เรื่องราวของแฟลชไดร์ฟ

แฟลชไดร์ฟ เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีความสำคัญอย่างมากในการทำงาน เพราะแฟลชไดร์ฟนั้นมีประโยชน์ในการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งการเก็บบันทึกข้อมูล การส่งต่อข้อมูลต่าง...

แฟลชไดร์ฟ เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีความสำคัญอย่างมากในการทำงาน เพราะแฟลชไดร์ฟนั้นมีประโยชน์ในการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งการเก็บบันทึกข้อมูล การส่งต่อข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งแฟลชไดร์ฟนั้นมีการพัฒนามาจากแผ่นเก็บบันทึกข้อมูล หรือ Floppy disk เพียงแต่มีการออกแบบให้สามารถใช้งานง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น ทั้งยังออกแบบให้สามารถเก็บรักษาง่าย มีขนาดที่กะทัดรัดมากกว่าเดิม

แฟลชไดร์ฟนั้นเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั่วทุกพื้นที่ ทำให้ข้อสงสัยการใช้งาน ปัญหาที่เกิด จึงมักเกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับแฟลชไดร์ฟ วันนี้เราจึงรวบรวมคำถามที่มีความเกี่ยวข้องกับแฟลชไดร์ฟและคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านมาให้ทุกคนได้ศึกษากันค่ะ

ทำไมแฟลชไดร์ฟถึงมีชื่อเรียกหลายชื่อ ? เป็นคำถามที่หลายคนอาจจะเคยสงสัยมาบ้างว่าทำไมบางคนเรียกแฟลชไดร์ฟ บางคนเรียกทรัมป์ไดร์ฟหรือแฮนดี้ไดร์ฟ ซึ่งความแตกต่างของชื่อเหล่านี้เกิดจาก
– ทรัมป์ไดร์ฟ เป็นชื่อทางการค้า และเป็นชื่อเรียกของแฟลชไดร์ฟชนิดแรกที่มีการพัฒนามากจากซีดีอาร์ และ ฟลอปปี้ดิสก์
– แฟลชไดร์ฟ เป็น ชื่อที่ถูกนิยมเรียกมากที่สุดเนื่องจากเป็นชื่อเรียกตามหน่วยความจำแบบ flash คือการเก็บข้อมูลได้ไว และแฟลชไดร์ฟรุ่นที่ออกมานั้นได้รับความนิยมสูงมาก ทำให้หลายคนเรียกติดปากว่า แฟลชไดร์ฟ
– แฮนดี้ไดร์ฟ เป็นชื่อเรียกแฟลชไดร์ฟอีกชนิดหนึ่ง ที่มีการออกแบบมาใหม่คล้ายกับแฟลชไดร์ฟ แต่สามารถใช้งานไฟล์ Mp3 ได้ มีช่องสำหรับเสียบหูฟังได้

ปัญหาที่พบบ่อยจากการใช้งานแฟลชไดร์ฟ
– แฟลชไดร์ฟติดไวรัส เกิดจากการใช้งานคอมพิวเตอร์สาธารณะ และไม่ได้มีการตรวจสอบอุปกรณ์หรือทำการแสกนไวรัสอย่างสม่ำเสมอ
– แฟลชไดร์ฟไม่ทำงาน เกิดได้จากหลายสาเหตุ อาจจะด้วยความไม่เข้ากันระหว่างแฟลชไดร์ฟกับการรองรับของ USB พอร์ต หรืออาจจะเป็นเพราะการเสียบอุปกรณ์ไม่แน่นก็ได้เช่นกัน
– แฟลชไดร์ฟเสียบ่อย ข้อนี้อาจจะเกิดจากการใช้งานแฟลชไดร์ฟแบบผิดวิธี เช่นมีการถอดแฟลชไดร์ฟออกแบบกะทันหันบ่อยเกินไป  เป็นต้น
แฟลชไดร์ฟราคาแพงดีกว่าราคาถูกใช่ไหม ? จริง ๆ แล้วราคาของแฟลชไดร์ฟหากจะเปรียบเทียบให้ถูกต้องอาจจะต้องดูข้อมูลรายละเอียดที่เจาะลึกมากกว่าราคาจึงจะสามารถเปรียบเทียบได้ ทั้งวัสดุที่ใช้ ความจุของแฟลชไดร์ฟ ซึ่งหากแฟลชไดร์ฟที่มีความจุมากก็อาจจะมีราคาที่สูงมากขึ้นตามไปด้วย ฉะนั้น ราคาจึงไม่ใช่ตัวชี้วัดคุณภาพของแฟลชไดร์ฟเสมอไป

ทำไมต้องเลือกแฟลชไดร์ฟที่มีประสิทธิภาพ ? จริง ๆ แล้วนั้นการเลือกแฟลชไดร์ฟก็ต้องขึ้นอยู่กับความจำเป็นในการใช้งาน ลักษณะของเอกสารที่เราจะเก็บบันทึก ซึ่งหากเลือกแฟลชไดร์ฟที่มีความจุมาก ก็สามารถเพิ่มทางเลือกในการจัดเก็บข้อมูลได้มากขึ้น นอกจากนี้ แฟลชไดร์ฟที่มีประสิทธิภาพยังช่วยรักษาข้อมูลของเราให้เป็นความลับจากผู้ไม่หวังดีได้ เพราะสามารถใส่รหัสเพื่อเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้ เป็นการรักษาความลับและสร้างความปลอดภัยได้ง่ายกว่าแฟลชไดร์ฟที่ไม่มีคุณภาพ นอกจากนี้แล้ว แฟลชไดร์ฟที่มีประสิทธิภาพยังสามารถช่วยให้เราทำงานได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ในการรับส่งข้อมูลต่าง ๆ  เพราะจะมีความเร็วในการอ่านค่าข้อมูลได้สูงกว่า และแม่นยำมากกว่า

แฟลชไดร์ฟในปัจจุบันมีการพัฒนารูปแบบอย่างหลากหลายมากกว่าสมัยก่อน ทั้งแฟลชไดร์ฟที่เป็นแฟลชไดร์ฟปากกา แฟลชไดร์ฟโลหะ และแฟลชไดร์ฟไม้ เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานของคนแต่ละช่วงวัย แต่ถึงแม้รูปแบบภายนอกจะมีความแตกต่างกัน แต่คุณภาพและความสามารถของแฟลชไดร์ฟก็ยังคงอยู่เช่นเดิม หลาย ๆ คนที่กำลังมองหาแฟลชไดร์ฟเพื่อการใช้งาน ก็อย่าลืมเลือกแฟลชไดร์ฟที่ผลิตจากโรงงานที่มีความน่าเชื่อถือ และมีการรับประกันสินค้ากันด้วยนะคะ

ไขข้อสงสัย….ทำไมแฟลชไดร์ฟ ความจุไม่เต็มตามที่ป้ายบอกล่ะ

หลายคนคงสงสัย ว่าทำไมแฟลชไดร์ฟที่เราซื้อมาใช้นั้นบอกข้างกล่องกับเราว่าความจุแฟลชไดร์ฟตัวนี้มีขนาด 16...

หลายคนคงสงสัย ว่าทำไมแฟลชไดร์ฟที่เราซื้อมาใช้นั้นบอกข้างกล่องกับเราว่าความจุแฟลชไดร์ฟตัวนี้มีขนาด 16 GB แต่เมื่อเปิดใช้งานจริง ๆ ความจุมีไม่ถึง 16 GB อย่างที่ข้างกล่องบอกล่ะ นั่นหมายความว่าเรากำลังโดนคนขายแฟลชไดร์ฟหลอกขายแฟลชไดร์ฟหรือนำแฟลชไดร์ฟหลุด QC จากโรงงานมาขายเราหรือเปล่า ยิ่งในสมัยนี้เราเห็นราคาแฟลชไดร์ฟไม่แพงมากด้วย จะเป็นการฉวยโอกาสของพ่อค้าแม่ค้าด้วยหรือเปล่า

ทุกท่านอย่าพึ่งเข้าใจผิดกันนะคะ เพราะอันที่จริงแล้วนั้น ความเป็นจริงก็คือ การที่แฟลชไดร์ฟของเรานั้นมีความจุไม่ตรงตามที่ข้างกล่องเขียนไว้นั้น เป็นความเชื่อที่ไม่ตรงกันหรือเป็นความเข้าใจผิดของเรานั่นเอง ตามปกติแล้วเหล่าผู้ผลิตแฟลชไดร์ฟ และผู้ใช้งานทั่วไปนั้นจะมองการคำนวณในรูปแบบเลขฐานสิบ จากที่เราเข้าใจจะเทียบได้ดังนี้

1,000 ไบต์ (B) = 1 กิโลไบต์ (KB)

1,000 กิโลไบต์ = 1 เมกะไบต์ (MB)

1,000 เมกะไบต์ = 1 กิกะไบต์ (GB)

1,000 กิกะไบต์ = 1 เทระไบต์ (TB)

แต่ในทางคอมพิวเตอร์นั้น จะใช้การคำนวณในรูปแบบของเลขฐานสอง เปรียบเทียบได้ดังนี้

1,024 ไบต์ (B) = 1 กิโลไบต์ (KB)

1,024 กิโลไบต์ = 1 เมกะไบต์ (MB)

1,024 เมกะไบต์ = 1 กิกะไบต์ (GB)

1,024 กิกะไบต์ = 1 เทระไบต์ (TB)

เทคนิคในการคำนวณความจุของแฟลชไดร์ฟง่าย ๆ ว่าตรงตามที่เราได้อธิบายไปข้างต้นหรือไม่

เพียงแค่เราทำการคลิกขวาที่ไดร์ฟของแฟลชไดร์ฟเราและทำการเลือก Properties หลักงจากนั้นจะมีหน้าต่างเล็ก ๆ แสดงรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งพื้นที่การใช้งาน พื้นที่คงเหลือ และแสดงพื้นที่ความจุแฟลชไดร์ฟของเรา เราจะเห็นได้ว่าแฟลชไดร์ฟของเรามีพื้นที่ที่แสดงเป็นเลขฐานสิบในหน่วย ไบต์ (Bytes) = 16,001,286,144 ไบต์ (B) และความจุในทางคอมพิวเตอร์ที่ใช้การคำนวณในรูปแบบของเลขฐานสอง = 14.9 กิกะไบต์ (GB)

หากเรามาลองคำนวณแฟลชไดร์ฟของเราที่มีขนาดความจุ 16 GB

16,001,286,144 ไบต์ (B) = 15,626,256 กิโลไบต์ (KB)

15,626,256 กิโลไบต์ (KB) = 15,260.0156 เมกะไบต์ (MB)

15,260.0156 เมกะไบต์ (MB) = 14.902359 กิกะไบต์ (GB)

หรือประมาณ 14.9 GB ตามที่โปรแกรมแสดงให้เราได้เห็นนั่นเอง

ทีนี้เราลองมาคำนวณพื้นที่ความจุคอมพิวเตอร์อย่าง Drive D ของเรากันดูบ้าง

ว่าจะมีความจุตรงตามความเป็นจริงที่ Windows แสดงให้เราเห็นไหม ในที่นี่ Drive D ของเรามีขนาด 729,563,525,120 ไบต์ (B)

729,563,525,120 ไบต์ (B) = 712,464,380 กิโลไบต์ (KB)

712,464,380 กิโลไบต์ (KB) = 695,765.99609375 เมกะไบต์ (MB)

695,765.99609375 เมกะไบต์ (MB) = 679.4589805603027 กิกะไบต์ (GB)

หรือประมาณ 679 GB ตามที่โปรแกรมแสดงให้เราได้เห็นนั่นเอง

ฉะนั้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแฟลชไดร์ฟ SD card หรือ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ นั้นเราจะพบว่าความจุที่แท้จริงจะไม่ตรงตามที่ข้างกล่องระบุไว้แต่อย่างใด และเราสามารถนำเทคนิคต่าง ๆ เหล่านี้ไปลองคำนวณเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของความจุของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลของเราได้นะคะ หากสงสัยว่าโดนพ่อค้าหรือแม่ค้ามาหลอกขายแฟลชไดร์ฟไม่มีคุณภาพ ความจุไม่ตรง ลองทำการคำนวณดูก่อน หากเราลองคำนวณความจุแฟลชไดร์ฟดูแล้วมีความแตกต่างกันมากเกินไปจากที่โปรแกรมแสดงให้เราเห็นนั่นอาจเป็นแฟลชไดร์ฟที่มีปัญหาหรือแฟลชไดร์ฟที่ไม่ได้มาตรฐานตามกระบวนการผลิตอย่างแน่นอนค่ะ หากท่านใดต้องการแฟลชไดร์ฟคุณภาพ ที่มีการตรวจสอบประสิทธิภาพในการใช้งาน 100% ไม่ว่าจะเป็นแฟลชไดร์ฟไม้ แฟลชไดร์ฟการ์ด แฟลชไดร์ฟโลหะ แฟลชไดร์ฟทวิสเตอร์ แฟลชไดร์ฟรีไซเคิล แฟลชไดร์ฟยาง แฟลชไดร์ฟริสแบนด์ แฟลชไดร์ฟการ์ดหรือจะเป็นแฟลชไดร์ฟรูปแบบอื่น ๆ ก็สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ usb-perfect.com ได้ทันทีเลยนะคะ

สินค้าที่คุณอาจสนใจ

สั่งทำ สั่งผลิต USB แฟลชไดร์ฟ พร้อมสกรีนโลโก้ แบรนด์ องค์กร หรือข้อความของคุณได้ง่าย ๆ สอบถามได้เลย CLICK!













รวม แฟลชไดร์ฟ แปลกตาสุดแหวกแนว

แฟลชไดร์ฟ อุปกรณ์เก็บข้อมูลขนาดเล็กสำหรับใช้กักเก็บหรือถ่ายโอนข้อมูลจากอุปกรณ์หนึ่ง ไปยังอีกอุปกรณ์หนึ่ง โดยเจ้า แฟลชไดร์ฟ นั้นถือเป็นเครื่องมือประจำกายของพนักงานออฟฟิศ และกลุ่มนักศึกษาที่ทุกคนต่างต้องมีติดตัวกัน...

แฟลชไดร์ฟ อุปกรณ์เก็บข้อมูลขนาดเล็กสำหรับใช้กักเก็บหรือถ่ายโอนข้อมูลจากอุปกรณ์หนึ่ง ไปยังอีกอุปกรณ์หนึ่ง โดยเจ้า แฟลชไดร์ฟ นั้นถือเป็นเครื่องมือประจำกายของพนักงานออฟฟิศ และกลุ่มนักศึกษาที่ทุกคนต่างต้องมีติดตัวกัน เนื่องจากผู้คนกลุ่มนี้ต่างมีความจำเป็นในการถ่ายโอนข้อมูลกันอยู่บ่อย ๆ แต่คุณรู้หรือไม่ว่า แฟลชไดร์ฟ ที่วางขายกันอยู่ในตลาดไม่ได้มีแค่รุ่นสำหรับใช้งานเก็บข้อมูลเพียงอย่างเดียว แต่ใน แฟลชไดร์ฟ บางรุ่นยังมีความสามารถอื่น ๆ แฝงมาให้อีกด้วย ซึ่งแฟลชไดร์ฟที่มีคุณสมบัติหรือหน้าตาที่แตกต่างไปจากแฟลชไดร์ฟทั่วไปจะมีอะไรบ้าง เราไปดูกันเลยดีกว่า

แฟลชไดร์ฟ แบบกึ่งของเล่น

เป็น แฟลชไดร์ฟยาง สำหรับคนขี้เบื่อที่สามารถหยิบมาเล่นฆ่าเวลาได้ โดยลักษณะมักจะอยู่ในรูปของ ของเล่น อาทิ ปืนของเล่น รถยนต์ หุ่นยนต์ สัตว์ ตุ๊กตา เครื่องบิน หรือตัวละครดังจากหนังและการ์ตูนดัง ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งในการซื้อเป็นของใช้ให้แก่ลูกหลาน ไม่ก็ซื้อให้กับตนเองไว้ใช้ผ่อนคลายความเครียดบนโต๊ะทำงานที่ออฟฟิศ

แฟลชไดร์ฟ รูปของเลียนแบบ

แม้จะมีลักษณะหน้าตาคล้ายกับแบบของเล่นไปบ้าง แต่สำหรับแฟลชไดร์ฟของเลียนแบบนี้จะเน้นไปที่การทำให้ออกมาคล้ายกับสิ่งของมากกว่าจะเป็นอุปกรณ์สำหรับทำงาน โดยจะมีการทำเป็นรูป ซูชิ กระสุนปืน ทองคำแท่ง ผลไม้ จุกก๊อก ไอติม เป็นต้น

แฟลชไดร์ฟ 2 คุณสมบัติ

เป็นแฟลชไดร์ฟที่มีการเพิ่มคุณสมบัติการใช้งานลงไปให้มากกว่าปกติ ซึ่งจะมีทั้งการเสริมรูปแบบการใช้งานที่ช่วยให้การถ่ายโอนข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือการเติมลักษณะการใช้งานที่ไม่เกี่ยวกันใส่ลงไป ตัวอย่างเช่น

แฟลชไดร์ฟ 3 หัว – แฟลชไดร์ฟที่มีหัวเสียบต่อกับอุปกรณ์มากถึง 3 รูปแบบอยู่ในตัวเดียว โดยมันจะสามารต่อเข้ากับ เครื่องคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟนระบบ iOS และ Android ได้ ทำให้ผู้ใช้สะดวกต่อการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ได้หลายประเภท แม้ว่าจะอยู่ต่างสถานที่ทำงานประจำก็ตาม

แฟลชไดร์ฟปากกา – เป็นการนำอุปกรณ์แฟลชไดร์ฟมาติดเข้ากับปากกา โดยตัวเชื่อมต่อจะอยู่ส่วนปลายของด้านหลัง ซึ่งสามารถถอดแยกออกจากหัวปากกาได้ ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องแยกเก็บพกอุปกรณ์การทำงานไว้หลายจุด เพียงแค่พกเจ้าแฟลชไดร์ฟตัวนี้ไปตัวเดียวก็สามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา

* แฟลชไดร์ฟปากกา เป็นสินค้าที่มีผู้ผลิตอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้ใช้สามารถสั่งทำได้อย่างสะดวกตามต้องการ ตั้งแต่รูปร่าง สีสัน ไปจนถึงวัสดุที่ใช้ เป็นต้น

แฟลชไดร์ฟไม้หนีบ – ดูเหมือนจะเป็นแฟลชไดร์ฟแนวน่ารัก แต่มันกลับใช้งานได้เหมือนกับไม้หนีบผ้าปกติทั่วไป ซึ่งการที่มันได้รับการออกแบบให้เป็นไม้หนีบนั้นนอกจากความสวยงามแล้ว มันยังเหมาะสำหรับหนีบติดไว้กับเสื้อขณะสวมใส่เพื่อป้องกัน แฟลชไดร์ฟ หล่นหาย หรือจะใช้เป็นตัวหนีบกระดาษชั่วคราวก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน

นอกจากนี้แล้วในแฟลชไดร์ฟบางรุ่นก็อาจจะมีการออกแบบมาให้มีรูปทรงที่แปลกประหลาดไม่เหมือนใครอย่างแฟลชไดร์ฟการ์ด แฟลชไดร์ฟสมองปลา แฟลชไดร์ฟฮาโลวีน แฟลชไดร์ฟกระดาษคราฟ แฟลชไดร์ฟซูชิ แฟลชไดร์ฟคิวบิค และแฟลชไดร์ฟบางรุ่นก็อาจจะออกแบบมาให้สามารถกันน้ำได้อีกด้วย เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลที่มีมากขึ้น เหมาะสำหรับใช้ในการเก็บข้อมูลสำคัญหรือในงานองค์กรทางทหาร

อย่างไรก็ตามแม้ แฟลชไดร์ฟ เหล่านี้จะมีลักษณะการออกแบบที่น่าดึงดูดใจมากแค่ไหน แต่ผู้ใช้ก็ต้องไม่ลืมตรวจสอบสเปกภายในของสินค้าก่อนทุกครั้ง โดยเฉพาะจำนวนความจุ เพื่อให้ได้แฟลชไดร์ฟที่ใช้งานได้เหมาะสม ไม่ได้มีดีแค่ความสวยงามหรือความเท่ห์เพียงอย่างเดียว

แฟลชไดรฟ์ ไอเลิฟยู

ใครจะไปคาดคิดว่า อุปกรณ์ตัวเล็ก ๆ ขนาดเท่านิ้วโป้งของเราที่มีหลายชื่อเรียกมากมายไม่ว่าจะเป็น ทรัมป์ไดรฟ์ (thumb drive) แฟลชไดร์ฟ (flash drive) แฮนดี้ไดร์ฟ (handy drive)  usb จะมีพื้นที่มากมายเพื่อเก็บข้อมูลต่าง ๆ ได้ แฟลชไดร์ฟ แฮนดี้ไดร์ฟ usb drive ทรัมป์ไดรฟ์ (thumb drive)...

ใครจะไปคาดคิดว่า อุปกรณ์ตัวเล็ก ๆ ขนาดเท่านิ้วโป้งของเราที่มีหลายชื่อเรียกมากมายไม่ว่าจะเป็น ทรัมป์ไดรฟ์ (thumb drive) แฟลชไดร์ฟ (flash drive) แฮนดี้ไดร์ฟ (handy drive)  usb จะมีพื้นที่มากมายเพื่อเก็บข้อมูลต่าง ๆ ได้ แฟลชไดร์ฟ แฮนดี้ไดร์ฟ usb drive ทรัมป์ไดรฟ์ (thumb drive) เป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อให้สามารถเก็บข้อมูลโดยบันทึกลงบนหน่วยความจำแบบแฟลช

ปัจจุบันนี้ไม่ค่อยคุ้นหูกับคำว่าทรัมป์ไดรฟ์ (thumb drive) แล้ว แต่กลับได้ยินคำว่า  แฟลชไดรฟ์ (flash drive) มากกว่า หรือหากจะเรียกว่า  คีย์ไดร์ฟ จัมป์ไดร์ฟ  แฟลชไดร์ฟ (flash drive) แฟลชดิสก์ (flash disk) เมโมรีไดร์ฟ (memory drive) ยูเอสบีไดร์ฟ (usb drive) ไม่ว่าจะเรียกว่าอะไร โดยรวม ก็หมายความถึงสิ่ง ๆ เดียวกัน แฟลชไดร์ฟนั้นมีความจุตั้งแต่ 4 GB ถึง 2TB

ข้อได้เปรียบของแฟลชไดร์ฟ คือ มีขนาดค่อยข้างเล็ก กะทัดรัด ทำให้สามารถพกพาแฟลชไดร์ฟไปไหนมาไหนได้สะดวก ใส่กระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋ากางเกงได้สบาย ๆ แต่ทว่ามีพื้นที่หรือความจุข้อมูลสูงมากเลยทีเดียว อย่างที่บอกในตอนต้นแล้วว่า แฟลชไดร์ฟพัฒนาไปจนสามารถเก็บข้อมูลระดับเทราไบต์กันแล้ว นอกจากนี้ แฟลชไดร์ฟยังเป็นมิตรกับเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกตระกูลและทุกระบบปฏิบัติการอีกด้วย ไม่ว่าไฟล์รูปแบบไหน ไฟล์ภาพ ไฟล์เพลง ไฟล์วีดีโอ แฟลชไดร์ฟก็สามารถรองรับได้หมด ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทั่วไป หนัง เพลง รูปภาพ วิดีโอ หรือข้อมูลนอกจากนี้ เพียงจ่ายเงินซื้อแฟลชไดร์ฟตัวเล็กเพียงครั้งเดียวก็ถือว่าคุ้มค่ามากมายเลย เพราะจะบันทึกข้อมูลกี่ครั้งก็ได้ตราบเท่าที่ยังมีพื้นที่เหลือเพียงพอ

ภายในแฟลชไดร์ฟ (flash drive) จะมีตัวควบคุมการเก็บข้อมูล หน่วยความจำแฟลช ขั้วต่อ USB ชุดผลิตสัญญาณควบคุม แผงวงจรอีกมากมายที่เปรียบเสมือนสมองกลที่ทำให้แฟลชไดร์ฟตัวเล็ก ๆ แต่เผ็ดพริกขี้หนูเลยทีเดียว การใช้งาน แฟลชไดร์ฟง่ายมากไม่ต่างจากการปลอกกล้วยเข้าปากเลย เพราะเพียงแค่เสียบแฟลชไดร์ฟ (flash drive) เข้ากับช่อง USB Port ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ โน็ตบุ๊ค ก็สามารถเริ่มเปิดข้อมูลได้แล้ว และภายหลังจากการใช้งาน หากจะปิดการใช้งานก็สามารถคลิกเมาส์ปุ่มซ้ายที่ไอคอน Safely Remove Hardware  เลือกคำสั่ง Safely remove USB Mass Storage Device ของ USB แฟลชไดร์ฟตัวนั้นเพื่อป้องกันไฟล์เสียหายก่อนถอดแฟลชไดร์ฟออกจากอุปกรณ์คอมพิวเตอร์นั่นเอง

โดยทั่วไปแฟลชไดร์ฟจะมีรูปทรงสี่เหลี่ยมพื้นผ้า แต่ระยะหลังแฟลชไดร์ฟ (flash drive) ผู้ผลิตเริ่มมีการผลิตแฟลชไดร์ฟ (flash drive) ที่มีรูปร่างแปลกตามีออกมาให้เลือกซื้อเลือกหา เช่น แฟลชไดร์ฟรูปรถยนต์  แฟลชไดร์ฟรูปอาหารการกิน แฟลชไดร์ฟรูปทรงตัวการ์ตูน แฟลชไดร์ฟการ์ด (card usb) แฟลชไดร์ฟโลหะ (metal usb )แฟลชไดร์ฟคลาสสิค (classic usb) แฟลชไดร์ฟทวิสเตอร์ (twister usb) แฟลชไดร์ฟยาง (rubber usb) แฟลชไดร์ฟไม้ แฟลชไดร์ฟรีไซเคิล นอกจากรูปทรงที่หลุดออกนอกกรอบสี่เหลี่ยมแล้ว แฟลชไดร์ฟยังเป็นมากกว่าแค่ตัวเก็บข้อมูล หรือโยกย้ายถ่ายเทข้อมูล ด้วยการทำหน้าที่เป็นของขวัญของกำนัลให้กับผู้อื่น จึงมีร้านค้าที่นำแฟลชไดร์ฟมาสกรีนชื่อองค์กร หรือโลโก้บริษัทและแจกในช่วงเทศกาลสำคัญ หรือเป็นของชำร่วยในงานต่าง ๆ แฟลชไดร์ฟอาจเป็นการทำธุรกิจ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการสื่อสารประชาสัมพันธ์ นับเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีมูลค่าทั้งข้อมูลที่อยู่ในตัวแฟลชไดร์ฟ และคุณค่าที่แฝงอยู่ในตัวชิ้นงานแฟลชไดร์ฟนั้น สำหรับข้อมูลที่เป็นความลับแฟลชไดรฟ์บางตัวสามารถทำการเข้ารหัสผ่านก่อนที่จะเปิดใช้งานเพื่อเป็นการป้องกันผู้ไม่หวังดีนำข้อมูลไปใช้

ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น แม้แฟลชไดร์ฟจะเป็นอุปกรณ์เพื่อเสริมให้การทำงาน หรือการใช้ชีวิตในโลกดิจิทัลของเราสะดวก ปลอดภัยขึ้น จะเห็นได้ว่า แฟลชไดร์ฟเป็นได้มากกว่าตัวเก็บข้อมูลจริง ๆ  จึงไม่แปลกใจที่เราจะหลงรักความอรรถประโยชน์ของแฟลชไดร์ฟไปโดยปริยาย

แฟลชไดร์ฟ อุปกรณ์หน่วยความจำขนาดเล็ก

แฟลชไดร์ฟ อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่มีความสามารถในการเก็บหน่วยความจำในรูปแบบของอุปกรณ์ขิ้นเล็ก พกพาง่ายสะดวก มีน้ำหนักเบา โดยในปัจจุบันแฟลชไดซ์ได้ถูกผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก หลากหลายดีไซน์ทั้งแฟลชไดร์ฟไม้ แฟลชไดร์ฟการ์ด แฟลชไดร์ฟโลหะ แฟลชไดร์ฟทวิสเตอร์ แฟลชไดร์ฟรีไซเคิล...

แฟลชไดร์ฟ อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่มีความสามารถในการเก็บหน่วยความจำในรูปแบบของอุปกรณ์ขิ้นเล็ก พกพาง่ายสะดวก มีน้ำหนักเบา โดยในปัจจุบันแฟลชไดซ์ได้ถูกผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก หลากหลายดีไซน์ทั้งแฟลชไดร์ฟไม้ แฟลชไดร์ฟการ์ด แฟลชไดร์ฟโลหะ แฟลชไดร์ฟทวิสเตอร์ แฟลชไดร์ฟรีไซเคิล แฟลชไดร์ฟยางหยอด แฟลชไดร์ฟคลาสสิค และหลากหลายยี่ห้อ มีทั้งราคาแพง และราคาถูก โดยราคานั้นจะพุ่งสูงขึ้นตามยี่ห้อ รูปแบบดีไซน์ และความสามารถในการเก็บข้อมูล และนี้คือเรื่องราวของแฟลชไดซ์ แฟลชไดซ์เป็นอย่างไร และมีวิธีเลือกซื้ออย่างไร

เลือกแฟลชไดซ์ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์

อย่างที่รู้ ๆ กันครับว่าแฟลชไดร์ฟนั้นมีราคาที่แตกต่างกันตามคุณสมบัติหลัก ๆ ก็คือ ความจุ โดยแฟลชไดซ์มีความจุตั้งแต่ 2GB ไปจนถึง 64GB ซึ่งราคา และคุณสมบัติก็มีความแตกต่างกันดังนี้

1.ความจุ 2-8 GB

แฟลชไดซ์ความจุแบบเบื้องต้นเหมาะสำหรับ เก็บไฟล์เพลงไฟล์งานเล็ก ๆ โดยสามาถเก็บเพลงได้ตามลำดับตั้งแต่ 400-1,000 เพลง

2.ความ 16-64-128 GB

แฟลชไดซ์ความจุขนาดนี้เหมาะสำหรับเก็บไฟล์ที่ค่อนข้างใหญ่เช่นไฟล์หนังที่มีความชัดของภาพระดับ HD ขึ้นไป และเก็บไฟล์เกมที่มีขนาด GB ได้อย่างสบาย ๆ ซึ่งราคาก็อาจจะสูงถึงหลักพันได้ แล้วแต่ยี่ห้อ

วิธีการเลือกแฟลชไดรฟ์

1.ความเร็วแฟลชไดรฟ์

เทคนิคเล็กๆ ที่ผมอยากให้ใครหลายๆคน ต้องสนใจนั่นก็คือความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลของแฟลชไดรฟ์ โดยวิธีการดูก็คือเพื่อนๆต้องสังเกตุที่ตัวกล่องและคำว่า Read speed และ Write Speed ยิ่งสูงยิ่งดี และอีกข้อสังเกตุที่หนึ่งที่ผมอยากจะแนะนำก็คือ เพื่อนต้องเลือกพอร์ตแฟลชไดรฟ์ที่สูงเช่น ในอดีตแฟลชไดรฟ์ในยุคแรกๆที่ผลิตออกมาจะเป็น USB 2.0 และได้พัฒนาขึ้นมาตามลำดับจนถึง USB 3.1 และUSB Type โดยพอร์ทนี้นั้นเป็นตัวที่มีผลอย่างมากในการรับส่งข้อมูล ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่ขนาดของไฟล์ด้วยครับ

2.เลือกราคาให้เหมาะสม

ถ้าย้อนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว แฟลชไดร์ฟที่มีความจุถึง 32-64 GB นั้นค่อนข้างมีราคาที่แพง แต่ในปัจจุบันแฟลชไดร์ฟได้ถูกผลิตออกมาเยอะมาก ๆ จากหลาย ๆ บริษัท ส่งผลให้ราคาแฟลชไดร์ฟก็ปรับตัวลดลงอย่างมาก ผมจึงอยากให้เพื่อนๆไม่จำเป็นต้องซื้อแฟลชไดร์ฟราคาแพงจนเกินความเหมาะสมในการใช้งานครับ

3.การรับประกัน

แฟลชไดรฟ์คืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิคที่มีขนาดเล็ก และเบา และมีความเสี่ยงที่อาจจะเสียหายได้โดยง่าย ดังนั้นถ้าจะซื้อแฟลชไดร์ฟดี ๆ สักอัน เพื่อจะใช้มันนาน ๆ ผมแนะนำให้อ่านเพจเกจ เลือกดูอันที่มีประกันแฟลชไดรฟ์จะดีกว่า

4.คุณสมบัติพิเศษของแฟลชไดร์ฟ

รู้หรือไม่ว่าปัจจุบันมีแฟลชไดร์ฟที่ไม่ได้มีเพียงแค่การเก็บข้อมูล ไฟล์งาน ไฟล์เพลง ไฟล์หนัง และอื่นๆเพียงเท่านั้น ปัจจุบันแฟลชไดร์ฟได้พัฒนาจนเป็น mp3 ไว้สำหรับฟังเพลงเคลื่อนที่แล้ว และยังสามารถเสียบหูฟังได้อีกด้วย คาดว่าในอนาคตเราจะเห็นแฟลชไดร์ฟสามารถดูหนังได้อีกด้วย แต่แฟลชไดร์ฟชนิดนี้ในปัจจุบันมีราคาที่ค่อนข้างสูง

สรุป

แฟลชไดร์ฟ เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์ โดยเฉพาะไลฟ์สไตล์ของคนในปัจจุบันมากขึ้น เพราะจากพฤติกรรมของผู้คนในปัจจุบัน ค่อนข้างมีความผูกพันเกี่ยวโยงกับข้อมูลไฟล์อิเล็กทรอนิคมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นการที่จะมีแฟลชไดร์ฟที่เหมาะสมกับเราสักอันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร โดยนำข้อมูลที่ผมแนะนำ นำไปใช้ประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อได้เองเลยครับ

แฟลชไดร์ฟ อุปกรณ์บันทึกข้อมูลที่คนยุคใหม่ควรต้องมี

การเก็บรักษาข้อมูลยังคงเป็นเรื่องสำคัญ ที่อยู่คู่กับการปฏิบัติงานเสมอมาในทุกยุคทุกสมัย นับตั้งแต่อดีตที่มีการเก็บบันทึกไว้ในวัตถุตามธรรมชาติ มาจนถึงยุคที่มนุษย์สามารถผลิตกระดาษขึ้นมาได้และส่งต่อมา...

การเก็บรักษาข้อมูลยังคงเป็นเรื่องสำคัญ ที่อยู่คู่กับการปฏิบัติงานเสมอมาในทุกยุคทุกสมัย นับตั้งแต่อดีตที่มีการเก็บบันทึกไว้ในวัตถุตามธรรมชาติ มาจนถึงยุคที่มนุษย์สามารถผลิตกระดาษขึ้นมาได้และส่งต่อมา ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีดิจิตอลเข้ามามีบทบาทให้สามารถบันทึกข้อมูลผ่านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์

ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งมีความสะดวกมากยิ่งขึ้นเท่าใด ปริมาณของข้อมูลก็ย่อมที่จะมีมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย อีกทั้งยังมีความต้องการพกพาคลังข้อมูลได้อย่างสะดวก สามารถนำไปปฏิบัติงานยังสถานที่ต่าง ๆ ได้ และยังสามารถแลกเปลี่ยนหรือส่งต่อข้อมูลให้ผู้อื่นนำไปใช้งานได้ จึงส่งผลให้การผลิตอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บและพกพาข้อมูลนั้นเกิดการพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

โดยแฟลชไดร์ฟนั้นคืออุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากขนาดที่เล็กกระทัดรัด และพอร์ตเชื่อมต่อที่ใช้งานได้โดยสะดวกของแฟลชไดร์ฟ เพียงแค่เสียบใช้งานก็พร้อมปฏิบัติงานได้ทันที และที่สำคัญอุปกรณ์ประเภทนี้อย่างแฟลชไดร์ฟยังให้ความเร็วในการรับหรือถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วที่มากกว่า อุปกรณ์เก้บข้อมูลชนิดอื่น ๆ ทั่วไป อาทิเช่น เมื่อเทียบกับการถ่ายโอนข้อมูลผ่าน การ์ด ซึ่ง แฟลชไดร์ฟ จะมีความเร็วที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีล่าสุดที่เท่า ๆ กัน นอกจากนี้ แฟลชไดร์ฟ ยังมีความแข็งแรงคงทน ที่มีมากกว่าอีกด้วย ช่วยให้มั่นใจได้ว่าทุกข้อมูลสำคัญจะไม่สูญหายไป หรือเสียหายได้โดยง่าย

ทั้งนี้ลักษณะโดยทั่วไปของแฟลชไดร์ฟนั้น จะใช้การเชื่อมต่อผ่านพอร์ต ยูเอสบี และนั่นจึงทำให้นิยมเรียกกันว่า ยูเอสบี แฟลชไดรฟ์ หรือ USB flash drive นั่นเอง และสาเหตุของคำว่า แฟลชไดร์ นั่นก็เพราะ มันเป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่ใช้หน่วยความจำในแบบ แฟลช มีคุณสมบัติที่สามารถทำงานร่วมกับเวอร์ชั่นยูเอสบี 1.1 2.0 3.0 (3.1 Gen 1) และ 3.1 (3.1 Gen 2) ได้

ซึ่งในเรื่องของการพัฒนาแฟลชไดร์ฟให้มีขนาดและน้ำหนัก ก็ต้องถือว่าปัจจุบันแฟลชไดร์ฟมันมีขนาดที่เล็ก และน้ำหนักที่เบาอยู่ในจุดการวิวัฒนาการที่เหมาะสมแล้ว โดยในขั้นต่อไปก็จะเน้นกันที่ความเร็วของแฟลชไดร์ฟในการถ่ายโอนข้อมูลที่จะเร็วยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต รวมถึงขนาดการรองรับปริมาณความจุของข้อมูลที่จะมีมากยิ่ง ๆ ขึ้นไปอีก โดยในปัจจุบัน ปี 2020 แฟลชไดรฟ์ ที่มีการวางจำหน่ายในท้องตลาดจะมีความจุตั้งแต่ 4 GB ไปจนถึง 1TB จากเดิมทีที่เคย แฟลชไดร์ฟมีวางจำหน่ายในช่วงความจุที่ 256 MB ไปจนถึง 2 GB และแม้ว่าจะมีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพและความทันสมัยยิ่งขึ้น แต่มันก็ยังคงรองรับการทำงานในระบบปฏิบัติได้ในหลายระบบปฏิบัติ การแม้แต่ระบบเก่า ๆ อย่าง วินโดวส์ 98/ME/2000/XP เป็นต้น

และนอกจากการเลือกซื้อ แฟลชไดรฟ์ ผู้ซื้อมักจะให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพการทำงาน และความมั่นคงในการเก็บรักษาข้อมูลแล้ว แต่ทว่าในเรื่องของสีสันและดีไซน์ก็มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แฟลชไดร์ฟไม้ แฟลชไดร์ฟการ์ด แฟลชไดร์ฟโลหะ แฟลชไดร์ฟทวิสเตอร์ แฟลชไดร์ฟคลาสสิค แฟลชไดร์ฟยาง แฟลชไดร์ฟรีไซเคิล เป็นต้น ถือเป็นจุดขายอีกจุดสำคัญที่เป็นเงื่อนไขในการเลือกซื้อด้วยเช่นกัน ซึ่งนอกจากจะมีจำหน่ายจากผู้ผลิตในแบรนด์ที่มีมาตรฐานชื่อเสียงแล้ว ก็ยังมีผู้ผลิตที่เน้นแฟชั่นการดีไซน์ รวมถึงการใช้เป็นของที่ระลึกหรือของขวัญด้วยเช่นกัน หรือบางบริษัทหน่วยงานองค์กรต่าง ๆ ก็อาจมีการจัดทำ แฟลชไดรฟ์ ในดีไซน์ที่ออกแบบขึ้นมาเป็นพิเศษอย่างมีเอกลักษณ์ อีกทั้ง แฟลชไดรฟ์ บางยี่ห้อหรือบางรุ่นยังมีเรื่องของระบบการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ทั้งด้วยโปรแกรมเข้ารหัสแบบพิเศษ หรือด้วยฮาร์ดแวร์โครงสร้างพิเศษซึ่งจะมีราคาที่สูงขึ้นไปอีกระดับ เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นความสำคัญในประเด็นเหล่านี้

แฟลชไดร์ฟตกน้ำจะเสียหายหรือไม่

แฟลชไดร์ฟจัดเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่แน่นอว่าย่อมไม่ถูกกับน้ำเป็นอย่างยิ่งซึ่งหลายท่านน่าจะทราบดีอยู่แล้วว่าไม่ว่าจะมีความสามารถป้องกันน้ำได้ดีขนาดไหน ก็ย่อมไม่สามารถอยู่กับน้ำได้เลย ที่สำคัญอาจจะทำให้แผงวงจรเสียหายไม่สามารถใช้งานต่อได้อยู่แล้ว...

แฟลชไดร์ฟจัดเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่แน่นอว่าย่อมไม่ถูกกับน้ำเป็นอย่างยิ่งซึ่งหลายท่านน่าจะทราบดีอยู่แล้วว่าไม่ว่าจะมีความสามารถป้องกันน้ำได้ดีขนาดไหน ก็ย่อมไม่สามารถอยู่กับน้ำได้เลย ที่สำคัญอาจจะทำให้แผงวงจรเสียหายไม่สามารถใช้งานต่อได้อยู่แล้ว หลายท่านได้สอบถามเข้ามาว่าหากเผลอทำแฟลชไดร์ฟตกน้ำ หรือเผลอใส่ในกระเป๋าแล้วเอาไปซักจะยังใช้งานได้หรือไม่ แน่นอนว่าระยะเวลาที่โดนน้ำของแฟลชไดร์ฟนั้นจะบอกว่ายังสามารถใช้งานต่อได้ไหม หากผ่านการแช่ในน้ำมาเป็นเวลาหลายชั่วโมงก็อาจจะทำให้แผงวงจรเสียหายจนหมดได้ แต่หากแช่ไม่นานก็อาจจะใช้งานต่อได้ แต่เพื่อความปลอดภัยควรเช็ดให้แห้งหรือทำให้น้ำภายในออกมาให้หมดซะก่อน

เทคนิคการดูแลแฟลชไดร์ฟหลังตกน้ำคือควรเอาออกจากน้ำให้เร็วที่สุด เช็ดภายนอกให้แห้งแล้ว ควรดุว่ามีน้ำซึมออกมาไหม งดการเอาออกไปตากแดด หากแกะแฟลชไดร์ฟออกจากกันได้ก็ควรแกะออกมาเอาไดร์เป่าผมเปิดเบอร์อ่อนๆ เป่าไล่ลมร้อนเบาๆในแฟลชไดร์ฟให้มั่นใจว่าแห้งสนิท เช็คแผงวงจรให้ดีว่ายังมีความชื้นเกาะอยู่หรือไม่ หากเช็คดีแล้วก็แนะนำให้มาเสียบดูว่ายังใช้งานได้ไหม หากเปิดได้ก็แปลว่า แฟลชไดร์ฟไม่ได้รับความเสียหายมาก สามารถใช้งานได้ต่อโดยไม่ต้องกังวลถึงอันตรายที่อาจจะตามมา

แต่หากแฟลชไดร์ฟไม่สามารถแกะออกมาเช็คได้ก็อาจจะทำให้ไม่สามารถไล่ความชื้นออกมาได้ก็ควรจะเช็ดภายนอกให้แห้งสนิท ห้ามเขย่าเพื่อเอาน้ำออกเด็ดขาดเพราะอาจจะทำให้แผงวงจรของแฟลชไดร์ฟนั้นเสียหายได้ หลังจากเช็ดจนแห้งแล้วก็สามารถเอาไปใส่ในถึงข้าวสารเพื่อช่วยดูดความชื้นออก หรือจะนำไปใส่ในโถ่ที่บรรจุผงดูดความชื้นก็จะช่วยให้ความชื้นภายในถูกไล่ออกมาจนหมดแต่ใช้เวลานานกว่าวิธีแกะมากไม่น้อยเลย

ไม่ว่าจะเป็นแฟลชไดร์ฟการ์ด แฟลชไดร์ฟไม้ แฟลชไดร์ฟโลหะ แฟลชไดร์ฟคลาสสิค แฟลชไดร์ฟทวิสเตอร์ข้อห้ามสำหรับแฟลชไดร์ฟที่ตกน้ำคือห้ามใช้ทันทีที่ตกน้ำเนื่องจากอาจจะทำให้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์พลอยเสียหายจากความชื้นไปด้วย แถมมีสิทธิที่ความชื้นฝ่ายในนั้นจะส่งผลทำให้แผงวงจรภายในเสียหายเร็วกว่าปกติ ควรเอาความชื้นออกให้หมด และห้ามเอาไปตากแดดเด็ดขาดเพราะนอกจากจะไม่ช่วยให้แฟลชไดร์ฟกลับมาใช้งานได้อีกครั้งแล้วยังอาจจะทำให้แผงวงจรเสียหายจากความร้อนได้ด้วย การดูแลรักษาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดที่เปียกน้ำนั้นต่างก็มีวิธีที่ต่างกันออกไป แต่อย่างแรกที่ควรคำนึงคือการรีบเอาความชื้นออกให้หมดโดยเร็วที่สุดเพื่อป้องกันความเสียหายของแผงวงจรภายใน แต่สิ่งที่ควรทำมากกว่าสุคือการดูแลไม่ให้อุปกรณ์ตกน้ำจะดีที่สุด

แฟลชไดร์ฟ และเทคนิคการเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟ

ในยุคสมัยที่เปลี่ยนไป พฤติกรรมการใช้งานข้อมูลของมนุษย์ ได้รับการอำนวยความสะดวกมากยิ่งขึ้นทุกปี ในยุคที่เทคโนโลยีได้มีการพัฒนาเข้าสู่อุปกรณ์ที่สามารถจัดเก็บข้อมูลได้ทั้ง...

ในยุคสมัยที่เปลี่ยนไป พฤติกรรมการใช้งานข้อมูลของมนุษย์ ได้รับการอำนวยความสะดวกมากยิ่งขึ้นทุกปี ในยุคที่เทคโนโลยีได้มีการพัฒนาเข้าสู่อุปกรณ์ที่สามารถจัดเก็บข้อมูลได้ทั้ง รูปภาพ วีดีโอ เพลง เอกสาร และไฟล์งาน โปรแกรมต่าง ๆ โดยเป็นการจัดเก็บผ่านอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ ไอที ที่ปรับขนาดของโครงสร้างทั้งภายนอก และชิ้นส่วนภายใน ให้มีขนาดเล็กลงเรื่อย ๆ แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพเท่าเดิม หรือมากยิ่งขึ้นไปอีกเท่าตัว สามารถพกพาติดตัวไปยังที่ต่าง ๆ อย่างสะดวกสบาย และเปิดใช้งานได้ทุกที่เมื่อเชื่อมต่อเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์

ซึ่งด้วยวิถีในรูปแบบใหม่ก็ทำให้ความต้องการ ในการหาซื้ออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล นั้นมีมากมายอย่างแพร่หลายในวงกว้าง และหนึ่งในอุปกรณ์ประเภทนี้ที่ได้รับความนิยมในระดับต้น ๆ นั่นก็คือ แฟลชไดร์ฟ นั่นเอง

โดยทางผู้ผลิตแฟลชไดร์ฟได้มีการปรับปรุงพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์แฟลชไดร์ฟมาอยู่เสมอในแต่ละปี ทำเราพบเห็นแฟลชไดร์ฟรูปร่างหน้าตาที่แปลกใหม่มากมายจากในสมัยก่อน ไม่ว่าจะเป้น แฟลชไดร์ฟการ์ด แฟลชไดร์ฟไม้ แฟลชไดร์ฟโลหะ แฟลชไดร์ฟรีไซเคิล แฟลชไดร์ฟคริสตัล แฟลชไดร์ฟยาง เป็นต้น เรามักจะได้เห็นขีดความสามารถทั้งในแง่ของประสิทธิภาพความเร็ว ในการอ่านข้อมูล ความราบลื่นในการโอนถ่ายข้อมูล และประสิทธิภาพในเรื่องของความจุ ของเนื้อที่จัดเก็บข้อมูลของแฟลชไดร์ฟ ซึ่งถือว่าเป็นประเด็นสำคัญเลยทีเดียวสำหรับการเสาะหาซื้อ แฟลชไดร์ฟ ของผู้คนทั่วไป

อย่างไรก็ตามผู้ที่มีความต้องการใช้งานอุปกรณ์ชนิดนี้อย่างแฟลชไดร์ฟนั้น ก่อนเลือกซื้อทุกครั้งนอกจากจะต้องคำนึงถึงความเร็วในการจัดการและความจุของการจัดเก็บแล้วภายในของแฟลชไดร์ฟแล้ว ก็ยังควรจะต้องพิจารณาไปในเรื่องของสินค้าที่มีมาตรฐานของผู้ผลิต มีแบรนด์ที่เชื่อถือไว้วางใจได้ อีกทั้งแฟลชไดร์ฟที่ถูกจำหน่ายควรมีการรับประกันคุณภาพและความสมบูรณ์ของสินค้าอย่างเหมาะสม มีบริการหลังการขาย เช่น การเคลมสินค้า ช่องทางการติดต่อได้ง่าย สะดวก และมีคุณภาพในเรื่องของความคงทน แข็งแรง มีอายุการใช้งานที่ยาวนานเหมาะสม ไม่ชำรุดหรือเสื่อมสภาพง่ายในเวลาอันใกล้มากเกินไป

เพราะไม่เช่นนั้นแล้วนอกจากที่คุณอาจจะต้องเสียเงินให้กับแฟลชไดร์ฟที่ใช้งานไม่ได้ไปแบบฟรี ๆ แล้ว เรื่องสำคัญที่สุดกว่านั้นนั่นก็คือ ข้อมูลอันมีค่าของคุณที่อยู่ภายในอุปกรณ์ก็อาจจะสูญหายตามไปด้วย โดยเฉพาะสินค้าในบางรุ่นที่ไม่ได้มาตรฐาน บางครั้งอาจจะมีกรณีที่ตัวอุปกรณ์แฟลชไดร์ฟยังไม่ชำรุดในทันที แต่จะมีการทำข้อมูลหายไปทีละส่วน ซึ่งอาจเกิดขึ้นในชนิดที่ผู้ใช้งานไม่ทันสังเกตหรือรู้เลยด้วยซ้ำ

และการหลีกเลี่ยงกรณีเหล่านี้ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงควรเลือกซื้อกับแบรนด์ผู้ผลิตที่มีชื่อเสียง และเลือกซื้อกับผู้วางจำหน่ายที่ไว้วางใจได้ ว่าจะไม่มีการนำของหรือสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ของเสียชำรุดหรือแม้แต่ของปลอมลอกเลียนแบบนำมาหลอกขายลูกค้า

ทั้งนี้เมื่อทราบถึงหลักการซื้อ แฟลชไดร์ฟ ที่มีคุณภาพแล้ว สิ่งต่อมาที่จะต้องพิจารณาต่อนั่นก็คือรูปลักษณ์และดีไซน์ของสินค้า ซึ่งปัจจุบันในท้องตลาดนับว่ามีรูปแบบหลากหลายมากเป็นพิเศษ เพราะแน่นอนว่าสิ่งของที่มักจะต้องพกพาอยู่บ่อย ๆ เสมอ รวมถึงมีการหยิบนำมาใช้งานปรากฏแก่สายตาคนรอบข้าง ถ้าหากมีสีสันและรูปแบบที่สะดุดตาแล้วล่ะก็ นั่นจึงนับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีเป็นอย่างมากเลยทีเดียว จะเรียกว่าเป็นของแฟชั่นไปเลยก็ได้ ซึ่งมีทั้งแบบลวดลายการ์ตูนน่ารัก ไปจนถึงรูปแบบที่หรูหราสง่างาม และหากเลือกได้อย่างถูกใจเข้ากับตัวตนของคุณแล้วล่ะก็ แฟลชไดร์ฟ นั้นก็อาจจะกลายเป็นของรักของหวง ที่คุณรักมากไปกว่าการใช้งานแต่เพียงอย่างเดียวไปเลยก็ได้

แทนคำขอบคุณด้วยแฟลชไดร์ฟ

ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำนำสมัยสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเราล้วนได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น รวมถึงยังได้มีการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ขึ้นมาเพื่อช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น อย่างเช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูป หรือแฟลชไดร์ฟ เป็นต้น...

ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำนำสมัยสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเราล้วนได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น รวมถึงยังได้มีการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ขึ้นมาเพื่อช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น อย่างเช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูป หรือแฟลชไดร์ฟ เป็นต้น ซึ่งถ้าหากพูดถึง แฟลชไดร์ฟ แล้ว เชื่อว่าหลายๆ คนโดยส่วนทราบกันดีว่ามันมีความสำคัญอย่างมากต่อชีวิตการทำงานการเรียน เนื่องจาก แฟลชไดร์ฟ นั้นเปรียบเสมือนได้กับสมองในส่วนซีรีบรัมของมนุษย์ หรือเป็นเหมือนฮาร์ดดิสก์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ เพราะ แฟลชไดร์ฟ ถูกผลิตขึ้นให้มีหน้าสำหรับเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ไมโครซอฟท์ ไฟล์ภาพ หรือไฟล์วีดีโอ เป็นต้น

แต่ทั้งนี้ แฟลชไดร์ฟ นั้นก็สามารถทำหน้าที่อื่นๆ ได้เช่นกัน อาทิ เป็นของขวัญแทนคำขอบคุณในโอกาสต่างๆ หรืออาจจะเป็นสื่อกลางในการทำการตลาดซึ่งสามารถช่วยโฆษณาชื่อเสียงของร้านค้าหรือบริษัทได้เช่นกัน ซึ่งคุณประโยชน์ต่างๆ เช่นที่ได้ยกตัวอย่างไปนั้นน้อยคนนักที่จะสามารถคาดหมายได้ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อถึงสิ้นปีหากบริษัททำกำไรได้ก็อาจจะมีโบนัสให้กับพนักงาน นอกจากนี้ถ้าบริษัทนั้นๆ เลือกที่จะสั่งผลิต แฟลชไดร์ฟ แจกจ่ายให้กับพนักงานก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะพนักงานในบริษัทโดยส่วนใหญ่แล้วต้องมี แฟลชไดร์ฟ ไว้ใช้งานกันเกือบทุกคน หรือถ้าเขาอาจจะมอบให้ใครไปก็จะทำให้คนอื่นๆ รับรู้ถึงความมีอยู่ในบริษัทเรา

หรือถ้าในวันที่ครบรอบการเปิดร้านค้าหรือในโอกาสสำคัญๆ ของร้านค้า ก็อาจจะสั่งผลิต แฟลชไดร์ฟ ไว้จำนวนหนึ่งเพื่อมอบเป็นของสัมมนาคุณให้กับลูกค้าที่ได้เข้ามาใช้บริการก็ถือว่าเป็นความคิดที่แปลกใหม่ และยังช่วยโปรโมทร้านค้าไปในตัวด้วย เพราะของสัมมนาคุณโดยมากจะเป็นพวกร่ม เสื้อ กระติกน้ำ หรือปฏิทิน เสียมากกว่า ซึ่งถ้าเราหันมาเลือกใช้ แฟลชไดร์ฟ ก็จะทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจในความคิดที่สร้างสรรค์ ซึ่ง แฟลชไดร์ฟ ที่เราสั่งผลิตก็ควรที่จะมีโลโก้หรือสัญลักษณ์ของร้านค้าเพื่อทำให้ลูกค้าจำเราได้ เพราะทุกครั้งที่นำ แฟลชไดร์ฟ มาใช้งานก็จะเห็นโลโก้ของเรา

นอกจาก แฟลชไดร์ฟ ควรจะมีโลโก้ของเราแล้ว ยังควรที่จะออกแบบรูปทรงของ แฟลชไดร์ฟ ให้มีความแปลกใหม่ไม่เหมือนใครมากกว่าที่จะเป็นรูปร่างสี่เหลี่ยมทื่อๆ ไม่น่ามอง โดยอาจจะผลิตเป็นรูปทรงสัตว์หรือตัวการ์ตูนยอดฮิตและมีกล่องใส่ที่สวยหรูเพื่อทำให้เกิดความประทับใจมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือ แฟลชไดร์ฟ ที่เราสั่งผลิตไปนั้นควรเป็น แฟลชไดร์ฟ ที่มีคุณภาพ ใช้งานได้จริง ทนทานมีความแข็งแรง ไม่ใช่ใช้ไปได้ 4-5 วันพัง หรือตกหล่นนิดหน่อย แฟลชไดร์ฟ แตกกระจาย

สินค้าที่คุณอาจสนใจ

สั่งทำ สั่งผลิต USB แฟลชไดร์ฟ พร้อมสกรีนโลโก้ แบรนด์ องค์กร หรือข้อความของคุณได้ง่าย ๆ สอบถามได้เลย CLICK!