั่วไปตามร้านขายแก็ดเจ็ต อุปกรณ์ไอที หรือฮาร์ดดิสก์ทั่วไปที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น แล็ปท็อปที่ชำรุด เสียหายแล้ว เราก็สามารถถอดเอาฮาร์ดดิสก์มาใช้งานเป็น External Harddisk ได้เช่นกัน

E-mail เครื่องมือพื้นฐานตัวนึงที่สามารถใช้งานจัดเก็บข้อมูลเป็นการชั่วคราว และโอนถ่ายข้อมูลทดแทนแฟลชไดร์ฟได้ แต่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่มักมองข้ามไปก็คือ E-mail หรือบริการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ของผู้ให้บริการออนไลน์แพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Google นั่นเอง ทั้งนี้ปัจจุบันการรับส่งอีเมลนั้นรองรับการแนบไฟล์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นไฟล์เอกสาร รูปภาพ หรือไฟล์มีเดียเคลื่อนไหวต่าง ๆ ดังนั้นผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ จึงสามารถใช้เป็นพื้นที่จัดเก็บและโอนถ่ายไฟล์ระหว่างอุปกรณ์ได้เช่นกัน ซึ่งวิธีการก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร เพียงแค่สมัครบัญชีอีเมลของผู้ให้บริการใด ๆ ตั้งแต่สองบัญชีขึ้นไป เพื่อใช้บัญชีใดบัญชีนึงแนบไฟล์ส่งไปยังอีกบัญชี จากนั้นทำการล็อกอินบัญชีรับอีเมลบนอุปกรณ์ใด ๆ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์ลงเครื่อง ก็เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการโอนถ่ายไฟล์

External SSD แก็ดเจ็ตอีกชิ้นนึงที่สามารถใช้งานทดแทนแฟลชไดร์ฟได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง และยังรองรับการติดตั้งโปรแกรมต่าง ๆ ลงไปได้ด้วยก็คือ External SSD ที่มีวางจำหน่ายอยู่ทั่วไปเช่นกันนั่นเอง ทว่าข้อเสียของ SSD ก็คือ ราคาที่สูงกว่า และขนาดที่ไม่ได้เล็กกะทัดรัดมากนักเมื่อเทียบกับแฟลชไดร์ฟ

บัญชีโซเชียลมีเดีย อีกหนึ่งตัวเลือกการจัดเก็บและโอนถ่ายข้อมูลที่หลายคนอาจนึกไม่ถึง แต่สามารถใช้งานได้ดีทีเดียวก็คือ บัญชีโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ที่เราใช้งานกันในชีวิตประจำวันอยู่แล้วนั่นเอง ซึ่งบัญชีโซเชียลฯเหล่านี้ต่างก็รองรับการอัพโหลดไฟล์รูปภาพ วิดีโออยู่แล้ว และแม้ว่าประโยชน์จริงๆ ของบัญชีโซเชียลฯจะเป็นการแชร์รูปภาพ วิดีโอต่าง ๆ ให้บุคคลอื่น ๆ ได้รับชม แต่เราก็สามารถเลือกตั้งค่าความเป็นส่วนตัวให้เฉพาะเจ้าของบัญชี ซึ่งก็คือตัวเราเห็นเท่านั้นได้ เราจึงสามารถใช้บัญชีโซเชียลฯเหล่านี้โอนถ่ายไฟล์มีเดียต่างๆ ระหว่างอุปกรณ์ ทดแทนการใช้งานแฟลชไดร์ฟได้เช่นกัน

ใช้ระบบคลาวด์ อีกหนึ่งตัวเลือกการจัดเก็บ โอนถ่ายไฟล์ที่ผู้ใช้งานหลายคนอาจคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว แต่บางคนก็อาจจะไม่เคยใช้งานมาก่อนก็คือระบบคลาวด์ หรือพื้นที่จัดเก็บไฟล์แบบออนไลน์นั่นเอง ซึ่งในปัจจุบันนี้ไม่ได้มีเพียงผู้ให้บริการออนไลน์แพลตฟอร์มรายใหญ่ เช่น Google หรือ Microsoft เท่านั้นที่ให้บริการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบคลาวด์ แต่ระบบคลาวด์ยังมีติดมากับอุปกรณ์ไอทีต่าง ๆ ที่เราใช้งานกันในชีวิตประจำวัน เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต โดยเป็นฟังก์ชั่นพื้นฐานที่แบรนด์ผู้ผลิตให้ผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ สามารถใช้งานได้ฟรี ๆ โดยให้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลเริ่มต้นมาประมาณนึง และสามารถอัพเกรดแพ็คเกจเพื่อเพิ่มพื้นที่ได้ในภายหลัง ปัจจุบันเราจึงสามารถใช้คลาวด์จัดเก็บ โอนถ่ายไฟล์ข้อมูลต่าง ๆ บนอุปกรณ์พกพาทดแทนแฟลชไดร์ฟได้อย่างสะดวกทีเดียว ทั้งนี้แฟลชไดร์ฟในปัจจุบันก็ยังฮิตเพราะถูกนำเอามาทำเป็น gift set เพื่อแจกหรือให้เป็นของสมนาคุณในงานต่าง ๆ

ผลงานแฟลชไดร์ฟ เลเซอร์โลโก้ HUAWEI

...

ผลงาน แฟลชไดร์ฟ สกรีนโลโก้ usb-perfect

โรงงานผลิตแฟลชไดร์ฟ พร้อมสกรีนโลโก้ฟรี! ขั้นต่ำน้อย มีโรงงานในไทย มีโกดังสต็อคในไทย พร้อมผลิต

  • สั่งทำเพื่อเป็นของแจก ของสมนาคุณ ของพรีเมี่ยม หรือของขวัญในโอกาสต่าง ๆ
  • สามารถสั่งทำเป็นชื่อ ข้อความ โลโก้ ลวดลาย ได้ตามต้องการ

สนใจสินค้า โทร. 02-4081377 หรือ ไลน์ @premiumperfect

ผลงานแฟลชไดร์ฟอื่น ๆ













เทียบความเร็วพอร์ต USB แต่ละเวอร์ชั่น ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟ

แฟลชไดร์ฟในยุคปัจจุบันนี้มีรูปแบบมากมายหลายรูปแบบเพิ่มมากขึ้นไม่ว่าจะเป็น Rubber Usb, Recycle Usb, Pen Usb เป็นต้น และอย่างที่ทราบกันดีว่าในการเลือกซื้อเลือกหาแฟลชไดร์ฟสักตัวไว้ใช้งานนั้นมีสเปคหลายส่วนที่ผู้ใช้งานอย่างเราๆ ต้องคำนึงถึง...

แฟลชไดร์ฟในยุคปัจจุบันนี้มีรูปแบบมากมายหลายรูปแบบเพิ่มมากขึ้นไม่ว่าจะเป็น Rubber Usb, Recycle Usb, Pen Usb เป็นต้น และอย่างที่ทราบกันดีว่าในการเลือกซื้อเลือกหาแฟลชไดร์ฟสักตัวไว้ใช้งานนั้นมีสเปคหลายส่วนที่ผู้ใช้งานอย่างเราๆ ต้องคำนึงถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสเปคที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพในการใช้งานโดยตรง ซึ่งนับว่ามีหลายจุดทีเดียวที่ผู้ใช้งานต้องพิจารณาให้ดี แม้ว่าแฟลชไดร์ฟนั้นดูจะเป็นเพียงแก็ดเจ็ตชิ้นเล็กๆ ที่ดูไม่น่าจะมีอะไรซับซ้อนก็ตาม โดยจุดสำคัญที่ผู้ใช้งานหลายคนมักนึกถึงเป็นลำดับแรกๆ เสมอก็แน่นอนว่าเป็นในส่วนของขนาดความจุข้อมูล ซึ่งเป็นตัวกำหนดว่าเราจะสามารถบันทึกข้อมูลลงในตัวแฟลชไดร์ฟตัวนั้นๆ ได้มากน้อยแค่ไหน และสเปคส่วนต่อมาที่ผู้ใช้งานมักจะนึกถึงเป็นลำดับต่อมาก็คือ Type ของพอร์ตเชื่อมต่อ ว่าเป็น USB Type ไหนนั่นเอง ซึ่ง Type ที่ผู้ใช้งานนิยมเลือกใช้ในปัจจุบันนี้ก็คือ Type C หรือ USB-C ที่เป็นเหมือนพอร์ตมาตรฐานของอุปกรณ์พกพาเจเนอเรชั่นใหม่ๆ อย่างไรก็ตามนอกจาก Type หรือลักษณะของหัวพอร์ต USB แล้ว สเปคอีกส่วนนึงที่สำคัญไม่แพ้กันและส่งผลต่อประสิทธิภาพในการรับส่งข้อมูลของแฟลชไดร์ฟตัวนั้นๆ โดยตรง แต่ผู้ใช้งานหลายคนกลับมองข้ามไปก็คือ เวอร์ชั่นของพอร์ต USB ที่ผู้ผลิตเลือกใส่มานั่นเอง ในบทความนี้จึงจะมาเปรียบเทียบความเร็วของพอร์ต USB แต่ละเวอร์ชั่นให้ได้เห็นกันชัดๆ ว่า แตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน เพื่อให้ผู้ใช้งานได้นำไปใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟสักตัวให้ได้ประสิทธิภาพการใช้งานตรงตามความต้องการ

USB 1.0 เวอร์ชั่นดั้งเดิมของพอร์ต USB ที่แน่นอนว่าเป็นเวอร์ชั่นที่อยู่มานานที่สุดแล้ว และผู้ใช้งานหลายคนก็ล้วนเคยผ่านการใช้งานบนอุปกรณ์ต่างๆ กันมาบ้างแล้วไม่มากก็น้อยก็คือ เวอร์ชั่น USB 1.0 โดย USB 1.0 นี้ถูกใช้งานกับแฟลชไดร์ฟเจเนอเรชั่นแรกๆ ที่ถูกผลิตออกมาวางจำหน่ายครั้งแรกๆเมื่อกว่าสิบปีก่อน ซึ่งปัจจุบันต้องบอกว่าแทบจะไม่มีอุปกรณ์และแก็ดเจ็ตที่เลือกใช้ USB เวอร์ชั่นนี้แล้ว โดยประสิทธิภาพในการรับส่งข้อมูลของ USB 1.0 นี้อยู่ที่ 1.5 Mbps (Megabit per Second) หรือก็คือใน 1 วินาที สามารถส่งข้อมูลผ่านพอร์ตดังกล่าวนี้ได้เพียง 1.5 บิต นั่นเอง และด้วยประสิทธิภาพการรับส่งข้อมูลที่จำกัดมากๆ ดังกล่าวนี้เอง ทำให้พอร์ต USB ถูกพัฒนาต่อมาเป็นเวอร์ USB 1.1 โดยมีความเร็วก้าวกระโดดมาอยู่ที่ 12 Mbps

USB 2.0 การพัฒนาเวอร์ชั่นพอร์ต USB ที่ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญก็คือการพัฒนาจากเวอร์ชั่น 1.1 มาเป็นเวอร์ชั่น 2.0 นั่นเอง โดยการมาของ USB 2.0 ถือว่ามีส่วนช่วยให้การใช้งานแก็ดเจ็ตแฟลชไดร์ฟแพร่หลายมากยิ่งขึ้นไปด้วย เพราะประสิทธิภาพการรับส่งข้อมูลที่ถูกอัพเกรดขึ้นมานั้น ถือว่าดีกว่าเดิมชนิดทิ้งกันไม่เห็นฝุ่นเลยทีเดียว โดยพอร์ต USB 2.0 ทำความเร็วในการรับส่งข้อมูลได้ถึง 480 Mbps และด้วยประสิทธิภาพดังกล่าวนี้เองที่ทำให้ พอร์ตเวอร์ชั่นนี้ถูกใช้งานบนอุปกรณ์ต่างๆ มายาวนานต่อเนื่องกันเป็นเวลาหลายปี และแม้ว่าปัจจุบันจะมีพอร์ตเวอร์ชั่นใหม่ๆ ออกมาที่สามารถทำความเร็วได้ดีกว่า แต่ USB 2.0 ก็ยังคงถูกผู้ผลิตอุปกรณ์ไอที และผู้ผลิตแก็ดเจ็ตแฟลชไดร์ฟรายต่างๆ เลือกใช้ในสินค้ารุ่นราคาประหยัดของตนเอง

USB 3 มากันถึงซีรีย์ของเวอร์ชั่น USB 3 กันบ้าง ซึ่งนับว่าเป็นการก้าวกระโดดอีกครั้งของประสิทธิภาพในการรับส่งข้อมูล โดยเวอร์ชั่น USB 3 พัฒนาเริ่มต้นมาจาก USB 3.0 ก่อนจะอัพเกรดต่อเรื่อยๆ เป็น 3.1, และ 3.2 ซึ่งมีความเร็วในการรับส่งข้อมูลเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ตามลำดับ เริ่มจาก USB 3.0 ที่รับส่งข้อมูลได้เร็ว 5 Gbps USB 3.1 ที่ 10 Gbps และ USB 3.2 ทำความเร็วได้ที่ 20 Gbps จะเห็นได้ว่า USB เวอร์ชั่น 3 เป็นต้นมามีประสิทธิภาพในการรับส่งข้อมูลที่ขยับขึ้นมาจากระดับเมกะบิต เป็น กิกะบิต ดังนั้นแน่นอนว่าการเลือกใช้แฟลชไดร์ฟ USB 3 กับ USB 2 ย่อมมีความแตกต่างเรื่องประสิทธิภาพอยู่พอสมควร ทว่าข้อจำกัดที่ตามมาก็คือเรื่องของราคานั่นเอง โดยแฟลชไดร์ฟที่เลือกใช้พอร์ต USB ตั้งแต่เวอร์ชั่น 3 ขึ้นมา ย่อมมีราคาที่สูงกว่าเวอร์ชั่น 2 พอสมควรเช่นกัน และหากหากใครกำลังลังเลว่าจะทำ Gift Set ดีไหมเพื่อนำไปแจกในงานสำคัญต่าง ๆ บอกเลยว่าควรค่าแก่การนำไปทำ Gift Set มากๆ

เปรียบเทียบ แฟลชไดร์ฟ-SD Card-External SSD แตกต่างกันอย่างไร แบบไหนคุ้มค่าที่สุด ?

เมื่อพูดถึงแก็ดเจ็ตสำหรับจัดเก็บไฟล์ข้อมูลดิจิทัลต่าง ๆ ก็แน่นอนว่าในปัจจุบันยูสเซอร์ หรือผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ นั้นมีตัวเลือกให้ได้เลือกใช้งานกันค่อนข้างหลากหลายทีเดียว แม้ว่าเทคโนโลยีเดิม ๆ บางส่วน เช่น แผ่นวีซีดี แผ่นดีวีดี จะเลือนหายไปแล้วก็ตาม...

เมื่อพูดถึงแก็ดเจ็ตสำหรับจัดเก็บไฟล์ข้อมูลดิจิทัลต่าง ๆ ก็แน่นอนว่าในปัจจุบันยูสเซอร์ หรือผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ นั้นมีตัวเลือกให้ได้เลือกใช้งานกันค่อนข้างหลากหลายทีเดียว แม้ว่าเทคโนโลยีเดิม ๆ บางส่วน เช่น แผ่นวีซีดี แผ่นดีวีดี จะเลือนหายไปแล้วก็ตาม โดยปัจจุบันมีตัวเลือกแก็ดเจ็ดจัดเก็บข้อมูลทั้ง แฟลชไดร์ฟ SD Card และ External SSD ให้เราได้เลือกใช้งาน ซึ่งทั้งสามแบบนั้นต่างก็มีขนาดที่เล็กกะทัดรัด พกพาสะดวกด้วยกันทั้งนั้น อย่างไรก็ตามแม้ว่าเมื่อมองอย่างผิวเผินแล้วแก็ดเจ็ตทั้งสามตัวจะสามารถใช้งานทดแทนกันได้ แต่ทว่าในความเป็นจริง แก็ดเจ็ตจัดเก็บข้อมูลทั้งสามตัวนี้มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ซึ่งผู้ใช้งานบางส่วนอาจจะทราบกันดีอยู่แล้ว แต่ก็อาจมีผู้ใช้งานหลายคนที่ไม่ทราบมาก่อน และยังคงชั่งใจที่จะตัดสินใจเลือกใช้แก็ดเจ็ตตัวใด ในบทความนี้จึงจะมาเปรียบเทียบให้ได้เห็นกันชัด ๆ ว่า แฟลชไดร์ฟ SD Card และ External SSD มีจุดเด่นในการจัดเก็บไฟล์ดิจิทัลต่าง ๆ ที่เหมือน หรือต่างกันอย่างไร และแบบไหนคุ้มค่ามากที่สุด

แฟลชไดร์ฟ VS SD Card แก็ดเจ็ตสองตัวแรกที่ดูจะคล้าย ๆ กัน และผู้ใช้งานหลายคนเข้าใจว่ามีประโยชน์ใช้งานไม่ต่างกัน แต่ในความเป็นจริง ประโยชน์ใช้งานค่อนข้างต่างกันพอสมควรก็คือ แฟลชไดร์ฟ และ SD Card นั่นเอง โดยแฟลชไดร์ฟนั้น ผู้ใช้งานหลายคนคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วว่าเป็นไดร์ฟพกพาสำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านพอร์ต USB     มีหลากหลายรูปแบบทั้ง PEN  USB ที่เป็นทั้งปากกาและแฟลชไดร์ฟในเวลาเดียวกัน RUBBER USB ที่เป็นทั้งสายรัดข้อมือ พวงกุญแจแต่สำหรับ SD Card นั้น เป็นแบบการ์ดแต่แม้ว่าจะสามารถใช้งานเป็นไดร์ฟภายนอกเพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ทั้งคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต สมาร์ทโฟนได้เหมือนกัน แต่ประโยชน์หลัก ๆ ของแก็ดเจ็ตบันทึกข้อมูลตัวนี้ก็คือ การเสียบติดไว้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใดๆประจำเลยนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน กล้องดิจิทัล กล้องวงจรปิด โดย SD Card มีความสามารถในการบันทึกไฟล์ใหม่ ๆ ทับแทนไฟล์เดิม ๆ ได้ทันทีที่พื้นที่หน่วยความจำถูกใช้จนเต็ม จึงเป็นแก็ดเจ็ตชิ้นมาตรฐานที่ถูกเลือกใช้งานกับกล้องวงจรปิดแบบต่าง ๆ ขณะที่แฟลชไดร์ฟไม่สามารถใช้งานในลักษณะนี้ได้

SD Card VS External SSD แก็ดเจ็ตสองตัวที่มีระบบการทำงานภายใน เขียน อ่านไฟล์ดิจิทัลต่าง ๆ ไม่แตกต่างกัน แต่ประโยชน์การใช้งาน และความเหมาะสมในการใช้งานแตกต่างกันชัดเจนเช่นกันก็คือ SD Card และ External SSD อย่างที่ทราบดังกล่าวข้างต้นว่า SD Card นั้นมีจุดเด่นตรงที่สามารถใช้เป็นหน่วยความจำให้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เสมือนเป็นหน่วยความจำหลัก แต่สำหรับ External SSD นั้น แม้ว่าจะถูกพัฒนาต่อยอดมาจากหน่วยความจำภายในของคอมพิวเตอร์ แล็ปท็อปเจนเนอเรชั่นใหม่ ๆ แต่ด้วยสถาปัตยกรรมที่ดีไซน์มาให้เน้นใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์เป็นหลัก จึงทำให้ไม่สามารถใช้งานในลักษณะเดียวกับ SD Card ได้ แต่ทว่าจุดเด่นของ External SSD ก็คือ สามารถใช้เป็นไดร์ฟภายนอกที่มีสเกลการใช้งานใหญ่กว่าทั้งแฟลชไดร์ฟ และ SD Card ได้ ทั้งการเก็บไฟล์ขนาดใหญ่ที่มีความละเอียดสูง การติดตั้งซอฟต์แวร์ใด ๆ ลงไป และพร้อมใช้งานได้ทันทีที่เชื่อมต่อ SSD เข้ากับคอมพิวเตอร์เครื่องใด ๆ

ราคา จากข้อเปรียบเทียบดังกล่าวข้างต้นสองข้อ ผู้ใช้งานหลายคนน่าจะได้ทราบความแตกต่าง และจุดเด่นของแก็ดเจ็ตจัดเก็บข้อมูลอย่างแฟลชไดร์ฟ SD Card และ External SSD กันแล้ว แต่อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ต้องบอกว่ามีผลต่อความคุ้มค่าในการเลือกใช้งานของผู้ใช้งานหลายคนไม่น้อยเหมือนกันก็คือ ราคานั่นเอง ซึ่งถ้าให้เปรียบเทียบราคาโดยเฉลี่ย สามารถเรียงลำดับจากน้อยไปมากได้ดังนี้ แฟลชไดร์ฟ-SD Card-External SSD กล่าวสรุปคือ แฟลชไดร์ฟเป็นแก็ดเจ็ดจัดเก็บข้อมูลพกพาที่มีราคาถูกที่สุด ส่วน SD Card จะมีราคาสูงขึ้นมาหน่อยอยู่ในระดับกลาง ๆ และ External SSD มีราคาแพงที่สุดนั่นเอง ดังนั้นหากต้องการใช้งานสำหรับจัดเก็บข้อมูลโอนถ่ายไฟล์ระหว่างอุปกรณ์ทั่วไป แฟลชไดร์ฟก็ถือว่าคุ้มค่าและเพียงพอต่อความต้องการแล้ว แต่สำหรับลักษณะการใช้งานอื่น ๆ นั้นก็จำเป็นต้องเลือกใช้ตามความเหมาะสมทั้งนี้ควรจัดเก็บใส่ Package เพื่อป้องกันการสูญหาย

ส่องลิสต์ 5 แบรนด์แฟลชไดร์ฟ(Type-C) น่าใช้ ในปี 2024

อย่างที่ทราบกันดีว่าในปัจจุบัน หากผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ จะเลือกซื้อเลือกหาแฟลชไดร์ฟสักอันมาไว้ใช้งาน สำหรับเก็บข้อมูล สำรองข้อมูลจากอุปกรณ์ต่าง ๆ ก็ควรที่จะเลือกแฟลชไดร์ฟแบบที่มีพอร์ต USB Type C มาให้ด้วย เพื่อความสะดวกในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เจเนอเรชั่นใหม่ ๆ...

อย่างที่ทราบกันดีว่าในปัจจุบัน หากผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ จะเลือกซื้อเลือกหาแฟลชไดร์ฟสักอันมาไว้ใช้งาน สำหรับเก็บข้อมูล สำรองข้อมูลจากอุปกรณ์ต่าง ๆ ก็ควรที่จะเลือกแฟลชไดร์ฟแบบที่มีพอร์ต USB Type C มาให้ด้วย เพื่อความสะดวกในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เจเนอเรชั่นใหม่ ๆ ซึ่งตัวเลือกสินค้าในตลาดก็ต้องบอกว่ามีหลากหลายทีเดียว เพราะแต่ละแบรนด์ผู้ผลิตก็เริ่มมีการใส่พอร์ต USB-C เข้ามาในสินค้ารุ่นต่าง ๆ ของตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ ทว่าปัญหาที่ตามมาก็คือ ผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ ไม่ทราบว่าสินค้าแบรนด์ไหนคุณภาพดี น่าใช้งานนั่นเอง เพราะอย่างที่รู้ ๆ กันว่า แฟลชไดร์ฟเองก็เป็นแก็ดเจ็ตไอทีชิ้นนึงที่ค่อนข้างมีความอ่อนไหวเรื่องอาการชำรุด เสียหายต่าง ๆ ดังนั้นในการเลือกซื้อเลือกหามาใช้งานจึงต้องเลือกใช้สินค้าชิ้นที่มั่นใจเรื่องของคุณภาพวัสดุ งานผลิต งานประกอบได้ในระดับนึง ในบทความนี้จึงได้เลือกเอาลิสต์ 5 แบรนด์แฟลชไดร์ฟ(Type C) คุณภาพดี น่าใช้งานในปี 2024 มาบอกกล่าวให้ได้ทราบกัน

SanDisk แบรนด์แรกต้องบอกว่าเป็นแบรนด์ที่ครองอันดับหนึ่งในตลาดแฟลชไดร์ฟบ้านเรามาตลอดช่วงหลายปีหลัง ซึ่งก็คือแซนดิสก์นั่นเอง เช่นเดียวกันกับแฟลชไดร์ฟ Type C ในปี 2024 นี้ สินค้าจาก SanDisk ก็ยังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ โดยสินค้ารุ่น Type C จากแซนดิสก์นั้นมีให้เลือกอยู่หลายรุ่นหลายแบบ และมีราคาเริ่มต้นประมาณ 300 บาทเท่านั้นซึ่งแบรนด์นี้ก็ยังมีการผลิต Recycle Usb ด้วยซึ่งชิ้นส่วนกว่า 70% ทำจากพลาสติกที่รีไซเคิล   ข้อดีของแบรนด์เจ้าดังรายนี้ก็คือในการใช้งานจะมีซอฟท์แวร์เสริมของตัวเองให้ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดลงบนอุปกรณ์ต่าง ๆ บนช่องทางดาวน์โหลดทางการของแต่ละอุปกรณ์ด้วย เช่น App Store, Play Store เป็นต้น

Hoco แบรนด์ต่อมาต้องบอกว่าอาจจะไม่ใช่แบรนด์ดัง มีชื่อระดับเจ้าตลาดสักเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าเป็นแบรนด์ผู้ผลิตแก็ดเจ็ต อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ที่มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ของตัวเองป้อนเข้ามาในตลาดบ้านเราอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในช่วงหลัง ๆ นี้ ผู้ใช้งานหลายคนน่าจะเริ่มคุ้นชื่อแบรนด์กันบ้างแล้ว ซึ่งก็คือ Hoco นั่นเอง โดย hoco เองก็มีแฟลชไดร์ฟ Type C ยิ่งเป็น Metal Usb ที่น่าสนใจเลือกใช้งานในปี 2024 นี้ เช่นกัน โดยมีราคาเริ่มต้นเพียงประมาณ 200 บาทเท่านั้น และมีความจุตั้งแต่ 16Gb, 32Gb, 64Gb และ 128 Gb

Lenova แบรนด์ต่อมาถือเป็นแบรนด์ที่ผู้ใช้งานอาจจะไม่คุ้นกับภาพลักษณ์ผู้ผลิตแก็ดเจ็ตสักเท่าไหร่ เพราะผลิตภัณฑ์ของแบนด์ที่คุ้นตาผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมามักจะเป็นตัว Device หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ แล็ปท็อปรุ่นต่าง ๆ ซะเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็คือแบรนด์ เลโนโว่ ทว่าในปี 2024 นี้ แบรนด์ดังรายนี้กลับมีตัวเลือกแฟลชไดร์ฟ Type C ที่น่าสนใจมากทีเดียว โดยแฟลชไดร์ฟเลโนโวที่มีวางจำหน่ายอยู่ในปี 2024 นี้ มีราคาเริ่มต้นเพียงประมาณ 350 บาท เท่านั้น และมาพร้อมขนาดความคุใหญ่ยักษ์ถึง 1TB และ 2TB

HP อีกหนึ่งแบรนด์ที่นับว่าได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้งานในบ้านเราค่อนข้างสูงทั้งผลิตภัณฑ์ Device และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ อย่าง HP ก็เป็นอีกแบรนด์ที่มีการทำแฟลชไดร์ฟ Type C ออกมาวางจำหน่ายเช่นกัน โดยแฟลชไดร์ฟ Type C HP มีราคาจำหน่ายเริ่มต้นเพียงประมาณ 300 บาท เท่านั้น และมีขนาดความจุสูงสุดถึง 2TB

Kingston และอีกหนึ่งแบรนด์ที่ต้องบอกว่ายังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือกแฟลชไดร์ฟที่น่าใช้งานมากที่สุดในทุกยุคก็คือ Kingston แบรนด์เก่าแก่ที่ยังคงพัฒนาแก็ดเจ็ตแฟลชไดร์ฟออกมาต่อเนื่อง โดยในปี 2024 นี้ คิงส์ตันเองก็มี แฟลชไดร์ฟ Type C ให้ผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ เลือกใช้เช่นกัน โดยมาพร้อมทั้งพอร์ต USB-C และพอร์ตมาตรฐานอย่าง USB-A มีราคาเริ่มต้นเพียงประมาณ 250 บาทเท่านั้น มีขนาดความจุให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ 32 Gb ไปจนถึงระดับเทราไบต์

สามาถเลือกซื้อเลือกใช้ได้ตามความต้องการ และปัจจุบันนี้นอกจากแฟลชไดร์ฟจะถูกนำไปใช้ส่วนตัวแล้ว ยังถูกนำไปเป็นของพรีเมี่ยม เพื่อทำเป็น Gift Set แจกในงานต่าง ๆ อีกด้วย

 

ผลงานสายชาร์จ USB สกรีนโลโก้ THE BALI PROCESS

...

ผลงาน แฟลชไดร์ฟ สกรีนโลโก้ usb-perfect

โรงงานผลิตแฟลชไดร์ฟ พร้อมสกรีนโลโก้ฟรี! ขั้นต่ำน้อย มีโรงงานในไทย มีโกดังสต็อคในไทย พร้อมผลิต

  • สั่งทำเพื่อเป็นของแจก ของสมนาคุณ ของพรีเมี่ยม หรือของขวัญในโอกาสต่าง ๆ
  • สามารถสั่งทำเป็นชื่อ ข้อความ โลโก้ ลวดลาย ได้ตามต้องการ

สนใจสินค้า โทร. 02-4081377 หรือ ไลน์ @premiumperfect

ผลงานแฟลชไดร์ฟอื่น ๆ













ผลงานแท่นชาร์จไร้สาย เลเซอร์โลโก้ IOD

...

ผลงาน แฟลชไดร์ฟ สกรีนโลโก้ usb-perfect

โรงงานผลิตแฟลชไดร์ฟ พร้อมสกรีนโลโก้ฟรี! ขั้นต่ำน้อย มีโรงงานในไทย มีโกดังสต็อคในไทย พร้อมผลิต

  • สั่งทำเพื่อเป็นของแจก ของสมนาคุณ ของพรีเมี่ยม หรือของขวัญในโอกาสต่าง ๆ
  • สามารถสั่งทำเป็นชื่อ ข้อความ โลโก้ ลวดลาย ได้ตามต้องการ

สนใจสินค้า โทร. 02-4081377 หรือ ไลน์ @premiumperfect

ผลงานแฟลชไดร์ฟอื่น ๆ













5 เหตุผล ที่ทำให้แฟลชไดร์ฟ เป็นแก็ดเจ็ตจัดเก็บข้อมูลที่ไม่เลือนหายไปตามยุคสมัย

เมื่อพูดถึงอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเสริมสำหรับใช้งานควบคู่กับอุปกรณ์ไอที เช่น คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ แล็ปท็อป แน่นอนว่าผู้ใช้งานหลายคนคงพอจะได้เห็นไทม์ไลน์การเปลี่ยนแปลง และการเลือนหายไปของแก็ดเจ็ตหลาย ๆตัวตลอดหลายปีที่ผ่านมา...

เมื่อพูดถึงอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเสริมสำหรับใช้งานควบคู่กับอุปกรณ์ไอที เช่น คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ แล็ปท็อป แน่นอนว่าผู้ใช้งานหลายคนคงพอจะได้เห็นไทม์ไลน์การเปลี่ยนแปลง และการเลือนหายไปของแก็ดเจ็ตหลาย ๆตัวตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแก็ดเจ็ตจัดเก็บข้อมูลที่เราคุ้นเคยกันในช่วงยุค 2000’s เช่น แผ่น Floppy Disk แผ่น CD, VCD, DVD จะเห็นได้ว่าปัจจุบันแก็ดเจ็ตเหล่านี้ได้เลือนหายไปตามกาลเวลาอย่างสมบูรณ์แล้ว แต่กลับมีแก็ดเจ็ตตัวนึงที่ไม่ได้เลือนหายไปตามกาลเวลา ซึ่งก็คือ”แฟลชไดร์ฟ”  ทั้งที่มันถูกริเริ่มใช้งานในช่วงเวลาที่ไล่เลี่ยกับแก็ดเจ็ตตัวอื่น ๆ หลายตัวดังกล่าว ในบทความนี้จึงจะมาเผยถึงเหตุผลให้ได้ทราบกันว่าเพราะอะไรแก็ดเจ็ตที่จัดเก็บไฟล์ข้อมูลที่ถูกริเริ่มใช้กันมาเกินกว่า 20 ปีแล้วอย่างแฟลชไดร์ฟ จึงไม่เลือนหายไปตามกาลเวลาเหมือนเพื่อนร่วมรุ่นรายอื่น ๆ อีกทั้งยังถูกนิยมใช้ทำเป็น GIFT SET เพื่อแจกในงานต่าง ๆ ท่ามกลางทางเลือกการจัดเก็บข้อมูลที่มีให้ผู้ใช้งานได้เลือกใช้มากมายในปัจจุบัน

พื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่ยืดหยุ่นกว่า แม้ว่าแฟลชไดร์ฟจะเป็นแก็ดเจ็ตจัดเก็บข้อมูลที่มีการริเริ่มใช้งานพร้อมๆกับ แก็ดเจ็ตอย่างแผ่น Floppy Disk และแผ่นดิสก์ในรูปแบบ CD ทั้งหลาย แต่สิ่งที่ทำให้แฟลชไดร์ฟ เป็นแก็ดเจ็ตที่มีข้อดีแตกต่างจากแก็ดเจ็ตจัดเก็บข้อมูลตัวอื่น ๆ อย่างชัดเจนก็คือ สถาปัตยกรรมพื้นที่จัดเก็บข้อมูลของตนเองที่มีความยืดหยุ่นในการขยายพื้นที่ได้อย่างง่ายดายนั่นเอง โดยปัจจุบันจะเห็นได้ว่าแฟลชไดร์ฟสามารถยกระดับขนาดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลของตนเองมาถึงระดับเทราไบต์แล้วด้วยซ้ำ ขณะที่แก็ดเจ็ตที่อาศัยสถาปัตยกรรมแบบแผ่นดิสก์นั้นจะถูกจำกัดพื้นที่ด้วยขนาดของแผ่นดิสก์ ทำให้ไม่สามารถขยายพื้นที่จัดเก็บไปเกินกว่าระดับ กิกะไบต์ต้น ๆ ได้ และนั่นก็เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้แฟลชไดร์ฟยังคงอยู่ในยุคสมัยปัจจุบัน แต่แก็ดเจ็ตจัดเก็บข้อมูลตัวอื่น ๆ เลือนหายไป

พอร์ตการเชื่อมต่อที่สะดวก และมีการปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย เหตุผลประการต่อมาที่ทำให้แฟลชไดร์ฟเป็นแก็ดเจ็ตจัดเก็บข้อมูลที่โดดเด่น สะดวกต่อผู้ใช้งานมากกว่าแก็ดเจ็ตจัดเก็บข้อมูลจากเจเนอเรชั่นเดียวกันก็คือ พอร์ตการเชื่อมต่อที่สะดวก และง่ายต่อการปรับเปลี่ยนตามยุคสมัยนั่นเอง เนื่องจากแฟลชไดร์ฟใช้พอร์ตแบบ USB ซึ่งเป็นพอร์ตมาตรฐานของอุปกรณ์ไอทีต่าง ๆ ที่ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมได้หลายชนิด ขณะที่แก็ดเจ็ตชิ้นอื่น ๆ จำเป็นต้องมีพอร์ตการเชื่อมตัวเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น Floppy Disk Drive VCD/DVD Drive ซึ่งนับเป็นภาระของผู้ผลิตอุปกรณ์ไอทีที่ต้องใส่เข้ามาเพิ่มเติม สุดท้ายเมื่อความต้องการใช้งานลดลง ตัวพอร์ตจึงถูกตัดทอนทิ้งไปด้วย

ดีไซน์และขนาดที่สะดวกต่อการพกพา เหตุผลประการต่อมาที่ทำให้แฟลชไดร์ฟยังคงเป็นตัวเลือกการจัดเก็บไฟล์ข้อมูลที่ดีท่ามกลางทางเลือกอีกมากมายในปัจจุบันก็คือ ดีไซน์และขนาดที่สะดวกต่อการพกพาติดตัวนั่นเอง เรียกว่าเป็นแก็ดเจ็ตชิ้นที่ไม่มีอุปสรรคในการพกพาใด ๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขนาด น้ำหนัก หรือหน้าตาดีไซน์ที่ถูกออกแบบมาแตกต่างจากยุคก่อน ๆ อย่างเช่น Pen Usb ที่เป็นได้ทั้งปากกาและแฟลชไดร์ฟ Rubber Usb ที่เป็นแฟลชไดร์ฟยางที่ทั้งเป็นสายรัดข้อมือ พวงกุญแจและสายวัด แต่ก็ยังใช้งานเป็นแฟลชไดร์ฟได้ด้วย

ความเป็นส่วนตัว/ความปลอดภัยของข้อมูล เหตุผลสำคัญต่อมาที่ทำให้แฟลชไดร์ฟยังคงถูกเลือกใช้ทดแทนทางเลือกการจัดเก็บข้อมูลแบบอื่น ๆ ก็คือ ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยข้อมูลนั่นเอง เนื่องจากทางเลือกการจัดเก็บข้อมูลอื่น ๆ ในปัจจุบันมักจะเป็นรูปแบบออนไลน์ หรือพื้นที่กลางที่ให้บริการโดยบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์รายต่าง ๆ ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะถูกแฮ็ก หรือโจรกรรมข้อมูลจากผู้ไม่หวังดีจากทั่วทุกมุมโลก

ความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูล อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้แฟลชไดร์ฟยังคงเป็นแก็ดเจ็ตจัดเก็บข้อมูลที่ถูกเลือกใช้งานในปัจจุบัน และไม่เลือนหายไปตามยุคสมัยก็คือ ความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลที่ยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจนั่นเอง ทั้งนี้แม้ว่าปัจจุบันอุปกรณ์ต่าง ๆ จะมีเทคโนโลยีการโอนถ่ายข้อมูลระหว่างอุปกรณ์แบบไร้สาย แต่ข้อจำกัดนึงที่ทำให้ผู้ใช้งานหลายคนรู้สึกไม่สะดวกก็คือเรื่องของความเร็วนั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับไฟล์ที่มีขนาดใหญ่ การโอนถ่ายผ่านสัญญาณไร้สายมักจะใช้เวลาพอสมควร แต่การโอนถ่ายผ่านแฟลชไดร์ฟนั้นจะเป็นการเชื่อมต่อเขากับพอร์ต USB ของอุปกรณ์นั้น ๆ แบบไดเรค ทำให้โอนถ่ายไฟล์จำนวนมาก หรือไฟล์ขนาดใหญ่ทำได้รวดเร็วกว่า

ผลงานผลิตแฟลชไดร์ฟ โลโก้ QES

...

ผลงาน แฟลชไดร์ฟ สกรีนโลโก้ usb-perfect

โรงงานผลิตแฟลชไดร์ฟ พร้อมสกรีนโลโก้ฟรี! ขั้นต่ำน้อย มีโรงงานในไทย มีโกดังสต็อคในไทย พร้อมผลิต

  • สั่งทำเพื่อเป็นของแจก ของสมนาคุณ ของพรีเมี่ยม หรือของขวัญในโอกาสต่าง ๆ
  • สามารถสั่งทำเป็นชื่อ ข้อความ โลโก้ ลวดลาย ได้ตามต้องการ

สนใจสินค้า โทร. 02-4081377 หรือ ไลน์ @premiumperfect

ผลงานแฟลชไดร์ฟอื่น ๆ