blog

ในปัจจุบันการเลือกซื้อสินค้าไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุปโภค หรือ บริโภคนั้น เราจะมีความคิดในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นราคา คุณประโยชน์ หรือรวมไปถึงคุณภาพของสินค้า ซึ่งการที่เราจะตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าแต่ละครั้ง เราควรเลือกสินค้าที่มีอายุการใช้งานที่สามารถใช้งานในระยะยาวได้ มีความแข็งแรง ทนทาน และผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพที่ได้มาตรฐานให้มากที่สุด เพื่อเป็นประโยชน์ต่อตัวผู้บริโภคเอง เหมือนแฟลชไดร์ฟมีความหลากหลายดังนี้

– แฟลชไดร์ฟโลหะ

– แฟลชไดร์ฟยาง

– แฟลชไดร์ฟไม้

ถ้าพูดถึงความแข็งแรงทนทาน ส่วนใหญ่ผู้คนจะไม่ค่อยนึกถึงโลหะ ซึ่งตามหลักแล้วโลหะเป็นตัวนำไฟฟ้าและความร้อนได้ดีมาก แสงไม่สามารถผ่านได้ เมื่อนำโลหะมาขัดเรียบจะมีลักษณะผิวที่มันวาว มีความแข็งแรงเป็นอย่างมาก ต้องยอมรับเลยว่าผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่นิยมนำโลหะมาเป็นส่วนประกอบในการผลิตเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างอาคารต่าง ๆ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น การผลิตแฟลชไดร์ฟโลหะ ซึ่งเป็นแฟลชไดร์ฟที่มีน้ำหนักเบา และยังมีความแข็งแรงทนทานซึ่งทำให้คนส่วนใหญ่นิยมใช้กัน และเรายังสามารถเลือกรูปทรงปรับแต่งแฟลชไดร์ฟเองได้ตามใจชอบ ซึ่งถือเป็นแฟลชไดร์ฟที่น่าสนใจอีกตัวหนึ่งเลย ได้ทั้งคุณภาพ ความคงทน แข็งแรงของสินค้า และที่สำคัญยังมีการออกแบบที่มีขนาดเล็ก เหมาะสมต่อการพกพา หรือจะห้อยเป็นพวงกุญแจก็ได้ และไม่ใช่เพียงแค่นั้น ยังสามารถดีไซน์แฟลชไดร์ฟในรูปแบบต่าง ๆ ให้สามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นที่เปิดขวดอีกฝั่งตรงด้ามปลายของแฟลชไดร์ฟ หรืออาจจะเป็นที่ห้อยกระเป๋า เป็นต้น เมื่อพูดถึงคุณประโยชน์ที่มากมายแล้ว ผู้บริโภคอาจจะคิดว่าราคาต้องสูงมากแน่ ๆ แต่จริงแล้วราคาของแฟลชไดร์ฟไม่ได้แพงมากอย่างที่คิด เพราะเราต้องการให้ผู้บริโภคได้ใช้สินค้าที่ดี มีคุณภาพและเป็นราคาที่สามารถจับต้องได้ ซึ่งเหมาะสมกับทุกช่วงวัยที่เหมาะกับการพร้อมใช้งานแฟลชไดร์ฟนั่นเอง

โดยการดูแลรักษาแฟลชไดร์ฟโลหะให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานนั้นก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะด้วยรูปแบบโครงสร้างของแฟลชไดร์ฟโลหะจะมีความแข็งแรงทนทานก็จริงแต่ถ้าหากใช้ผิดวิธี เช่น นำไปล้างน้ำเพื่อทำความสะอาด อาจทำให้ส่วนของ USB เกิดความเสียหายได้เพราะเป็นวัสดุที่ใช้เกี่ยวกับอุปกรณ์ไฟฟ้าและตัวโลหะภายด้านนอกของแฟลชไดร์ฟอาจจะเป็นสนิมได้นั่นเอง เพราะฉะนั้นเราควรดูแลรักษาแฟลชไดร์ฟโลหะให้ดี ใส่กระเป๋าแยกไว้ต่างหากเลยก็ได้ จะทำให้แฟลชไดร์ฟของเราใช้งานได้นานขึ้น ส่วนแฟลชไดร์ฟยางมีความหมายที่ตรงตัวเลยคือการใช้วัสดุที่เป็นยางมาเป็นส่วนประกอบภายด้ายนอกของตัวแฟลชไดร์ฟเพื่อห่อหุ้มป้องกันความเสียหายได้หลายอย่างและเพิ่มความสวยงามเป็นอย่างมาก เช่น ผลิตเป็นสายรัดข้อมือเพื่อเป็นสิ่งของตกแต่งร่างกายของเราถือเป็นเครื่องประดับอีกอย่างเลยก็ว่าได้ และยังพกพาได้สะดวก ด้วยความที่มีการนำยางมาเป็นส่วนประกอบในทำแฟลชไดร์ฟทำให้มีความน่าสนใจ และเป็นแรงกระตุ้นในกลุ่มเด็ก ๆ ให้เกิดความน่าสนใจได้ง่ายเพราะสามารถทำเป็นตัวการ์ตูนน่ารัก ๆ ที่เด็ก ๆ นิยมกัน นอกจากจะทำขึ้นมาเพื่อเอาใจเด็ก ๆ แล้วแฟลชไดร์ฟยางยังสามารถใช้ในเชิงธุรกิจได้ด้วย เพราะแฟลชไดร์ฟยางสามารถจัดทำขึ้นเป็นรูปทรงต่าง ๆ ได้อีกมากมาย ซึ่งก็ได้มีการจัดทำในเชิงธุรกิจ เช่น ธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ก็ผลิตรูปแฟลชไดร์ฟยางเป็นรูปต่าง ๆ  หรือธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร ฟาสต์ฟู้ดต่าง ๆ ก็มีการจัดทำแฟลชไดร์ฟยางเป็นรูปแบบของอาหาร อย่างเช่น รูปแฮมเบอร์เกอร์ เป็นต้น เพื่อสร้างความดึงดูดและความน่าสนใจของผู้บริโภคและยังเป็นเอกสักษณ์จุดขายได้ดีเยี่ยมอีกด้วย

คุณประโยชน์ของแฟลชไดร์ฟยางมีเยอะแยะมาก เพราะด้วยความที่วัสดุเป็นยางรูปทรงก็จะมีความหลากหลายมากกว่าแฟลชไดร์ฟแบบอื่น นอกจากนี้ยังสามารถสั่งทำแฟลชไดร์ฟไว้มอบเป็นของขวัญในวันพิเศษ วันสำคัญต่าง ๆ ได้ เพราะเราสามารถจัดสั่งทำได้ตามรูปแบบที่เราต้องการ แฟลชไดร์ฟยางยังสามารถพกพาง่าย สะดวกไปได้ทุกที่ และที่สำคัญสามารถกันน้ำได้เพราะแฟลชไดร์ฟยาจะมีการทำแบบจุกดึง USB ออกได้ หรือเป็นจุกหมวกของตัวการ์ตูนต่าง ๆ ได้ที่เรามักจะเคยพบเจอ

ถึงแม้ว่าแฟลชไดร์ฟยางจะมีส่วนประกอบจากยางเป็นส่วนสำคัญ แต่การใช้งานของแฟลชไดร์ฟไม่ได้ด้อยไปกว่าแฟลชไดร์ฟอื่น ๆ ได้ทั้งคุณภาพ ความแข็งแรง กันน้ำได้ และก็ยังสามารถใช้เก็บข้อมูลจากแหล่งข้อมูลหลักได้เหมือนกันและเราก็จะมีความสบายใจขึ้น สบายตาที่ได้ใช้ของสวย ๆ ที่มีความแข็งแรง คงทนและยังคุณภาพดีอีกด้วย

แฟลชไดร์ฟไม้ก็เหมือน ๆ กับแฟลชไดร์ฟทั้งสองแบบแต่แตกต่างกันตรงที่รูปแบบการดีไซน์ของแฟลชไดร์ฟที่ใช้ไม้มาเป็นวัสดุหลักในการทำเป็นส่วนประกอบ ส่วนใหญ่กลุ่มคนที่จะเลือกแฟลชไดร์ฟไม้จะเป็นกลุ่มที่มีความชอบอะไรแบบแนวคลาสสิค หรือเป็นรูปแบบแฟลชไดร์แนวล้ำสมัยก็ขึ้นอยู่ตามรสนิยมความชอบของแต่ละบุคคลนั้น ๆ ส่วนใหญ่แฟลชไดร์ฟไม้จะเป็นของพรีเมี่ยม ถือว่าเป็นของสะสมที่มีความหรูหรา สวยเก๋ หรืออาจจะนำไปเก็บสะสมเป็น collection ในแต่ละปีที่ผลิตขึ้น แต่สิ่งสุดท้ายที่ผู้บริโภคควรคำนึงถึงก็คือความคุ้มค่าของราคา คุณภาพ และความคงทนของสินค้าถ้าเราอยากได้สินค้าที่เรารู้สึกว่าปลอดภัยและใช้งานได้ยาวนานแน่นอนขอแนะนำให้เลือกซื้อกับร้านขายแฟลชไดร์ฟ และอุปกรณ์ไอทีต่าง ๆ หรือร้านค้าชั้นนำทั่วไป เพราะว่าร้านเหล่านี้จะมีของที่ได้คุณภาพ และเพียบพร้อมในเรื่องของการใช้งานแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นแฟลชไดร์ฟรูปแบบไหนก็ตามสิ่งที่เราควรคำนึงถึงก็คือเรื่องคุณสมบัติของการใช้งานและความคงทนของแฟลชไดร์ฟ

อย่างที่เรารู้กันดีว่า แฟลชไดร์ฟ มีประโยชน์กับชีวิตประจำวันของเราเป็นอย่างมาก เนื่องจากมนุษย์เรามีการสร้างเทคโนโลยีขึ้นมา เพื่อให้ตอบสนองกับความต้องการของเราให้ได้มากที่สุด เราทุกคนใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เพื่ออำนวยความสะดวกสบายในเวลาที่เร่งรีบจากการทำงาน การเรียน และการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันอยู่ทุกวัน เรียกได้ว่าเทคโนโลยีได้กลายเป็นปัจจัย 5 ที่ขาดไปไม่ได้แล้ว แฟลชไดร์ฟก็เป็นเทคโนโลยีอีกประเภทหนึ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้ไปกว่าเทคโนโลยีประเภทอื่น ๆ แฟลชไดร์ฟถูกผลิตขึ้นมาเพื่อการใช้งานที่หลากหลาย นอกจากนี้แฟลชไดร์ฟยังมีหลายหลายประเภท เช่น แฟลชไดร์ฟหนัง แฟลชไดร์ฟปากกา แฟลชไดร์ฟไม้ แฟลชไดร์ฟโลหะ แฟลชไดร์ฟยาง รวมไปถึงการผลิตแพ็คเกจแฟลชไดร์ฟขึ้นมา เพื่อให้ลูกค้าได้มีทางเลือกในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้ามากขึ้น

ในปัจจุบันได้มีโรงงานที่ผลิตแฟลชไดร์ฟก่อตั้งขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ทำให้มีการผลิตแฟลชไดร์ฟในปริมาณที่มากขึ้น ดังนั้นเรื่องกลยุทธ์ทางการตลาดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่ในหลาย ๆ บริษัทจะละเลยไปไม่ได้ เนื่องจากในปัจจุบันนี้มีการแข่งขันทางด้านการตลาดค่อนข้างสูง เพื่อที่จะทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจในตัวของสินค้า จนมาใช้บริการกับบริษัทของเราให้มากขึ้นกว่าเดิม ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันวิวัฒนาการของแฟลชไดร์ฟถูกพัฒนามาอย่างเรื่อย ๆ เพื่อที่จะนำเทคโนโลยีสิ่งนี้มาใช้งานให้ตอบสนองกับยุคปัจจุบัน และมีความทันสมัยมากขึ้น แฟลชไดร์ฟในปัจจุบันนี้ถูกผลิตมาให้มีขนาดที่เล็ก เพื่อที่จะสามารถพกพาเจ้าสิ่งนี้ไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้สะดวกสบายมากขึ้น ในการพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ อย่างไม่หยุดยั้งนี้ ทำให้เทคโนโลยีอื่นเข้ามาแทนที่แฟลชไดร์ฟมากยิ่งขึ้น แต่ก็ใช่ว่าแฟลชไดร์ฟจะหมดความสำคัญลง คนส่วนใหญ่ก็ยังต้องการที่จะใช้งานแฟลชไดร์ฟอยู่ จะเห็นได้ว่าประโยชน์ของแฟลชไดร์ฟล้วนมีอยู่เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น ใช้เก็บข้อมูลเอกสารต่าง ๆ , ใช้บันทึกวีดีโอ เพลง หรือภาพยนตร์, เป็นอุปกรณ์ในการสำรองข้อมูล และเป็นอุปกรณ์ในการโอนย้ายข้อมูลจากเครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง เป็นต้น ในวันนี้เราจะพาไปดูวิวัฒนาการของอุปกรณ์การจัดเก็บข้อมูลอย่างคร่าว ๆ ว่าจะมีอะไรกันบ้าง มาให้ทุกท่านได้ดูกัน…

Floppy Disk

แผ่นดิสก์แบบอ่อน หรือฟลอปปีดิสก์ หรือที่เราทุกคนนิยมเรียกว่า แผ่นดิสก์ หรือดิสเกตต์ เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ ที่อาศัยการเหนี่ยวนำของสนามแม่เหล็กที่อยู่ในตัวของแผ่น Disk โดยทั่วไปจะมีลักษณะบางกลม และบรรจุอยู่ในแผ่นพลาสติกสี่เหลี่ยมของคอมพิวเตอร์ ที่สามารถอ่าน และเขียนข้อมูลลงบนฟลอปปีดิสก์ ผ่านทางฟลอปปีดิสก์ไดร์ฟ

Hard disk

ฮาร์ดดิสก์ หรือ จานบันทึกแบบแข็ง (Hard disk) คืออุปกรณ์บรรจุข้อมูลแบบไม่ลบเลือน จะมีลักษณะเป็นจานโลหะที่เคลือบด้วยสารแม่เหล็ก ซึ่งมันจะทำการหมุนอย่างเร็วเมื่อเวลาที่ทำงาน การติดตั้งเข้ากับตัวคอมพิวเตอร์สามารถทำได้ โดยผ่านการต่อเข้ากับมาเธอร์บอร์ด (Motherboard) ที่มีอินเตอร์เฟซแบบขนาน (PATA) แบบอนุกรม ( SATA) แบบเล็ก (SCSI) อีกทั้งยังสามารถต่อเข้าเครื่องจากภายนอกได้ผ่านทางสายยูเอสบี, สายไฟร์ไวร์ของบริษัท Apple ที่เป็นที่รู้จักในส่วนน้อย รวมไปถึงอินเตอร์เฟซอนุกรมแบบต่อข้างนอก (ESATA) ซึ่งทำให้การใช้ฮาร์ดดิสก์ทำงานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ความจุของฮาร์ดดิสก์โดยทั่วไปในปัจจุบันนั้นจะมีตั้งแต่ 20 ถึง 250 กิกะไบต์ ยิ่งมีความจุมาก ก็จะยิ่งทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

CD-ROM Drive and DVD-ROM Drive

แผ่นซีดีรอมเป็นสื่อในการเก็บข้อมูลแบบออปติคอล (Optical Storage) โดยที่จะใช้แสงเลเซอร์ในการอ่านข้อมูล แผ่นซีดีรอม ที่ทำมาจากแผ่นพลาสติกเคลือบด้วยอลูมิเนียม เพื่อสะท้อนแสงเลเซอร์ที่ยิงมา เมื่อแสงเลเซอร์ที่ยิงมาสะท้อนกลับไปที่ตัวอ่านข้อมูลที่เรียกว่า Photo Detector ก็อ่านข้อมูลที่ได้รับกลับมาว่าเป็นอะไร แล้วส่งค่าของข้อมูลกลับไปให้ซีพียู เพื่อนำไปประมวลผลต่อไป ส่วนในตัวของ DVD-ROM Drive เป็นแผ่นบันทึกข้อมูลด้วยแสง (Optical disc) ที่ใช้บันทึกข้อมูลต่าง ๆ เช่น ภาพยนตร์ โดยที่จะทำให้คุณภาพของภาพ และเสียงดีขึ้น ดีวีดีถูกพัฒนามาให้แทนที่ซีดี โดยจะใช้แผ่นที่มีขนาดเหมือนกัน แต่ว่าจะมีการทำงานที่แตกต่างกัน และมีความละเอียดในการบันทึกข้อมูลที่หนากว่านั่นเอง

ต่อมาเทคโนโลยีต่าง ๆ เหล่านี้ถูกพัฒนาให้เปลี่ยนมาเป็นแฟลชไดร์ฟ (Flash Drive) ที่เราใช้กันมากที่สุดในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ประเภทอื่น ๆ ที่สามารถใช้เก็บข้อมูลได้เหมือนกัน เช่น การ์ดเมมโมรี (Memory Card) เทปแบ็คอัพ (Tape Backup) และ Floptical Disk เป็นต้น แฟลชไดร์ฟในทุกวันนี้ถูกพัฒนาให้มีขนาดที่เล็กกะทัดรัด สะดวกต่อการพกพาไปตามสถานที่ต่าง ๆ มีการออกแบบรูปทรง และดีไซน์ให้ดูน่าใช้งานมากขึ้นอีกด้วย หากคุณกำลังมองหาแฟลชไดร์ฟเพื่อใช้ในการทำงาน หรือนำไปเป็นของที่ระลึกเนื่องในโอกาสที่พิเศษต่าง ๆ บริษัท พรีเมี่ยม เพอร์เฟค จำกัดเป็นผู้ผลิต และจัดจำหน่ายแฟลชไดร์ฟ รวมไปถึงสินค้าประเภทอื่น ๆ แบบพรีเมี่ยมในราคาที่ย่อมเยา ไว้คอยให้บริการแก่ลูกค้าทุกท่าน ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกแบบของสินค้าที่จะผลิตตามความต้องการของลูกค้าได้ นอกจากนี้ทางบริษัทยังมีบริการผลิตสินค้าแบบเร่งด่วน และมีบริการคอยให้คำแนะนำเกี่ยวกับสินค้าพรีเมี่ยมตามแต่ละประเภทให้ทุกท่านได้มาเลือกใช้บริการกัน บริษัทพรีเมี่ยม เพอร์เฟค จำกัด เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ผลิตสินค้าพรีเมี่ยมได้ตรงกับความต้องการของท่านได้มากที่สุด

แฟลชไดร์ฟ (flash drive) มีลักษณะเล็กแต่สิ่งที่แตกต่างคือรูปแบบ และขนาด เพื่อบุคคลที่มีความชอบที่แตกต่างกันออกไป แฟลชไดร์ฟ  (flash drive) เป็นสิ่งที่สายคอมพิวเตอร์หลาย ๆ คนนิยมใช้ หรือจะเป็น Note book และรถยนต์ ที่มีความต้องการใช้แฟลชไดร์ฟ (flash drive) เพราะมันเปรียบเสมือน Hard disk External แต่ในปัจจุบันแฟลชไดร์ฟ (flash drive)เป็นที่นิยมใช้มากกว่า เพื่อเก็บข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นการลงเพลงหรือเก็บข้อมูลสำคัญเนื่องจากบางครั้งเราอาจจะเก็บข้อมูลสำคัญไว้ในคอมอาจจะทำให้ข้อมูลหายได้คนไทยส่วนใหญ่จะชอบเก็บงานไว้ในแฟลชไดร์ฟ (flash drive) มากกว่า

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือแฟลชไดร์ฟ (flash drive) ก็มีความจุต่างกัน  128 MB, 64 MB, 32 MB และราคาถูกลงกว่าเมื่อก่อนมาก แฟลชไดร์ฟ (flash drive) ส่วนมากจะแตกต่างกันที่ความจุ ส่วนเรื่องของรูปร่างคือเป็นปัจจัยรอง แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคล

เราจะมาพูดถึงคุณสมบัติของแฟลชไดร์ฟ (flash drive) ไปดูกันเลย

ข้อ1.มีความเล็กพกพาง่าย มีความกะทัดรัด ซึ่งสามารถพกติดกระเป๋าหรือจะห้อยเป็นพวงกุญแจ ที่สำคัญพังยากและสามารถเก็บข้อมูลได้เยอะพอสมควร ถึงจะมีขนาดที่เล็ก เปรียบเสมือนเล็กพริกขี้หนู

ข้อ2.พูดถึงเรื่องราคาคือราคาถูกมาก บางชิ้นไม่ถึง 100 บาท แล้วแต่คุณภาพและการออกแบบ และขนาดของความจุแต่ละอันด้วย คุ้มค่ามากแล้วเรื่องการเก็บข้อมูลก็อยู่ในระดับที่ดีมาก ที่สำคัญกระแทก หรือตกหล่นมีโอกาสน้อยมากที่จะพัง ข้อมูลไม่หายไปไหน เราจะซื้อแฟลชไดร์ฟ (flash drive) กี่อันก็ได้เพื่อสำรองข้อมูลแล้วราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับการที่เราต้องเก็บข้อมูลที่สำคัญ ปลอดภัย

ข้อ3.รูปแบบและการออกแบบที่มีความแตกต่างกันมากมีทั้งรูปทรงตามใจฉัน หรือจะสั่งทำเป็นพวงกุญแจก็สามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็น แฟลชไดร์ฟการ์ด แฟลชไดร์ฟโลหะ แฟลชไดร์ฟยาง แฟลชไดร์ฟรีไซเคิล ซึ่งจะต่างจากฮาร์ดดิสก์ที่ต้องมีการจัดเก็บไว้ภายในเครื่อง ที่เหมือนกันกับแฟลชไดร์ฟคือเก็บข้อมูลได้เหมือนกัน แต่ปัญหาคือฮาร์ดดิสก์มีขนาดที่ใหญ่เมื่อโดนแรงกระแทกแรง ๆ มีโอกาสทำให้พังได้ง่ายและไม่สามารถพกออกไปข้างนอกได้ แต่แฟลชไดร์ฟสามารถพกไปไหนก็ได้

เห็นคุณสมบัติของแฟลชไดร์ฟ (flash drive)กันพอสมควรแล้ว ต่อไปจะมาแนะนำ แฟลชไดร์ฟ (flash drive) style you

แฟลชไดร์ฟทวิสเตอร์ เป็นแบบแนวใหม่ที่ไม่ต้องมีฝาเหมือน แฟลชไดร์ฟธรรมดา ซึ่งแน่นอนว่าแฟลชไดร์ฟทวิสเตอร์ถูกออกแบบมากจากแฟลชไดร์ฟธรรมดา ที่เมื่อก่อนนั้นแฟลชไดร์ฟธรรมดาจะมีฝา ซึ่งทำให้เกิดปัญหาคือฝาชอบหายนั้นเองเลยพัฒนามาเป็นแฟลชไดร์ฟทวิสเตอร์ ที่ฝาจะมีลักษณะเป็นแบบหมุน360องศา และสะดวกและลดปัญหาฝาหายได้ ซึ่งการออกแบบเช่นนี้ก็จะนำขอบกพร่องของแฟลชไดร์ฟพัฒนาต่อ เพื่อทำให้มันดีขึ้น และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้และยังมีการใช้วัสดุที่ดีขึ้นอีกด้วย แฟลชไดร์ฟทวิสเตอร์ดูแลรักษาง่ายแต่ระวังไวรัสที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ที่เราจะเอาแฟลชไดร์ฟไปเสียบ สามารถแสกนดูว่ามีไวรัสก่อนหรือไม่ทุกกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสติดแฟลชไดร์ฟมา ซึ่งอาจจะส่งผลทำให้งานเสียหายได้ นอกจากนี้แฟลชไดร์ฟทวิสเตอร์ยังมีราคาที่ถูกและหาซื้อได้ง่าย

แฟลชไดร์ฟแต่ละรุ่นก็เหมาะกับทุกรุ่นทุกวัย ไม่ได้เจาะจงไปที่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เช่นแฟลชไดร์ฟคริสตัล แฟลชไดร์ฟไม้ ต่างกันแค่ใช้วัสดุ และราคา นอกจากนี้การดีไซน์ที่ดูหรูหราแต่ราคาเบาหวิว สำคัญสุด ๆ เลยการใช้แฟลชไดร์ฟไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสวยงามทั้งหมดแต่ขึ้นอยู่กับคุณภาพด้วย และสามารถใช้งานได้จริง ความต้องการของผู้ใช้นั้นก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกันว่า แฟลชไดร์ฟจัดเก็บงานสำคัญได้ดี

เชื่อว่าทุกคนคงจะรู้จักคอมพิวเตอร์ (Computer) กันเป็นอย่างดี และเราก็ยังใช้ประโยชน์กับเทคโนโลยีกับสิ่งนี้กันเป็นจำนวนมาก แต่สิ่งที่เราจะพบเห็นบ่อยมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น “แฟลชไดร์ฟ” ที่จะทำงานควบคู่ไปกับคอมพิวเตอร์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งหลายคนคงจะรู้แค่วิธีการใช้งาน แต่ยังไม่รู้รายละเอียดว่าจริง ๆ แล้ว แฟลชไดร์ฟที่เราเอาไปเสียบในช่อง USB มันคืออะไรกันแน่ แฟลชไดร์ฟมีหลากหลายประเภท เช่น แฟลชไดร์ฟหนัง แฟลชไดร์ฟไม้ แฟลชไดร์ฟโลหะ รวมไปถึงการจัดทำเป็นแพ็คเกจแฟลชไดร์ฟให้มีทางเลือกในการตัดสินใจซื้อสินค้าของลูกค้ามากขึ้น แฟลชไดร์ฟเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเรื่องหน่วยความจำ โดยที่จะมี Flash Memory ที่มีขนาดเล็ก แต่มีความจุที่สูงมากเก็บไว้อยู่ภายใน สามารถบันทึกข้อมูลการเขียน และลบข้อมูลได้โดยที่ไม่มีการจำกัดจำนวนครั้ง จะใช้ไฟจากช่องเสียบ USB เป็นตัวทำงานเฉพาะในการใช้งานเท่านั้น แม้ว่าเราจะถอดออกจากช่อง USB ข้อมูลที่ได้ทำการบันทึกไว้ในนั้นก็จะไม่มีทางหายอย่างแน่นอน

แฟลชไดร์ฟในปัจจุบันถูกออกแบบมาให้มีความจุสูงมากกว่า 10 GB ให้เราได้เลือกตามลักษณะการใช้งานหลากหลายยี่ห้อ รวมทั้งมีขนาดเล็ก สามารถพกพาไปตามที่ต่าง ๆ ได้ มีรูปทรง และดีไซน์ที่สวยงาม และราคาจะมีความแตกต่างกันตามประสิทธิภาพการใช้งาน แฟลชไดร์ฟยังมีชื่อเรียกอีกได้หลากหลายชื่อ อย่างเช่น Handy Drive, Thumb Drive, USB flash Drive และ USB flash memory Drive เป็นต้น นอกจากนี้แฟลชไดร์ฟยังมีชื่อเรียกเป็นทางการอีกว่า USB Mass Storage Device เราจะเห็นว่าแฟลชไดร์ฟในปัจจุบันนี้มีขายอยู่ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น ร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือในห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ล้วนมีให้เลือกหลากหลายประเภทตามลักษณะการใช้งานของลูกค้า คนส่วนใหญ่จะเลือกซื้อสินค้าตามความต้องการของตัวเองเป็นหลัก ทำให้โรงงานที่ผลิตแฟลชไดร์ฟมีการพัฒนารูปแบบใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์กับความต้องการของคนส่วนมาก และยังหากลยุทธ์ทางการตลาดต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ นอกจากนี้การดึงดูดความสนใจของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ประโยชน์ของแฟลชไดร์ฟในปัจจุบันมีอยู่อย่างมากมาย ในวันนี้เราไปดูกันว่าแฟลชไดร์ฟจะช่วยในเรื่องอะไรได้บ้าง

มีขนาดเล็ก และพกพาสะดวก แฟลชไดร์ฟในปัจจุบันนี้ถูกออกแบบมาให้มีขนาดที่เล็กกะทัดรัด มีน้ำหนักเบา และสามารถพกพาไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบายไม่ว่าคุณจะเดินทางไปสถานที่ใกล้ หรือไกล ก็จะทำให้คุณหมดความกังวลใจเกี่ยวกับปัญหาในการพกพาไปโดยสิ้นเชิง

มีความจุในการใช้งานได้อย่างดี ความจุที่อยู่ภายในตัวของแฟลชไดร์ฟมีความสำคัญเป็นอย่างมากในการเก็บข้อมูลของไฟล์งานต่าง ๆ ไว้รวมกัน ไม่ว่าจะเป็น ไฟล์เอกสารต่าง ๆ รูปภาพ เสียง และวีดีโอ เป็นต้น แฟลชไดร์ฟจะมีอายุการใช้งานเพียงแค่ 3-5 ปี ซึ่งข้อมูลที่อยู่ในนั้นจะถูกเก็บไว้จนกว่าประสิทธิภาพการใช้งานจะหมดไป ดังนั้นถ้าหากเรารู้จักวิธีการเก็บรักษาที่ดีจะช่วยทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานที่ยาวนานเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย

แฟลชไดร์ฟสามารถทำงานได้กับทุกอุปกรณ์ ในการซื้อแฟลชไดร์ฟทุก ๆ ครั้งสิ่งแรกที่เราจะทำ นั่นก็คือทดสอบประสิทธิภาพในการใช้งาน แฟลชไดร์ฟยังสามารถใช้งานเข้ากับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชนิดอื่นได้ ที่นอกเหนือจากคอมพิวเตอร์ (Computer) ในการเดินทางไปสถานที่ไกล ๆ หรือในตอนเช้าคุณต้องเดินทางไปทำงานด้วยการจราจรที่ติดขัดบนท้องถนน แฟลชไดร์ฟยังสามารถเก็บข้อมูลที่เกี่ยวกับเพลง หรือวีดีโอนำไปเปิดฟังบนรถของคุณได้ และตัวของแฟลชไดร์ฟเองยังสามารถทำงานร่วมกับเครื่องเล่นใหม่ ๆ ในสมัยนี้ได้อีกด้วย

จะเห็นได้ว่าประโยชน์ของแฟลชไดร์ฟมีอีกเป็นจำนวนมาก แฟลชไดร์ฟที่ดีจะต้องมีประสิทธิภาพในการใช้งานที่คุ้มค่ากับราคาที่เสียไป ในการซื้อสินค้าแต่ละครั้งเราจะต้องศึกษาให้ดีก่อน เพื่อสามารถตอบสนองกับความต้องการของเรา แฟลชไดร์ฟเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่สามารถตอบโจทย์กับกลุ่มคนทำงานได้เป็นอย่างดี เห็นอย่างนี้แล้วตัวคุณเองก็จะต้องมีไว้ติดตัวสักอันบ้างแล้วหล่ะ

รู้กันหรือไม่ว่า สมองของเรานั้นประกอบไปด้วยหลายส่วน เช่น สมองส่วนหน้า ซึ่งเป็นส่วนที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และหน้าที่สำคัญหลัก ๆ มีดังนี้

1.olfactory bulb ที่อยู่หน้าสุด ทำให้เราสามารถแยกสิ่งของชิ้นนี้ออกได้ เพียงแค่ดมกลิ่น สามารถแยกแยะกลิ่นได้ ว่ากลิ่นหอม หรือมีกลิ่นเหม็น การที่เราสามารถรับรู้กลิ่นได้ก็เป็นข้อดีของมนุษย์ที่สามารถใช้ชีวิตในการอยู่รอดกันจนมาถึงทุกวันนี้ ลองคิดดูสิว่า หากเราไม่สามารถรับรู้กลิ่นได้ อาจจะไม่มีมนุษย์เกิดขึ้นเลยก็ว่าได้ เพราะการดมกลิ่นก็สามารถบอกได้ว่าสิ่งนี้กินได้ หรือกินไม่ได้

2.Cerebrum มีขนาดใหญ่กว่าส่วนอื่น ๆ และมีรอยหยักมากที่สุด ความหมายของการที่มีรอยหยักมาก มักจะเกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ และความสามารถต่าง ๆ เพราะว่า Cerebrum นั้นเป็นศูนย์ร่วมการทำงานของกล้ามเนื้อ ไม่ว่าจะเป็น การพูด การมองเห็น การรับรู้รส เป็นต้น

3.สมองส่วนกลาง ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของลูกตาของเรานั่นเอง และสมองส่วนท้ายจะทำหน้าที่เกี่ยวกับการควบคุมใบหน้า ไม่ว่าจะเป็น การเคี้ยวอาหาร การที่มีน้ำลายออกมา เป็นต้น

4.ซีรีเบลลัม (Cerebellum) อีกสิ่งหนึ่งคือ Cerebellum จะควบคุมทุกอย่างให้เกิดความสัมพันธ์กัน เพื่อให้ร่างกายของเราสามารถทรงตัวได้

แน่นอนว่าแฟลชไดร์ฟ ก็ต้องเกี่ยวข้องกับความจำ แต่สามารถเก็บข้อมูลได้ถาวร แฟลชไดร์ฟมีหลายอย่างมาก เช่น แฟลชไดร์ฟโลหะ แฟลชไดร์ฟไม้ แฟลชไดร์ฟคริสตัล หรือแฟลชไดร์ฟยางแฟลชไดร์ฟแต่ละรุ่น จะมีความแตกต่างกันออกไป แล้วแต่ว่าเราถนัดแบบไหน ทั้งรูปทรง ความพิเศษของแฟลชไดร์ฟนั้น ๆ  แต่สุดท้ายแล้วความพิเศษของแฟลชไดร์ฟ ก็คือ สามารถเก็บข้อมูลสำคัญไว้ได้อย่างดี ต่างจากสมองของเราที่จำได้แปปเดียวก็ลืม เราจึงจะต้องมีตัวช่วยดี ๆ ที่ช่วยพัฒนา และสามารถช่วยให้การใช้ชีวิตของเรานั้นสะดวกมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้แฟลชไดร์ฟก็ได้มีการพัฒนาความจำให้มากขึ้น จึงทำให้ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน  และกลายเป็นอุปกรณ์ที่นักเรียน นักศึกษา หรือครูจะนิยมใช้เพื่อสื่อการเรียนการสอน นอกจากนี้ คนธรรมดาก็สามารถใช้ได้ เนื่องจากแฟลชไดร์ฟสามารถเก็บข้อมูลด้วยการดาวน์โหลด ผู้คนธรรมดาทั่วไป ก็จะนิยมโหลดเพลงติดแฟลชไดร์ฟไว้ แล้วเอาไว้เปิดในรถ

จึงสรุปได้ว่า สมองอาจจะจำได้แค่แปปเดียวแล้วก็ลืม แต่สมองก็เป็นตัวช่วยในการสั่งการทำงานของร่างกายให้มีความคิด การเรียนรู้ และสามารถตัดสินใจได้เอง ส่วนแฟลชไดร์ฟนั้นเป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพมาก เนื่องจากตัวของแฟลชไดร์ฟที่มีขนาดเล็กแต่สามารถดาวน์โหลดงาน หรือเอกสารสำคัญต่าง ๆ ไว้ได้เยอะมาก และสมองของคนกับแฟลชไดร์ฟ มีความแต่กต่างกัน หรืออาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย เพราะสองคือสิ่งที่มนุษย์จะต้องมี แต่แฟลชไดร์ฟเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมานั่นเอง แฟลชไดร์ฟมีหลายรูปแบบมาก และการใช้วัสดุก็จะต้องเลือกสิ่งที่ดีมาทำเป็นแฟลชไดร์ฟ และการเลือกทำแฟลชไดร์ฟไม้ก็ต้องเลือกวัสดุจากไม้ ที่ไม่ส่งผลเกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม และไม่ต้องกลัวว่าการที่เลือกซื้อแฟลชไดร์ฟไม้มอบเป็นของขวัญให้คนพิเศษ แล้วจะทำร้ายสิ่งแวดล้อม แฟลชไดร์ฟไม้เป็นแฟลชไดร์ฟ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้แฟลชไดร์ฟก็มีความพิเศษ คือ จะสามารถพัฒนาจากรุ่นสู่รุ่นโดยมนุษย์จะมองหาข้อบกพร่องของแฟลชไดร์ฟรุ่นเดิม และส่งต่อให้กับแฟลชไดร์ฟรุ่นใหม่ คือ แฟลชไดร์ฟทวิสเตอร์ ที่มีการพัฒนาจากฝาที่เป็นแบบถอดได้ กลายมาเป็นฝาที่ใช้นิ้วหมุนให้เกิด 360 องศา ก็สามารถปิดหัวแฟลชไดร์ฟได้แล้ว สะดวก และเสียเวลาน้อยลง ป้องกันการฝาหาย และการดูแลรักษาแฟลชไดร์ฟทุกประเภท คือ ตรวจอุปกรณ์ที่จะนำแฟลชไดร์ฟไปเสียบว่ามีไวรัสหรือไม่ เช่น คอมพิวเตอร์ เป็นต้น

อย่างที่เห็นกันว่าแฟลชไดร์ฟคืออะไรกันแน่ มันใช่สิ่งที่คนในปัจจุบันพกพาไปไหนต่อไหนได้สะดวกรึเปล่า และที่แน่ ๆ มันมีหน้าที่อะไรทำอะไร วันนี้เราจะมาทำความรู้จักแฟลชไดร์ฟที่หลาย ๆ คนเรียกว่า แฟลชไดร์ฟนั้นสามารถทำอะไรได้บ้าง ทั้งนี้แฟลชไดร์ฟต่างก็เป็นที่รู้จักกันดีว่ามีเพื่อเอาไปใช้ในการเก็บข้อมูลแต่ด้วยความที่แฟลชไดร์ฟมีขนาดที่เล็กและสามารถพกพาไปในที่ต่าง ๆ ได้สะดวกจึงเป็นสิ่งสำคัญของผู้คนเหล่านั้น แฟลชไดร์ฟก็เป็นหน่วยความจำที่มีมากเพียงพอเพื่อการใช้งานในแต่ละความจำเป็นของคนที่เราเรียกว่าแฟลชไดร์ฟนั้นก็เพราะแฟลชไดร์ฟสามารถที่จะนำไปเสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์นอกสถานที่หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ได้มากมายเพื่อทำการคัดลอกจากอีกอุปกรณ์หนึ่งไปยังอุปกรณ์หนึ่ง แต่ก็มีอีกหลาย ๆ คน  ที่ไม่รู้เลยว่าจริง ๆ แล้วเจ้าแฟลชไดร์ฟอันเล็กของเรานั้นคืออะไร ทำงานได้อย่างไร และประโยชน์อีกมากมายของเจ้าตัวแฟลชไดร์ฟมีมากมายขนาดไหน และวันนี้เรานั้นจะมาบอกถึงเจ้าแฟลชไดร์ฟอันเล็กนี้ให้ทุกคนได้รู้ถึงข้อเท็จจริงของมันนั้นเอง

ทั้งนี้แฟลชไดร์ฟก็ถือเป็นหน่วยความจำอีกรูปแบบหนึ่งที่คนในปัจจุบันให้ความสนใจและยังคงเป็นสิ่งที่มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงให้มีประสิทธิภาพและให้คนทั่วไปได้เข้าถึงกันอย่างง่ายมากยิ่งขึ้น และสามารถให้ผู้คนเลือกใช้งานได้ตรงตามความต้องการของแต่ละคนนั่นเองแฟลชไดร์ฟมีการพัฒนาให้อยู่ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น แฟลชไดร์ฟไม้ แฟลชไดร์ฟการ์ด แฟลชไดร์ฟยาง เป็นต้น แต่ก็ยังมีคนอีกจำนวนหนึ่งที่คิดว่าแฟลชไดร์ฟเป็นเพียงแค่อุปกรณ์ที่จำเป็นหรือไม่จำเป็นก็ได้ หรือเราอาจจะคิดว่าเราจะมีหรือไม่มีก็ได้ แต่จริง ๆ แล้วแฟลชไดร์ฟยังถือว่าเป็นสิ่งที่อำนวยความสะดวกและสามารถเก็บข้อมูลให้เราได้เยอะที่สุด อีกทั้งยังเก็บข้อมูลของเราได้นานโดยที่ไม่หายไปไหนด้วย

แฟลชไดร์ฟ เป็นหน่วยความจำแฟลชหรือเป็นอุปกรณ์ในการใช้จัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ โดยแฟลชไดร์ฟนั้นจะมีสมองสำคัญภายในตัวอยู่นั่นก็คือหน่วยความจำแฟลช จะเป็นลักษณะการทำงานที่เป็นคล้าย ๆ อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด แต่แฟลชไดร์ฟจะมีความแตกต่างจากฮาร์ดดิสก์ที่มีการทำงานในลักษณะของจานแม่เหล็กหมุน และแฟลชไดร์ฟมีขนาดที่เล็กว่า น้ำหนักเบากว่า เหมาะแก่การที่จะพกพาไปยังที่ต่าง ๆ ได้สะดวกมากกว่าที่เราจะพกฮาร์ดดิสก์อันใหญ่ ๆ ไปในแต่ละที่ของเรา และสิ่งที่สำคัญของนั้นก็คือ เมื่อเรานำมาใช้งานเราจะสามารถเขียนข้อมูลลงไป หรือลบแล้วเขียนใหม่ก็ได้ มีความทนทาน และในปัจจุบันแฟลชไดร์ฟได้มีการพัฒนาให้มีรูปแบบที่สวยงามและจำนวนความจุของหน่วยความจำที่มากยิ่งขึ้นสามารถทำให้เก็บข้อมูลได้มากขึ้น

ประโยชน์ของแฟลชไดร์ฟ

• หน่วยความจำสำรองของคอมพิวเตอร์

ในคอมพิวเตอร์ก็จะมีหน่วยความจำที่มีอยู่แล้ว แต่อาจจะมีจำนวนจำกัดเพียงเท่านั้นคอมพิวเตอร์ก็อาจจะไม่เพียงพอที่จะเก็บข้อมูลของเราได้ แต่แฟลชไดร์ฟก็จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถเป็นหน่วยความจำสำรองของคอมพิวเตอร์ได้

• ใช้เก็บข้อมูลเพื่อสำรองไฟล์งานต่าง ๆ

แฟลชไดร์ฟยังเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่มีไว้เพื่อเก็บข้อมูลสำรองไฟล์งานต่าง ๆ ของคุณไว้ทั้งนี้เมื่อคุณนำไฟล์งานต่าง ๆ เก็บไว้ในแฟลชไดร์ฟนั้นคุณยังสามารถนำไปเปิดได้ในที่ต่าง ๆ ได้อีกด้วย

• คัดลอกไฟล์ข้อมูล

การคัดลอกไฟล์ข้อมูลและนำมาใส่ไว้ในแฟลชไดร์ฟเพื่อที่จะทำการย้ายไปยังอีกอุปกรณ์หนึ่งหรือการย้ายไฟล์ข้อมูลจากคอมพิวเตอร์หนึ่งไปยังอีกคอมพิวเตอร์หนึ่งได้นั่นเอง

แฟลชไดร์ฟในปัจจุบันก็มีจำหน่ายมากมายตามท้องตลาด ห้างสรรพสินค้า หรือร้านไอทีในที่ต่าง ๆ โดยสามารถเลือกความจำของแฟลชไดร์ฟได้ และในปัจจุบันก็มีขนาดบรรจุถึง 128 GB ซึ่งสามารถเก็บไฟล์ข้อมูลได้เยอะมาก

ในปัจจุบันเรารู้กันดีว่ามีแฟลชไดร์ฟหลายแบบมากให้เราเลือกซื้อ อยู่ที่ความชอบของแต่ละคนว่าชอบใช้แบบไหนมากกว่า บางคนก็ชอบใช้แฟลชไดร์ฟไม้ที่มีการแกะสลักด้วยมือ ที่สร้างความหรูหรา ทำให้เราเห็นถึงฝีมือ และลวดลายที่สวยงามของชิ้นงาน ซึ่งเป็นการสร้างคุณค่าให้กับแฟลชไดร์ฟ นอกจากนี้ยังสามารถส่งมอบเป็นของขวัญได้อีกด้วย และเราเรียกสิ่งเหล่านี้ว่า แฟลชไดร์ฟไม้ และยังเป็นที่นิยมในกลุ่มนักเรียน หรือกลุ่มคนวัยทำงานก็จะนิยมใช้แฟลชไดร์ฟเพื่อเก็บรักษาข้อมูลสำคัญ ทุกแฟลชไดร์ฟ มีความแปลกของมันไม่ได้อยู่ที่ความจุ แต่อยู่ที่รูปร่างของแฟลชไดร์ฟ ส่วนประกอบของโครงสร้างที่นำมาใช้เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งการออกแบบนั้นจะต้องผ่านกระบวนการคิดของแต่ละคนออกมา และจะต้องมีความแตกต่างกัน จุดนี้เองที่ทำให้เกิดความแปลกใหม่ของแฟลชไดร์ฟ

ตัวของแฟลชไดร์ฟก็ให้ประโยชน์กับคนที่ชอบเก็บข้อมูลสำรองเอาไว้ แฟลชไดร์ฟจึงเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะในสมัยนี้ผู้คนก็เริ่มใช้คอมพิวเตอร์กันแล้ว จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องใช้แฟลชไดร์ฟ ถึงแม้ว่าแฟลชไดร์ฟจะเป็นเพียงอุปกรณ์อันเล็ก แต่แฟลชไดร์ฟกับมีประโยชน์ต่อคนที่นำมาใช้เป็นอย่างมาก ประโยชน์ของแฟลชไดร์ฟ หลัก ๆ แล้ว คือ การเก็บข้อมูลต่าง ๆ ที่เราอยากจะนำมาสำรองไว้ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ของคุณ งานสำคัญของคุณก็จะไม่หายไป หากคุณเซฟงานใส่แฟลชไดร์ฟไว้แล้ว  และยังสามารถถ่ายโอนข้อมูลไปยังอีกคอมพิวเตอร์หนึ่งได้โดยที่ไม่ได้เกิดความยุ่งยากเลย เพียงแค่นำแฟลชไดร์ฟนั้นมาเสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์ หรือ Notebook ของคุณ งานที่อยู่ในแฟลชไดร์ฟก็จะปรากฏ และเราก็สามารถดูงานได้ และเซฟไฟล์งานได้เหมือนเดิม แฟลชไดร์ฟทำได้หลายอย่างมาก นอกจากจะบันทึกไฟล์งานต่าง ๆ ได้แล้ว ยังสามารถเก็บคลิปวีดีโอ เพลง เอาไว้ไปเปิดดู เปิดฟังเพลงบนรถได้ เพราะแฟลชไดร์ฟมีขนาดที่พกพาง่ายเหมาะกับการนำติดตัวไปในสถานที่ต่าง ๆ ด้วยความที่แฟลชไดร์ฟมีขนาดที่เบา กะทัดรัด ไม่ได้สร้างความลำบากให้แก่ผู้ใช้งานเลย ซึ่งมีความเหมาะสมเป็นอย่างมากที่จะนำมาพกไว้ติดตัว และการดีไซน์ของแฟลชไดร์ฟนั้นก็จะคำนึงถึงผู้ใช้เป็นส่วนใหญ่ ว่าแฟลชไดร์ฟแบบนี้บุคคลแบบไหนชอบใช้งาน เช่น

1.แฟลชไดร์ฟโลหะ ที่มีการดีไซน์โดยนำเหล็กมาทำเป็นแฟลชไดร์ฟให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ เนื่องจากมีความแข็งแรง และทนทานต่อการใช้งาน แฟลชไดร์ฟโลหะจะมีลักษณะเป็นแบบเรียบ และมีขนาดที่เล็ก และมีน้ำหนักเบา นอกจากแฟลชไดร์ฟจะมีประโยชน์ต่อการเก็บข้อมูลแล้ว ยังสามารถไปเปิดฝาขวดได้อีกด้วย เนื่องจากเป็นโลหะที่มีความแข็ง และทนทาน เหมาะกับคนที่นิยมใช้ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา หรือคนธรรมดาก็สามารถใช้ได้

2.แฟลชไดร์ฟการ์ด ที่มีความทันสมัยมากเรียบง่าย และน่าใช้สุด ๆ สามารถส่งมอบเป็นของขวัญให้กับคนที่รัก หรือเป็นของที่ระลึกแจกให้กับลูกค้าก็ย่อมได้ ที่สำคัญยังมีราคาที่ย่อมเยา เป็นแฟลชไดร์ฟการ์ดที่ได้คุณภาพ หากต้องการซื้อมาก ๆ ก็สามารถสั่งทำได้ เนื่องจากมีหลายเว็บไซต์ที่รับทำแฟลชไดร์ให้ตอบสนองตามความต้องการของลูกค้า และการออกแบบของแฟลชไดร์ฟการ์ด ก็มีความแปลกไปจากแฟลชไดร์ฟธรรมดาในเรื่องของรูปทรง ที่มีรูปทรงเป็นเหมือนบัตรสี่เหลี่ยม ซึ่งเป็นที่นิยมใช้มากในกลุ่มของคนที่ทำงาน office เป็นต้น

3.หลายคนคงเคยเห็นคริสตัลที่มีหลาย ๆ สี ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับสินค้า แฟลชไดร์ฟคริสตัลสามารถใช้กับทุกคนได้ และราคาย่อมเยามาก มีการดีไซน์ที่เก๋ ดูแพงมาก และเป็นสินค้าพรีเมี่ยม สามารถสั่งทำได้เช่นกัน มีรูปทรงหลายแบบที่สามารถทำได้ และมีความทันสมัยเป็นอย่างมาก บุคคลที่นิยมใช้จะเป็นกลุ่มของนักศึกษา นักเรียน หรือวัยทำงาน นอกจากนี้ยังเหมาะกับการแจกให้เป็นของที่ระลึกได้อีกด้วย และสามารถมอบเป็นของขวัญให้กับผู้บริหารใหญ่ ๆ ได้

ในปัจจุบันนี้การที่จะเลือกซื้อของอะไรสักอย่าง เราจะเลือกซื้อตามลักษณะการใช้งาน และความคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปเป็นส่วนใหญ่ เช่นเดียวกับการเลือกซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จะต้องเลือกอย่างระมัดระวังในการเสียเงินไปเพื่อแลกมากับประสิทธิภาพการใช้งาน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีด้วยกันหลากหลายประเภทที่สามารถนำความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวันของเราให้เป็นเรื่องที่ง่ายมากยิ่งขึ้น แฟลชไดร์ฟก็เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่งที่เรามักจะเห็นกันอยู่บ่อย ๆ และมีประโยชน์ต่อการใช้งานเป็นอย่างมาก ในปัจจุบันนี้แฟลชไดร์ฟมีให้เราได้เลือกซื้อตามลักษณะการใช้งานอยู่อย่างมากมาย อย่างเช่น แฟลชไดร์ฟปากกา แฟลชไดร์ฟการ์ด และแฟลชไดร์ฟโลหะ เป็นต้น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญในการศึกษาได้ รวมไปถึงตามบริษัทต่าง ๆ ที่สามารถใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์ (Computer) หรือโน้ตบุ๊ก (Notebook) ได้นั่นเอง ซึ่งเป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยให้การเรียน การทำงาน มีความง่ายมากขึ้นมากกว่าแต่ก่อน และยังพกพาไปได้ในทุก ๆ ที่ เนื่องจากมีน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา แต่ในส่วนของคอมพิวเตอร์จะมีข้อจำกัดการใช้งานที่ไม่สามารถพกพาไปไหนได้ เพราะว่ามีน้ำหนักที่มาก คุณรู้หรือไม่ว่าในการซื้อแฟลชไดร์ฟเราจะคำนึงถึงอะไรเป็นอันดับแรก ในวันนี้เรามาดูกันว่าการเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟอย่างไรให้ตอบโจทย์กับเงินที่เราเสียไปให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด

ก่อนอื่นเลย แฟลชไดร์ฟ มีหน้าที่สำรองข้อมูล หรือสามารถเคลื่อนย้ายข้อมูลอีกที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้ เช่น การเก็บข้อมูลเอกสารต่าง ๆ เก็บไฟล์รูปภาพ เสียง และวีดีโอ เป็นต้น เมื่อคนต้องการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ประเภทนี้กันมาก ทำให้การผลิตมีจำนวนที่มากขึ้น และยังช่วยให้ลูกค้าอย่างเรามีทางเลือกในการตัดสินใจที่จะเลือกซื้อสินค้าได้หลากหลาย นอกจากนี้เรายังมีเทคนิคในการเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟให้ทุกท่านพิจารณากันอย่างคร่าว ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า

ความจุ เป็นสิ่งแรกที่เราทุกคนพิจารณาในการตัดสินใจที่จะเลือกซื้อสินค้าเป็นอันดับแรก ความจุของแฟลชไดร์ฟที่เรามักจะเห็นกันคุ้นตาก็จะมี MB GB และTB เรียงจากน้อยไปหามาก แล้วแต่ว่าจะเลือกซื้อให้ตรงกับลักษณะการใช้งานมากน้อยแค่ไหน ถ้าหากยิ่งมีความจุมาก ราคาก็จะแพงมากขึ้น ถ้าหากใครต้องการที่จะเก็บไฟล์งานเอกสารที่ใช้งานทั่วไป ๆ ควรใช้ความจุตั้งแต่ 4 GB จนไปถึง 16 GB ก็เพียงพอแล้ว

ความเร็วในการอ่าน และเขียนข้อมูลของแฟลชไดร์ฟ หรือเรียกอีกอย่างว่า การถ่ายโอนข้อมูล ซึ่งในการอ่านจะมีความเร็วมากกว่าการเขียนเหมือนกับมนุษย์เรา จะมีระบุไว้ที่ Read Speed และ Write Speed เช่น Read Speed 200MB/s, และWrite Speed 500MB/s, เป็นต้น ทั้งนี้ก็อาจจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับทุกกรณี ควรที่จะไปดูตรงที่ขนาดไฟล์ของแต่ละก้อนถึงจะมีความแน่นอนมากกว่า

การเชื่อมแฟลชไดร์ฟเข้ากับอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ประเภทอื่น ๆ ที่ต้องใช้งานร่วมด้วยถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ เนื่องจากเราจะต้องมีการโอนย้ายของข้อมูล นอกจากนี้ในการเชื่อมต่อไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นยังมีตัวพอร์ต USB ที่ในปัจจุบันนี้สามารถใช้งานเข้ากับแฟลชไดร์ฟได้

คุณสมบัติพิเศษ คุณสมบัติในลักษณะแบบนี้หาได้แค่บางรุ่นเพียงเท่านั้น แฟลชไดร์ฟไม่ได้เพียงแค่จัดเก็บไฟล์ข้อมูล หรือโอนย้ายไฟล์งานเพียงอย่างเดียว แต่บางรุ่นยังมีคุณสมบัติที่พิเศษ คือ สามารถฟังเพลงแบบ MP3 ได้ โดยจะมีรูเล็ก ๆ ในการเสียบหูฟังลงไป หรือบางรุ่นก็สามารถบันทึกเสียงได้อีกด้วย

นอกจากนี้การใช้เทคนิคต่าง ๆ ในการเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟมีอยู่อีกมาก แล้วแต่ตามลักษณะการใช้งานของผู้ที่ต้องการใช้ การเลือกซื้อสินค้าที่มีความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการใช้งานรวมไปถึงเงินที่เราต้องเสียไปจากการเลือกซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภทเป็นสิ่งที่เราจะมองข้ามไปไม่ได้โดยเด็ดขาด

ในปัจจุบันการทำงานที่ต้องใช้ความจำในด้านต่าง ๆ โดยจะเห็นได้ว่าหน่วยความทรงจำต่าง ๆ ไม่ว่าทั้งมนุษย์หรือเทคโนโลยี เช่น คอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือ ต่างก็ต้องมีความจำที่จะเต็มหรือแน่นเกินไปที่จะรับสิ่งอื่นเข้ามาใหม่ ถ้าเปรียบเทียบมนุษย์หน่วยความจำคือสมอง แต่ถ้าหากสมองเรามีความจำที่จำกัดการจด การเขียนเก็บไว้ ก็อาจจะเป็นการเก็บหน่วยความจำเพิ่มเติม และถ้าหากคอมพิวเตอร์ หน่วยความจำก็จะเป็นแรมหรือรอม แต่พวกนี้ก็ถือว่ามีหน่วยความจำที่จำกัดแต่หน่วยความจำที่จะเพิ่มเติมได้ก็จะมี แฟลชไดร์ฟ เป็นอีกหนึ่งหน่วยความจำที่จะสามารถเก็บรักษาข้อมูลได้อีกที่หนึ่ง โดยแฟลชไดร์ฟก็จะมีหลากหลายรูปแบบ เช่น แฟลชไดร์ฟการ์ด แฟลชไดร์ฟไม้ แฟลชไดร์ฟโลหะ แฟลชไดร์ฟทวิสเตอร์ แฟลชไดร์ฟคลาสสิค แฟลชไดร์ฟยาง เป็นต้น

เมื่อพูดถึงหน่วยความจำ ก็จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ

มนุษย์

มนุษย์ถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีหน่วยความจำอย่างมากและสามารถจดจำเรื่องราวสิ่งใหม่ได้ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  แต่ก็อาจจะมีบ้างที่ลืมเรื่องราวหรือเหตุการณ์ที่หลงลืมไป แต่การเขียนหรือการจดบันทึกก็เป็นการเตือนหรือเป็นการรื้อฟื้นความทรงจำของเหตุการณ์หรือเรื่องราวนั้น ๆ เมื่อเราหยิบขึ้นมาอ่าน ก็จะสามารถย้อนไปจำภาพเหตุการณ์เรื่องราวในวันนั้นได้ หรืออาจจะเป็นความรู้ที่เราลืมไปในช่วงที่ได้เรียนรู้เมื่อเวลาเลยผ่านไปก็อาจจะลืมไปได้หน่วยความจำก็อาจจะเป็น หนังสือ หรืออินเตอร์เน็ตที่จะสามารถสืบค้นความรู้ทั้งสิ่งใหม่และสิ่งเก่าได้

เครื่องจักร

เครื่องจักรเป็นสิ่งที่สามารถทำงานเพื่อความสะดวกสบายและรวดเร็วของมนุษย์ โดยเครื่องจักรต่าง ๆ ต่างก็คิดค้นมาจากสมองของมนุษย์ มนุษย์เป็นคนคิดค้นที่จะผลิตเครื่องจักรออกมาเพื่อทดแทนกำลังคนหรือความสะวดกสบายในการทำงานของตนเองมากขึ้น และเครื่องจักรที่มนุษย์คิดต้นขึ้นมาเพื่อทดแทนการใช้ กระดาษหรือหนังสือ ในการจดจำ ก็จะใช้เป็นคอมพิวเตอร์แทน

“คอมพิวเตอร์” เป็นเครื่องมือที่สร้างขึ้นโดยมนุษย์ คอมพิวเตอร์สามารถเก็บข้อมูลต่าง ๆ ได้มากและเราจะสามารถที่จะเพิ่มจำนวนหน่วยความจำในรูปแบบต่าง ๆ เข้าไปได้ และในคอมพิวเตอร์จะมีหน่วยความจำที่แบ่งออกเป็น 2 อย่าง คือ

แรม (RAM) เป็นหน่วยความจำหลักของคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ในการจัดเก็บข้อมูลสำหรับการใช้เรียกใช้งานของโปรแกรมงานโดยจะมีการระบุตำแหน่งและที่อยู่ของข้อมูลเพื่อการเขียนและการอ่านเป็นการเข้าถึงแบบสุ่มทั้งนี้ CPU ก็ต้องทำหน้าที่ผ่านแรมเนื่องจากแรมจะทำหน้าที่รับคำสั่งและประมวลผลให้กับ CPU โดยคอมพิวเตอร์ที่ต้องการให้มีการประมวลผลที่รวดเร็วจะต้องมีแรมที่สูงโดยหน่วยความจำที่เป็นที่นิยมใช้กันอย่างมากที่สุดจะมีตั้งแต่ 32 64, 128 และ 256 เมกะไบต์

รอม (ROM) เป็นอีกหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์ที่เก็บข้อมูลสำหรับการใช้งานโดยรอมจะทำหน้าที่จัดเก็บโปรแกรมที่สำคัญต่าง ๆ ของเราไว้เพื่อไม่ให้เมื่อเปิดคอมพิวเตอร์ของเรามาแล้วจะยังมีโปรแกรมต่าง ๆ ของเรายังอยู่ถึงแม้จะปิดเครื่องแล้ว ข้อมูลหรือโปรแกรมก็จะไม่ถูกลบไป

โดยหน่วยความจำสำหรับเก็บของมูลของคอมพิวเตอร์นั้นก็อาจจะมีจำนวนที่จำกัดไปอีกแต่ก็มีอีกอย่างที่สามารถนำมาทดแทนที่จะใช้เป็นการเก็บข้อมูลในอีกรูปแบบนึง คือ แฟลชไดร์ฟ โดยจะทำหน้าที่ไว้เก็บข้อมูลต่าง ๆ ของเราเพื่อให้ในคอมพิวเตอร์เรามีพื้นที่ในการเก็บข้อมูลมากขึ้น

แฟลชไดร์ฟเป็นสิ่งที่จะสามารถนำมาบรรจุข้อมูลต่าง ๆ ของเราโดยที่จะไม่เปลืองเนื้อที่ในคอมพิวเตอร์ ในอดีตการเก็บข้อมูลก็จะเก็บในรูปแบบของกระดาษ หรืออาจจะเก็บในรูปแบบของซีดี แต่ข้อเสียของซีดีคือมีขนาดใหญ่และมีพื้นที่ในการจัดเก็บที่น้อย จึงมีการพัฒนามาอยู่ในรูปแบบของ แฟลชไดร์ฟ เพื่อคอมพิวเตอร์จะได้มีพื้นที่ในการจัดเก็บมากขึ้น และแฟลชไดร์ฟยังอำนวยไปถึงความสะดวกในการพกพาไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้ ข้อดีของแฟลชไดร์ฟก็มีมาก เช่น ขนาดเล็ก พกพาง่าย มีพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลได้มาก โดยที่แฟลชไดร์ฟสามารถเลือกพื้นที่ในการจัดเก็บได้สามารถเก็บข้อมูลได้จำนวนมากตั้งแต่ 8 GB ถึง 128 GB ได้เลยทีเดียว