จะแก้ไขอย่างไรหากคอมพิวเตอร์มองไม่เห็นแฟลชไดร์ฟของคุณ

แฟลชไดร์ฟเป็นอุปกรณ์จัดเก็บไฟล์ที่มีระบบการใช้งานที่ง่าย สะดวก สามารถใช้งานได้กับคอมพิวเตอร์แทบทุกรุ่นทุกยี่ห้อเลยทีเดียว แต่คุณคงไม่สบายใจอย่างแน่นอนหากแฟลชไดร์ฟที่อัดแน่นไปด้วยข้อมูลต่างๆ เอกสารไฟล์งาน หรือไฟล์ที่คุณหวงแหน...

แฟลชไดร์ฟเป็นอุปกรณ์จัดเก็บไฟล์ที่มีระบบการใช้งานที่ง่าย สะดวก สามารถใช้งานได้กับคอมพิวเตอร์แทบทุกรุ่นทุกยี่ห้อเลยทีเดียว แต่คุณคงไม่สบายใจอย่างแน่นอนหากแฟลชไดร์ฟที่อัดแน่นไปด้วยข้อมูลต่างๆ เอกสารไฟล์งาน หรือไฟล์ที่คุณหวงแหน เกิดเปิดไม่ติดแม้ว่าจะพยายามเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เครื่องใด อาการแฟลชไดร์ฟแสดงผลใดๆแบบนี้มักจะเกิดจากไม่กี่สาเหตุ ฉะนั้นวันนี้เราจะมาเรียบรู้ถึงสาเหตุและวิธีการแก้หากเกิดอาการดั่งกล่าวขึ้น
สาเหตุของอาการแฟลชไดร์ฟเปิดไม่ติดนั้นมักจะเกิดความผิดพลาดของระบบปฏิบัติการณ์กับระบบภายในของแฟลชไดร์ฟที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกันได้ คุณจึงต้องใช้วิธีสัก 2 – 3 วิธีเพื่อช่วยแก้ไขอาการดั่งกล่าว วิธีแรกเริ่มต้นด้วยการเสียบแฟลชไดร์ฟเข้ากับคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คให้เรียบร้อย จากนั้นมาที่หน้าจอและคลิ๊กขวาที่ไอคอน My computer กดเลือกที่เมนูProperties จะปรากฏหน้าจอใหญ่ขึ้นมาให้คุณสังเกตุที่ด้านซ้ายจะพบเมนู Device Manager ให้กดเลือกเข้าไปจากนั้นจะพบกับรายชื่อ Device มากมายที่ได้ทำการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของคุณ สังเกตุว่าจะมีบางตัวที่ขึ้นไอคอนตกใจสีเหลืองหรือส่วนมากจะอยู่ในส่วนจอง Universal Serial เมื่อพบให้กดคลิ๊กขวาที่ USB Mass Storage Device ตรงจุดนี้คุณสามารถเลือกคำสั่ง Uninstall เพื่อให้ระบระทำการถอนการติดตั้งไดรเวอร์ตัวเดิมของแฟลชไดร์ฟออก จากนั้นให้ผู้ใช้ถอดแฟลชไดร์ฟออกแล้วลองเชื่อมต่อใหม่เพื่อทำให้คอมพิวเตอร์ทำการติดตั้งไดรเวอร์เพื่อช่วยในการเชื่อมต่อนั่นเอง อีกคำสั่งหนึ่งคือคลิกขวาและเลือก Update driver Software หากคอมพิวเตอร์ของคุณเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตระบบจะทำการค้นหาและทำการติดตั้งให้โดยอัตโนมัติ หากคุณยังไม่พบให้เลือกใช้วิธีถัดมาคือให้คุณคลิกขวาที่ My computer เช่นเดิมแต่เลือกที่เมนู Manage จะปรากฏหน้าต่างเมนูขึ้นมาให้คุณคลิ๊กที่ Disk Management ที่บริเวณด้านซ้าย จะพบรายชื่อ Volume หรือไดร์ฟต่างๆที่อยู่ในเครื่องของเรา เมื่อพบไดร์ฟของแฟลชไดร์ฟให้คุณคลิกขวาที่ไดร์ฟนั้นและเลือกmเมนู Change Drive Letter and Paths จะปรากฏหน้าจอให้เลือก Change และให้คุณเปลี่ยน Drive Letter ตามด้วยกด OK
เมื่อคุณได้ลองวิธีดั่งกล่าวไปแล้วแต่ยังไม่สามารถมองเห็นแฟลชไดร์ฟบนคอมพิวเตอร์ได้ อาจจะเกิดจากช่องเสียบ USB ของคุณมีปัญหา, Windows ไม่สมบูรณ์ หรือแฟลชไดร์ฟเกิดความเสียหายจนไม่สามารถเชื่อมต่อได้ ทางที่ดีควรติดต่อช่างที่ความชำนาญเพื่อช่วยแก้ไขในเชิงลึกจะดีที่สุด เพราะหากคุณทำการแก้ไขด้วยตนเองอาจจะทำให้เกิดความเสียหายกับตัวแฟลชไดร์ฟหรือข้อมูลภายในแฟลชไดร์ฟได้ แฟลชไดร์ฟถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานหากคุณไม่โดนน้ำ โดนความชื้น หรือตกจากที่สูงมากจนเกินไป

สินค้าที่คุณอาจสนใจ

สั่งทำ สั่งผลิต USB แฟลชไดร์ฟ พร้อมสกรีนโลโก้ แบรนด์ องค์กร หรือข้อความของคุณได้ง่าย ๆ สอบถามได้เลย CLICK!










เลือกแฟรชไดร์ฟให้เหมาะสมกับงาน

ในปัจจุบันแฟรชไดร์ฟในปัจจุบันเป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานได้เป็นอย่าง เนื่องจากเป็นอุปกรณ์หน่วยความจำแบบแฟลชที่สามารถเพิ่มเติมข้อมูลได้ และสามารถนำตัวแฟรชไดร์ฟกลับมาใช้งานซ้ำได้...

ในปัจจุบันแฟรชไดร์ฟในปัจจุบันเป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานได้เป็นอย่าง เนื่องจากเป็นอุปกรณ์หน่วยความจำแบบแฟลชที่สามารถเพิ่มเติมข้อมูลได้ และสามารถนำตัวแฟรชไดร์ฟกลับมาใช้งานซ้ำได้ อีกทั้งในปัจจุบันแฟรชไดร์ฟยังมีราคาที่ถูกลงกว่าในสมัยก่อนเป็นอย่างมาก จึงทำให้เจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้ได้รับความนิยมมากนั่นเอง แต่ในปัจจุบันได้มีแฟรชไดร์ฟออกจำหน่ายในท้องตลาดเป็นจำนวนมาก หลายรูปแบบหลายยี่ห้อ หลายขนาดความจุ จึงทำให้ผู้ใช้งานเกิดตั้งคำถามว่า เราควรเลือกแฟรชไดร์ฟอย่างไรกันดี วันนี้ผมมีเรื่องราวดีๆ มาฝากคุณผู้อ่านทุกคนครับ
สิ่งที่ควรคำนึงถึงเบื้องต้นในการเลือกซื้อแฟรชไดร์ฟมาใช้งาน มีดังนี้
1. ยี่ห้อแฟรชไดร์ฟ ในปัจจุบันมียี่ห้อของแฟรชไดร์ฟออกมาจำหน่ายหลายยี่ห้อ ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว แต่ละยี่ห้อก็ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก อาจแตกต่างกันที่ราคาเพียงนิดหน่อยและระยะเลาในการรับประกันเท่านั้นครับผม ซึ่งบางคนอาจจะมองที่เรื่องของความคุ้มค่าและความน่าเชื่อถือของยี่ห้อนั่นเอง
2. ความจุของแฟรชไดร์ฟในเรื่องของพื้นที่การเก็บงานนั้น เป็นอีกเรื่องที่สำคัญที่สุดนะครับ เพราะเราซื้อแฟรชไดร์ฟมาเพื่อการบรรจุข้อมูล ดังนั้น เราควรจะพิจารณาว่าไฟล์งานที่เราต้องการนำมาจัดเก็บนั้น มีไฟล์ที่ใหญ่ขนาดเท่าใด เพียงพอต่อการเก็บไฟล์งานหรือไม่ ต้องพิจารณาดูให้ดีนะครับ เพื่อที่เราซื้อแฟรชไดร์ฟมาแล้วจะได้ไม่เสียใจที่ว่า รู้อย่างนี้ซื้อที่ขนาดใหญ่กว่านี้จะดีกว่าอะไรทำนองนี้นะครับ ซึ่งในปัจจุบันแฟรชไดร์ฟมีขนาดตั้งแต่ 1 GB, 4 GB, 16 GB จนไปถึง 1 TB ก็มีแล้วนะครับ
3. ชนิดของแฟรชไดร์ฟชนิดของแฟรชไดร์ฟก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องพิจารณาเพราะจะส่งผลถึงเรื่องความเร็วในการรับส่งข้อมูล ซึ่งอาจจะไม่มีผลกับไฟล์เล็กๆนะครับ แต่ไฟล์ใหญ่เราจะได้ไม่เสียเวลาในการรับส่งข้อมูลมากเกินไปถูกต้องไหมครับ โดยในปัจจุบันนี้จะมีแฟรชไดร์ฟ ก็จะมีตั้งแต่ 2.0 3.0 จนถึง 3.1 แล้วนะครับ ซึ่งจะแตกต่างกันที่ความเร็วในการรับส่งไฟล์อย่างที่บอกไว้นั่นเองครับ
4. ขนาดของตัวแฟรชไดร์ฟแฟรชไดร์ฟมีหลายรูปร่างนะครับในปัจจุบัน โดยอาจจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมธรรมดา ขนาดเล็กขนาดใหญ่แตกต่างกัน หรืออาจะเป็นตัวการ์ตูนต่างๆ เพื่อเพิ่มความน่ารัก และโดดเด่น เป็นที่จดจำได้ว่านี่แฟรชไดร์ฟของเราเองนะ ดังนั้นผู้ใช้งานคนใด ชื่นชอบแบบใดก็สามารถหาเลือกซื้อได้ตามร้านค้าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หรือร้านค้าชั้นนำทั่วไปได้เลยครับ

สินค้าที่คุณอาจสนใจ

สั่งทำ สั่งผลิต USB แฟลชไดร์ฟ พร้อมสกรีนโลโก้ แบรนด์ องค์กร หรือข้อความของคุณได้ง่าย ๆ สอบถามได้เลย CLICK!










ประวัติของแฟลชไดร์ฟ

อุปกรณ์ที่ใช้งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์หลัก หรืออุปกรณ์เสริม นั้นมีอยู่มากมายหลายชนิด เพื่อวัตถุประสงค์ในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น แป้นพิมพ์ก็จะใช้สำหรับป้อนข้อมูลเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์...

อุปกรณ์ที่ใช้งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์หลัก หรืออุปกรณ์เสริม นั้นมีอยู่มากมายหลายชนิด เพื่อวัตถุประสงค์ในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น แป้นพิมพ์ก็จะใช้สำหรับป้อนข้อมูลเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ ก็จะเป็นหน่วยแสดงผลชนิดหนึ่งที่ออกมาในรูปของแผ่นกระดาษ แต่จะมีอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งเป็นที่ส่วนใหญ่จะเป็นสี่เหลี่ยมขนาดประมาณนิ้วมือ หรือบางอันก็จะเป็นรูปตัวการ์ตูนรูปร่างต่างๆ แตกต่างกันออกไป ถ้าคนที่ใช้งานบ่อยๆหรือมีความคุ้นเคยจะเรียกเจ้าสิ่งของชิ้นนี้ว่าแฟลชไดร์ฟซึ่งในวันนี้ผมจะพาทุกคนไปรู้จักกับประวัติความเป็นมาของเจ้าแฟลชไดร์ฟกันครับ
แฟลชไดร์ฟ (Flashdrive) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยใช้หน่วยความจำแบบแฟรช โดยขนาดของแฟลชไดร์ฟนั้นจะมีขนาดเล็ก สามารถพกพาได้อย่างสะดวก โดยประวัติความเป็นมาของเจ้าแฟลชไดร์ฟในยุคแรกตั้งแต่กลางปี 1980 มีต้นกำเนิดมาจากการเป็นหน่วยความจำแฟรช(Flash memory) ซึ่งจะเป็นแบบ NAND จะมีรูปร่างเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมบางๆ มันถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท Toshiba นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต ของพวกเรานั่นเอง และจากนั้น USB Flash drives ก็ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาช่วงปลายปี 1990 เปลี่ยนจากการใช้รูปแบบ NAND ที่จะเป็นสี่เหลี่ยม มีแผ่นทองแดงติดไว้ มาเป็น USB port ที่มีรูปร่างเหมือนในปัจจุบันนั่นเองครับ ซึ่งมีคุณสมบัติที่ดีขึ้นตรงที่การเชื่อมต่อแฟลชไดร์ฟไม่ต้องใช้โปรแกรมเพิ่มเติมมาใช้เชื่อมต่อครับ โดยบริษัทที่มีชื่อเสียงมากเกี่ยวกับแฟลชไดร์ฟในขณะนั้น คือ Sandiskซึ่งทุกวันนี้ก็ยังอยู่นะครับบริษัทนี้ ส่วนเรื่องความจุของแฟลชไดร์ฟในยุคเริ่มแรกนั้น มีคามจุเพียง 8 เมกะไบต์ เท่านั้นเอง มาจากบริษัท IBM จากกนั้นก็ได้เริ่มพัฒนามาเป็น 16 เมกะไบต์, 64 เมกะไบต์ และ 128 เมกะไบต์ ซึ่งเริ่มมีความนิยมในการใช้งานมากขึ้นแล้ว แต่ก็ยังมีราคาที่สูงอยู่ไม่น้อย จนมาถึงในยุคปัจจุบันที่แฟลชไดร์ฟมีความจุมากขึ้นจนเป็นหน่วยกิกกะไบต์แล้วโดยในช่วงแรกแฟลชไดร์ฟขนาด 1 GB นั้นก็ยังมีราคาที่แพงอยู่ มีความนิยมในกลุ่มผู้ที่ใช้งานเฉพาะๆ แต่ปัจจุบันราคาแฟลชไดร์ฟเริ่มถูกลง แต่ก็ยังมีพื้นที่เก็บข้อมูลที่มากมายขึ้น ทำให้หลายคนสามารถเป็นเจ้าของแฟลชไดร์ฟเพื่อใช้งานได้มากขึ้นครับ
แฟลชไดร์ฟ เป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ได้รับความนิยมในการใช้งานเป็นอย่างมาก เพราะสามารถช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานได้อย่างดีเลยทีเดียว สามารถคัดลอกหรือเคลื่อนย้ายข้มูลคอมพิวเตอร์ต่างๆ ได้ง่าย และในปัจจุบันที่ราคาของแฟลชไดร์ฟลดลงจึงสามารถนำมาใช้งานกันได้อย่างทั่วถึงทุกคนครับ

สินค้าที่คุณอาจสนใจ

สั่งทำ สั่งผลิต USB แฟลชไดร์ฟ พร้อมสกรีนโลโก้ แบรนด์ องค์กร หรือข้อความของคุณได้ง่าย ๆ สอบถามได้เลย CLICK!










ทำไมเราถึงควรเลือกใช้งานแฟลชไดร์ฟ

แฟลชไดร์ฟ (Flash drive) เป็นอุปกรณ์หน่วยความจำของคอมพิวเตอร์ที่ใช้บันทึกข้อมูลในรูปของความจำแฟลช คือ สามารถลบหรือเพิ่มเติมข้อมูลได้ตลอดเวลา ซึ่งในปัจจุบันแฟลชไดร์ฟ ถือว่าเป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญในการใช้งานคอมพิวเตอร์เลยก็ว่าได้...

แฟลชไดร์ฟ (Flash drive) เป็นอุปกรณ์หน่วยความจำของคอมพิวเตอร์ที่ใช้บันทึกข้อมูลในรูปของความจำแฟลช คือ สามารถลบหรือเพิ่มเติมข้อมูลได้ตลอดเวลา ซึ่งในปัจจุบันแฟลชไดร์ฟ ถือว่าเป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญในการใช้งานคอมพิวเตอร์เลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะทำงานอะไรหรือใครใช้งานส่วนมากก็จะมีการพกพาแฟลชไดร์ฟไปใช้งานด้วยเสมอ แล้วถ้าถามถึงว่าทำไมแฟลชไดร์ฟจึงได้รับความนิยมในการใช้งานเป็นอย่างมาก ก็น่าจะมีข้อดีในเรื่องของการใช้งาน ดังนี้

flashdrive-etc

1. มีขนาดเล็กพกพาง่ายแฟลชไดร์ฟเป็นหน่ยความจำที่มีขนาดเล็กเพียงประมาณขนาดเท่านิ้วมือ จึงทำให้สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดก ช่วยในการคัดลอกข้อมูลหรือเคลื่อนย้ายไฟล์งานต่างๆ ได้อย่างง่ายดายนั่นเองครับ

specialoffer

2. เป็นหน่วยความจำที่ราคาไม่แพงในปัจจุบันราคาของแฟลชไดร์ฟถือว่ามีราคาถูกลงมาจากเมื่อก่อน แถมยังได้พื้นที่ในการเก็บข้อมูลมากเพียงพอต่อการใช้งานอีกด้วย จึงถือว่าในการใช้งานเก็บข้อมูลบางอย่างที่ใช้แฟลชไดร์ฟก็เพียงพอนั้น ถือว่าเป็นการใช้อุปกรณ์หน่วยความจำที่มีราคาไม่แพงเลย

data

3. สามารถบรรจุไฟล์ข้อมูลได้ทุกประเภทแฟลชไดร์ฟเป็นอุปกรณ์หน่ยความจำแบบแฟลช สามารถจัดเก็บข้อมูลได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นไฟล์เอกสาร ไฟล์รูปภาพ ไฟล์เสียง หรือไฟล์วิดีโอต่างๆ แฟลชไดร์ฟสามารถใช้จัดเก็บข้อมูลได้ทั้งสิ้น แฟลชไดร์ฟจึงได้รับความนิยมในการใช้งานมาก

usb-choice

4. มีขนาดความจุให้เลือกได้มากมายในปัจจุบันแฟลชไดร์ฟได้ผลิตออกมาหลากหลายรูปแบบ และมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลหลายขนาดตามความต้องการใช้งาน แฟลชไดร์ฟจึงช่วยตอบโจทย์ในการใช้งานได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ได้รับความนิยมนำมาใช้งานนั่นเองครับ

recovery-reuse

5. สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้แฟลชไดร์ฟเป็นอุปกรณ์ที่เป็นหน่วยความจำแบบแฟลช สามารถเพิ่มเติมข้อมูล หรือลบ ทำซ้ำ ทำใหม่ เพื่อใช้งานในด้านต่างๆ ได้ ถือว่าเมื่อซื้อแฟลชไดร์ฟมาใช้งานนั้นสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานและมีความคุ้มค่าแน่นอนครับผม
อุปกรณ์ไอที หรืออุปกรณ์ที่ใช้งานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์นั้น มีอยู่หลายอย่างหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับการใช้งานของเราในแต่ละประเภท ซึ่งแฟลชไดร์ฟก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นในการใช้งานในปัจจุบันเพราะไม่ว่าเราจะไปที่ใดก็ตาม ตามสำนักงานต่างๆ เชื่อได้เลยว่าจะต้องพบแฟลชไดร์ฟอย่างน้อย 1 อัน เพื่อใช้ในงานสำนักงานหรืองานส่วนตัว ก็เพราะมันเป็นตัวช่วยเราได้เป็นอย่างดีนั่นเองครับ จึงไม่แปลกใจเลยว่าปัจจุบันนี้ แฟลชไดร์ฟ ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมจนแทบจะถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่คู่กับคอมพิวเตอร์เลยก็ว่าได้

สินค้าที่คุณอาจสนใจ

สั่งทำ สั่งผลิต USB แฟลชไดร์ฟ พร้อมสกรีนโลโก้ แบรนด์ องค์กร หรือข้อความของคุณได้ง่าย ๆ สอบถามได้เลย CLICK!










เชื่อมต่อแฟรชไดร์ฟกับเครื่องคอมพิวเตอร์

การเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์ เช่น เมาส์หรือคีย์บอร์ด จะเชื่อมต่อด้วยช่องเสียบหรือที่เราเรียกว่าพอร์ต (Port) ซึ่งรอบๆตัวเครื่องคอมพิวเตอร์จะมีพอร์ตอยู่หลากหลายรูปแบบตามลักษณะของการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป แต่พอร์ตที่ได้รับความนิยมมาก คือ พอร์ต USB...

การเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์ เช่น เมาส์หรือคีย์บอร์ด จะเชื่อมต่อด้วยช่องเสียบหรือที่เราเรียกว่าพอร์ต (Port) ซึ่งรอบๆตัวเครื่องคอมพิวเตอร์จะมีพอร์ตอยู่หลากหลายรูปแบบตามลักษณะของการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป แต่พอร์ตที่ได้รับความนิยมมาก คือ พอร์ต USB ซึ่งแฟรชไดร์ฟก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ใช้การเชื่อมต่อด้วยพอร์ต USB ครับผม

port_usb_connector
windows-95

พอร์ต USB นั้นได้เกิดขึ้นมาเมื่อปลาย พ.ศ.2538 (ค.ศ.1995) ซึ่งออกมาในช่วงระบบปฎิบัติการ Windows 95 เปิดตัวใหม่ๆ เช่นกัน แต่พอร์ต USB เริ่มเป็นที่รู้จักใช้งานกันจริงจังในช่วง พ.ศ. 2541 (ค.ศ.1998) ในสมัยนั้นใครมีแฟรชไดร์ฟ ขนาดเนื้อที่ประมาณ 8 เมกกะไบต์ ถือว่าเป็นจำนวนคนกลุ่มน้อยมากๆ เพราะในช่วงนั้นแฟรชไดร์ฟมีราคาสูงมากๆ แต่ในปัจจุบัน ยุค 2016 การใช้งานพอร์ต USB ใช้งานกันอย่างแพร่หลายจนเป็นเรื่องปกติ แล้วราคาของแฟรชไดร์ฟก็ถูกลงมากที่ทุกคนสามารถหาซื้อมาใช้งานได้ เพื่อใช้งานตามัตถุประสงค์ต่างๆ บางคนอาจใช้บรรจุข้อมูลเพื่อไปทำงานในสถานที่ต่างๆ บางคนอาจใช้แค่บรรจุเพลงฟังเพื่อความบันเทิงเท่านั้น แต่ท้งนี้ทั้งนั้นแฟรชไดร์ฟก็ถือว่าได้รับความนิยมในการใช้งานเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นหน่วยความจำที่มีราคาถูก มีขนาดเล็ก ซึ่งสามารถพกพาได้สะดวกไปยังสถานที่ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ไม่จำเป็นต้องพกพาหน่วยความจำที่มีขนาดใหญ่ๆ ไป อีกทั้งแฟรชไดร์ฟยังเป็นหน่วยความจำแบบแฟรช ที่สามารถเพิ่ม ลบ แก้ไขข้อมูลไฟล์งานต่างๆ ได้ จึงทำให้เราประหยัดเงินที่จะซื้ออุปกรณ์หน่วยความจำมาใช้งาน จึงนับได้ว่าแฟรชไดร์ฟเป็นอุปกรณ์ที่มีความคุ้มค่าคุ้มราคานั่นเองครับ อีกทั้งแฟรชไดร์ฟยังเป็นอุปกรณ์ที่มีพื้นที่ความจุข้อมูลให้สามารถเลือกใช้งานได้หลากหลายรูปแบบหลายขนาดตามความต้องการขงการใช้งานเลย ตั้งแต่ 1 GB ไปจนถึง 128 GB และในปัจจุบันได้ข่าวจากทางฝั่งของเจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการแฟรชไดร์ฟ ว่าได้เปิดตัวแฟรชไดร์ฟที่มีพื้นที่ในการเก็บข้อมูลสูงถึง 1 TB เลยทีเดียว งมีขนาดพื้นที่เท่าๆกับคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งเลยนะครับผม และอีกอย่างคือเรื่องความเร็วของแฟรชไดร์ฟในการรับส่งข้อมูลต่างๆ ที่จะมีผลกับไฟล์งานที่มีขนาดใหญ่ๆ ท่ไม่ต้องเสียเวลารอการคัดลอกไฟล์งานนั่นเองครับ ซึ่งในปัจจุบันแฟรชไดร์ฟที่ยังใช้งานอยู่ คือ2.0 ความเร็วประมาณ 480 Mbps และ 3.0 ความเร็วประมาณ 4.8 Gbpsและได้ข่าวมาว่าปัจจุบันมีถึง 3.1 กันแล้วนะครับ ความเร็วขนาดนี้ช่วยทำให้ให้การคัดลอกหรือย้ายไฟล์ข้อมูลต่างๆ สามารถทำได้รวดเร็วมากขึ้น ข้อมูลเหล่านี้จะถูกระบุอยู่บนตัวของอุปกรณ์แฟรชไดร์ฟอยู่ ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการ และสอบถามข้อมูลต่างๆ ได้จากร้านค้าชั้นนำเลยครับ

สินค้าที่คุณอาจสนใจ

สั่งทำ สั่งผลิต USB แฟลชไดร์ฟ พร้อมสกรีนโลโก้ แบรนด์ องค์กร หรือข้อความของคุณได้ง่าย ๆ สอบถามได้เลย CLICK!










4 ทริค เลือกซื้อแฟลชไดร์ฟ ให้คุ้มค่าที่สุด

ในปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแฟลชไดร์กำลังเป็นทีนิยมและมีความสำคัญเป็นอย่างมาก นั่นก็เพราะแฟลชไดรฟ์ เป็นตัวช่วยที่ดีในการเก็บข้อมูลและถ่ายโอนข้อมูลจากอุปกรณ์หนึ่งไปอีกอุปกรณ์หนึ่งนั่นเอง อีกทั้งยังพกพาได้สะดวกและใช้งานง่ายอีกด้วย...

ในปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแฟลชไดร์กำลังเป็นทีนิยมและมีความสำคัญเป็นอย่างมาก นั่นก็เพราะแฟลชไดรฟ์ เป็นตัวช่วยที่ดีในการเก็บข้อมูลและถ่ายโอนข้อมูลจากอุปกรณ์หนึ่งไปอีกอุปกรณ์หนึ่งนั่นเอง อีกทั้งยังพกพาได้สะดวกและใช้งานง่ายอีกด้วย แต่ทั้งนี้การจะเลือกซื้อแฟลชไดรฟ์มาครอบครองสักอันนั้น จะต้องเลือกให้คุ้มค่าที่สุด โดยมี 4ทริคแนะนำ ดังนี้
19009332541_a50642606b_b

  1. เลือกความจุให้เหมาะกับการใช้งาน

การจะเลือกแฟลชไดรฟ์ให้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่านั้น อันดับแรกจะต้องดูก่อนว่าต้องการใช้งานแบบไหน ใช้เก็บไฟล์เอกสารเพียงอย่างเดียว เก็บรูป หรือมีไฟล์เพลง ไฟล์หนังขนาดใหญ่ด้วย ซึ่งหากใช้เพื่อเก็บเอกสารในการทำงานเท่านั้น ก็อาจเลือกซื้อที่ขนาด 4-8 GB ก็พอ แต่หากใช้เก็บไฟล์หนังหรือไฟล์ขนาดใหญ่ แฟลชไดรฟ์ขนาด 16 GB ก็จะเหมาะที่สุด

2211532287_60c1cdb1a2_b

  1. ขนาดและดีไซต์สุดเก๋

แฟลชไดรฟ์ ยิ่งมีขนาดเล็ก และมีดีไซต์สุดเก๋ ก็จะยิ่งน่าใช้งานมากขึ้น โดยในส่วนนี้ คุณสามารถเลือกแฟลชไดรฟ์ที่มีดีไซต์เก๋ น่ารัก หรือดูเรียบง่ายๆ เท่ห์ๆ ตามชอบได้เลย แต่ทั้งนี้ก็อย่าลืมคำนึงถึงความสะดวกในการใช้งานด้วย

usb_3-0_flash_drive_pcb

  1. ตรวจเช็กพอร์ตเชื่อมต่อ

สำหรับพอร์ตเชื่อมต่อ USB ในปัจจุบันก็จะมี 2 แบบด้วยกัน คือ USB 2.0 และ USB 3.0 ซึ่งก็มีความเหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกันไปด้วย นั่นก็คือ

  • USB 2.0 จะเหมาะกับการใช้งานในการเก็บข้อมูลไฟล์ขนาดเล็ก เช่น ไฟล์เอกสารและไฟล์รูปภาพ
  • USB 3.0 จะเหมาะกับการใช้งานในการเก็บข้อมูลไฟล์ขนาดใหญ่ เช่น ไฟล์เพลง ไฟล์หนัง หรือไฟล์วิดีโอ

ดังนั้นก่อนจะซื้อทุกครั้ง ก็ควรสังเกตดูด้วยว่าเป็นพอร์ตเชื่อมต่อแบบไหน ทั้งนี้ก็เพื่อให้ได้ แฟลชไดรฟ์ที่ใช้งานได้อย่างคุ้มค่าที่สุด

  1. มีประกันหรือเปล่า

บางครั้ง แค่เห็นแฟลชไดรฟ์ลดราคากำลังวางขาย หลายคนก็รีบเข้าไปซื้อทันที โดยลืมดูไปว่าแฟลชไดรฟ์นั้นมีประกันสินค้าหรือไม่ ซึ่งก็นับว่าเป็นความผิดพลาดพอสมควรเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นก่อนตัดสินใจซื้อ จะต้องดูก่อนว่าทางร้านมีการรับประกันให้หรือเปล่า และมีการรับประกันเป็นเวลานานแค่ไหน ทั้งนี้ก็เพราะหากแฟลชไดร์ฟที่คุณใช้เก็บข้อมูลสำคัญ เกิดขัดข้องขึ้นมาซะเฉยๆ ก็จะได้มีผู้รับผิดชอบและคุณเองไม่ต้องเสียเงินเปล่านั่นเอง

และนี่ก็เป็นทริคง่ายๆ ที่คุณควรจะรู้ในการซื้อแฟลชไดร์ฟคู่ใจ เพื่อให้ได้แฟลชไดร์ฟที่ดีที่สุดและมีคุณภาพที่สุดมาใช้งาน ซึ่งนอกจาก 4 ข้อที่กล่าวมาแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญก็คือ ราคาที่สมเหตุสมผลนั่นเอง รู้แบบนี้แล้วก็สามารถซื้อแฟลชไดร์ฟได้อย่างมั่นใจแล้วล่ะ

สินค้าที่คุณอาจสนใจ

สั่งทำ สั่งผลิต USB แฟลชไดร์ฟ พร้อมสกรีนโลโก้ แบรนด์ องค์กร หรือข้อความของคุณได้ง่าย ๆ สอบถามได้เลย CLICK!










รู้ไหมว่าใช้ แฟลชไดร์ฟ เป็นกุญแจล๊อคคอมพิวเตอร์ได้นะ

วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆในการใช้ แฟลชไดร์ฟ มาบอกกันหลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้ว่า สามารถตั้งค่าให้ แฟลชไดร์ฟ เป็นกุญแจล๊อคคอมพิวเตอร์เราได้ด้วยนะ ก็ประมาณว่าจะใช้คอมก็ต้องเสียบแฟลชไดร์ฟเข้าไปถอดออกก็ปิดเลยและใครก็มาเปิดคอมพิวเตอร์เราใช้ไม่ได้...

lock-computer

วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆในการใช้ แฟลชไดร์ฟ มาบอกกันหลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้ว่า สามารถตั้งค่าให้ แฟลชไดร์ฟ เป็นกุญแจล๊อคคอมพิวเตอร์เราได้ด้วยนะ ก็ประมาณว่าจะใช้คอมก็ต้องเสียบแฟลชไดร์ฟเข้าไปถอดออกก็ปิดเลยและใครก็มาเปิดคอมพิวเตอร์เราใช้ไม่ได้ คราวนี้เราก็ไม่ต้องระแวงว่าใครจะมาทำอะไรกับข้อมูลในคอมพิวเตอร์เรา ซึ่งเคล็ดลับนี้ในต่างประเทศมีการใช้งานกันแพร่หลายแต่ในบ้านเราก็คงมีคนรู้บ้างแต่อาจจะไม่มากนักดังนั้นเรามาดูกันว่าเขาทำกันอย่างไร

ก่อนอื่นเลยก็ต้องมีแฟลชไดร์ฟสำหรับทำเป็นกุญแจ 1 อัน แต่ไม่ต้องกลัวนะว่าจะนำมาใช้งานอื่นๆไม่ได้ยังใช้งานได้ปรกติเหมือนเดิมแค่เพิ่มเติมความสามารถพิเศษเข้าไปแค่นั้นเอง เมื่อมีแฟลชไดร์ฟแล้วก็ต้องไปกาดาวน์โหลดโปรแกรมนี้เลยนั้นคือโปรแกรม Predator แต่แนะนำไว้ก่อนว่าควรเลือกแฟลชไดร์ฟที่ไม่มีข้อมูลใดๆจะดีที่สุด หลังจากโหลดโปรแกรมและติดตั้งแล้วก็ให้เสียบแฟลชไดร์ฟที่ต้องการทำเป็นกุญแจเข้ากับคอมพิวเตอร์ หลังจากนั้นโปรแกรมจะมีหน้าต่างให้เราตั้งค่ารหัสผ่าน  รวมถึงการตั้งรหัสปลดล๊อคกรณีแฟลชไดร์ฟตัวที่เป็นกุญแจหาย และสามารถตั้งค่าให้แสดงกล่องโต้ตอบเพื่อตรวจสอบรหัสทุกครั้งก็ได้เช่นกัน เมื่อตรวจสอบความถูกต้องทุกอย่างแล้วก็ตอบตกลง หลังจากนั้นแฟลชไดร์ฟตัวนั้นจะกลายเป็นกุญแจเปิดปิดคอมพิวเตอร์ของคุณทันที

เห็นไหมว่าแฟลชไดร์ฟมีประโยชน์และทำอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด หากรู้จักวิธีการใช้ประโยชน์อื่นๆที่มากว่าการเก็บไฟล์งานต่างๆ และที่สำคัญคือมันทำได้ไม่ยากแค่มีตัวช่วยนิดๆหน่อย และอีกอย่างคือโปรแกรม Predator สำหรับทำแฟลชไดร์ฟเป็นตัวล๊อคนี้เป็นโปรแกรมที่ดาวน์โหลดได้ฟรี และหาดาวน์โหลดได้ไม่ยากการใช้งานก็ไม่ได้ยุ่งยากแต่ประโยชน์ของมันเหลือเฟือจริงๆ ตั้งแต่เป็นกุญแจล๊อคคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะหากคุณต้องการที่จะป้องกันข้อมูลต่างๆหรือไม่ยากให้ใครมาเปิดดูในเวลาที่คุณไม่อยู่เหมาะกับชาวออฟฟิศมากๆเพราะหากคุณไม่อยู่ที่โต๊ะทำงานก็จะไม่มีใครมาเปิดคอมพิวเตอร์คุณได้ หรือบ้านไหนที่ลูกๆติดเกมขนาดหนักก็ใช้ แฟลชไดร์ฟ ล็อคมันซะเลยไม่มีก็เปิดไม่ได้รับรองว่าแก้ปัญหาเล่นเกมดึกๆได้พอสมควร

สำหรับคราวหน้าเราจะนำเรื่องราวสาระหรือเรื่องราวน่ารู้อะไรของ แฟลชไดร์ฟ มาฝากกันอีกก็ต้องติดตามกันให้ดีรับรองว่ามีประโยชน์และสามารถนำไปใช้งานได้จริงๆอย่างแน่นอนสำหรับวันนี้คงต้องลากันไปก่อน อย่าลืมลองไปทำแฟลชไดร์ฟ ให้เป็นกุญแจล๊อคคอมกันนะ

สินค้าที่คุณอาจสนใจ

สั่งทำ สั่งผลิต USB แฟลชไดร์ฟ พร้อมสกรีนโลโก้ แบรนด์ องค์กร หรือข้อความของคุณได้ง่าย ๆ สอบถามได้เลย CLICK!










เลือกซื้อ แฟลชไดร์ฟ ทั้งทีควรเลือกความจุที่เท่าไหร่ดี

มีเรื่องราวดีๆ ของ แฟลชไดร์ฟ มาแนะนำกันอีกแล้วในวันนี้ หลายคนต้องใช้ แฟลชไดร์ฟ เพื่อเก็บงานต่างๆและอาจต้องใช้หลายๆอันหรือซื้อใช้บ่อยๆ เพราะอาจต้องมีการส่งงานให้ลูกค้าโดยการใส่ข้อมูลใน แฟลชไดร์ฟ ส่งให้ลูกค้าแบบไม่เรียกคืนเพื่อความสะดวก หรือ...

QQ Photo20160805104158

มีเรื่องราวดีๆ ของ แฟลชไดร์ฟ มาแนะนำกันอีกแล้วในวันนี้ หลายคนต้องใช้ แฟลชไดร์ฟ เพื่อเก็บงานต่างๆและอาจต้องใช้หลายๆอันหรือซื้อใช้บ่อยๆ เพราะอาจต้องมีการส่งงานให้ลูกค้าโดยการใส่ข้อมูลใน แฟลชไดร์ฟ ส่งให้ลูกค้าแบบไม่เรียกคืนเพื่อความสะดวก หรือ นักเรียนนักศึกษาที่ต้องเซฟงานสำหรับประกอบการเรียน การทำงาน หรือ ทำธีสิสอาจต้องมีการส่งต่องานให้เพื่อนๆหรือแม้แต่ให้อาจารย์ตรวจงาน แต่ด้วยขนาดไฟล์ที่ใหญ่หรือไม่สะดวกในการแชร์เข้าเน็ตเวิร์คดังนั้น แฟลชไดร์ฟ จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้ แต่การเลือกซื้อ แฟลชไดร์ฟ ไว้ใช้งานในลักษณะนี้ควรเลือกขนาดความจุเท่าไหร่ดี หรือ หากจะซื้อไว้ใช้ส่วนตัวควรเลือกแบบไหน เราลองมาหาคำตอบกัน

การเลือก แฟลชไดร์ฟ นั้นหลายคนดูจากขนาดความจุ ไม่ค่อยจะดูจากการใช้งานหรือประเภทการใช้งานซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกที่ความจุสูงๆตามงบประมาณที่ต้องการจ่าย เช่น มีงบซื้อในราคาไม่เกิน 300 บาทก็จะดูก่อนว่าราคานี้ได้ความจุเท่าไหร่ มียี่ห้ออะไรบ้างอันไหนสูงสูดหรือดีสุดเท่าที่มีให้เลือกตามงบที่ตั้งไว้ก็มักจะเลือกอันนั้น แต่หากเลือกสักนิดรับรองว่าจะได้ แฟลชไดร์ฟ ที่เหมาะสมกับการใช้งานยกตัวอย่างเช่น

หากต้องการเซฟไฟล์ที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนักและเป็นการใช้เซฟงานเพื่อส่งต่อให้ลูกค้าหรือให้คนอื่นก็ควรเลือกซื้อ แฟลชไดร์ฟ ขนาด 2 GB เพราะมีราคาไม่สูงมากนักราคาแค่หลักสิบไม่ถึงร้อย ซึ่งปัจจุบันไม่ค่อยมีผลิตมาแล้วนอกจากจะไปหาตามแหล่งขายไอที แต่จะไม่ค่อยมแบรนด์ดังๆนัก  ความจุต่ำสุดในปัจจุบันจะเป็นขนาด 4GB  มีหลายแบรนด์ราคาหลักร้อยต้น ซึ่งอันนี้จะเหมาะมากกับการส่งงานแล้วให้ลูกค้าไปเลย (ส่วนใหญ่บวกราคาแฟลชไดร์ฟ เข้าไปแล้วทั้นนั้น) หรือหากเพื่อนยืมลืมก็ยังไม่เสียดายเท่าไหร่นัก

แต่หากเป็นการใช้งานเองก็ควรเลือกแบรนด์ที่มีคุณภาพสักนิด มีความจุที่คิดว่าเหมาะกับการใช้งานของเราหรือเลือกความจุประมาณ 16 GB ราคาจะเริ่มต้นที่ 250 ขึ้นไปจนถึง 400 บาท ซึ่งเหมาะกำลังดีสามารถเซฟงานได้เยอะทั้งหนัง เพลง หรือ เอกสารต่างๆ  แต่หากยังไม่จุใจก็แนะนำขนาด 32GB ราคาจะเริ่มต้นที่ 380-950 ตามคุณภาพและแบรนด์นั้นๆ แต่หากแค่นี้ยังไม่พอก็จะมีขนาด 64GB ราคาเริ่มต้นที่ 1,000 บาทขึ้นไปจนเกือบถึง 3,000 ก็มีไม่เชื่อก็ลองเปิดเน็ตเช็คราคากันดูได้ อย่างไรก็ตามเลือกที่พอดีกับเงินและการใช้งานจะมีประโยชน์มากที่สุด

 

 

สินค้าที่คุณอาจสนใจ

สั่งทำ สั่งผลิต USB แฟลชไดร์ฟ พร้อมสกรีนโลโก้ แบรนด์ องค์กร หรือข้อความของคุณได้ง่าย ๆ สอบถามได้เลย CLICK!










การตั้งชื่อให้ แฟลชไดร์ฟ นั้นจำเป็นหรือไม่

สำหรับการใช้ แฟลชไดร์ฟ นั้นหลายๆคนยังนิยมใช้อยู่และบางคนมี แฟลชไดร์ฟมากกว่า 1 อันด้วยและหลายคนนิยมตั้งชื่อให้ แฟลชไดร์ฟเพื่อความสะดวกเมื่อนำไปเชื่อต่อกับคอมพิวเตอร์เพราะสามารถเห็นได้ว่า แฟลชไดร์ฟของเรานั้นเชื่อต่อแล้วหรือไม่ไม่ต้องมานั่งเดาว่าเป็นไดรฟ์ G หรือ H...

hqdefault

สำหรับการใช้ แฟลชไดร์ฟ นั้นหลายๆคนยังนิยมใช้อยู่และบางคนมี แฟลชไดร์ฟมากกว่า 1 อันด้วยและหลายคนนิยมตั้งชื่อให้ แฟลชไดร์ฟเพื่อความสะดวกเมื่อนำไปเชื่อต่อกับคอมพิวเตอร์เพราะสามารถเห็นได้ว่า แฟลชไดร์ฟของเรานั้นเชื่อต่อแล้วหรือไม่ไม่ต้องมานั่งเดาว่าเป็นไดรฟ์ G หรือ H ทำให้ง่ายต่อการใช้งานด้วย แต่อีกหลายคนก็มักไม่ชอบที่จะทำอะไรให้วุ่นวายเพราะคิดว่าไม่จำเป็นและหากมี แฟลชไดร์ฟ หลายอันอาจไม่สะดวกหรือต้องมานั่งจำว่าอันไหนเป็นอันไหน วันนี้เรามีเคล็ดลับการตั้งชื่อง่ายๆให้ แฟลชไดร์ฟ กัน

เคล็ดลับนี้ง่ายมากๆเลยเพียงแค่เลือกชื่อของคุณหรือชื่อที่คุณชอบมาตั้งชื่อให้ แฟลชไดร์ฟ ของคุณก็เท่านั้นเองแต่ต้องเป็นภาษาอังกฤษนะ และหากมีหลายอันก็ให้ใช้วิธีใส่ตัวเลขกำกับเช่น ใช้ชื่อว่า za ก็ใช้เป็น za1 ,  za2 เป็นต้น และหากจะให้ดียิ่งขึ้นไปก็แนะนำให้หาเมจิกที่ลบไม่ออกหรือสติกเกอร์มาเขียนชื่อติดไว้ที่ตัว แฟลชไดร์ฟ ด้วยเพราะจะทำให้สะดวกในการหยิบใช้งานมากยิ่งขึ้น หรือ บางคนใช้วิธีแยกชนิดของการเก็บไฟล์ต่างๆนั่นคือมี แฟลชไดร์ฟ มากกว่า 1 อันแน่นอนและตั้งชื่อของ แฟลชไดร์ฟ ตามไฟล์งานที่เก็บเช่น ใช้เก็บเพลงอย่างเดียวก็ตั้งชื่อว่า music  เก็บไฟล์ภาพก็อาจใช้ชื่อว่า image เก็บไฟล์งานเอกสารอาจใช้ชื่อว่า paper แบบนี้เป็นต้น

แต่ก็ยังคงต้องมีคำถามจากหลายๆคนว่าจะทำให้มันยุ่งยากทำไม แต่สำหรับคนที่ต้องใช้งาน แฟลชไดร์ฟ เป็นประจำและมีหลายอันทั้งใช้งานเอง หรือต้องส่งไฟล์งานให้คนอื่นๆการตั้งชื่อถือเป็นการจัดระเบียบได้เป็นอย่างดีและไม่ทำให้สับสนเวลาที่ต้องการใช้งานด้วย เพราะสามารถเลือกใช้ได้ถูกอัน หรือส่งต่อได้ถูกต้อง  นอกจากนี้แล้วหาก แฟลชไดร์ฟ อันไหนมีปัญหาเราก็สามารถรู้ได้ทันที เช่น ติดไวรัส หรือ ล๊อกเนื่องจากไฟล์เต็ม รวมถึงเสียหายด้วยเหตุอื่นๆ  เรื่องเล็กๆน้อยๆอย่างนี้ไม่อยากให้ชาวไอทีต้องพลาด แม้ว่าจะเป็นจุดเล็กๆ แต่หากทำทุกอย่างมาดีหมดแต่มาตกม้าตายตอนเซฟงานไม่ได้ หรือ หยิบ แฟลชไดร์ฟ ผิดอันส่งงานต่อให้คนอื่นๆนี่เสียหายกันมามากมายแล้ว

สำหรับวันนี้คงต้องลากันเพียงเท่านี้ก่อน เคล็ดลับเกี่ยวกับแฟลชไดร์ฟ เราจะนำมาให้คุณๆได้อ่านกันอีกในครั้งหน้ายังไงก็อย่าลืมติดตาม หรือหากมีข้อเสนอแนะอะไรก็สามารถติดต่อหลังไมค์กันมาได้นะ

สินค้าที่คุณอาจสนใจ

สั่งทำ สั่งผลิต USB แฟลชไดร์ฟ พร้อมสกรีนโลโก้ แบรนด์ องค์กร หรือข้อความของคุณได้ง่าย ๆ สอบถามได้เลย CLICK!