ถึงแม้จะในปัจจุบันก็ตาม ในยุคที่เราใช้เทคโนโลยีในการเก็บบันทึกข้อมูลต่าง ๆ มากมายหลากหลายวิธีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการเก็บไว้ในระบบ Cloud บนคอมพิวเตอร์หรืออินเทอร์เน็ต หรือจะเก็บในรูปแบบของฮาร์ดดิสก์แบบพกพา ก็มีให้คุณเลือกด้วยกันมากมายหลากหลาย...
ถึงแม้จะในปัจจุบันก็ตาม ในยุคที่เราใช้เทคโนโลยีในการเก็บบันทึกข้อมูลต่าง ๆ มากมายหลากหลายวิธีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการเก็บไว้ในระบบ Cloud บนคอมพิวเตอร์หรืออินเทอร์เน็ต หรือจะเก็บในรูปแบบของฮาร์ดดิสก์แบบพกพา ก็มีให้คุณเลือกด้วยกันมากมายหลากหลาย แต่ก็มีอยู่อุปกรณ์หนึ่งที่ในอดีตได้รับความนิยม และจนถึงปัจจุบันก็ยังมีคนใช้งานอยู่เป็นจำนวนมาก นั่นก็คืออุปกรณ์อย่างแฟลชไดร์ฟ
แฟลชไดร์ฟ นับว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับการเก็บรักษาข้อมูล ที่นำมาใช้งานได้หลากหลายระดับเป็นอย่างมาก เราซื้อแฟลชไดร์ฟมาใช้งานส่วนตัวอย่าง GARD USB หรือสำหรับองค์กรหรือบริษัทใหญ่ๆ แฟลชไดร์ฟยังถูกนำมาทำเป็นของพรีเมี่ยมอีกด้วยและยังมีหลากหลายแบบทั้ง WOODEN USB TWISTER USB ซึ่งก็ถือว่าเป็นอุปกรณ์ยอดนิยมสำหรับการทำของพรีเมี่ยมชิ้นหนึ่งเลยทีเดียว แต่สำหรับการใช้ส่วนตัว เราจะเลือกอุปกรณ์สำคัญชิ้นนี้อย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งานของเรา
และในวันนี้เอง เราจะพาคุณมาเลือกแฟลชไดร์ฟกัน ซึ่งเป็นแบบที่เหมาะสมสำหรับตัวคุณ เลือกแบบไหนจะเหมาะสมแก่การใช้งานของเรามากที่สุด ทำให้เราใช้งานได้อย่างสบายใจและยาวนาน กับคุณภาพมากที่สุดเทียบเท่าที่จะทำได้
ถามความต้องการของเราก่อน
แน่นอนว่า ทุกคนนั้นมีความต้องการในการใช้งานอุปกรณ์แฟลชไดร์ฟที่แตกต่างกัน บางคนนำอุปกรณ์ชิ้นนี้ไปใช้งานกับคอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียว เพียงเพื่อใช้สำหรับการเก็บไฟล์เอกสารต่าง ๆ หรือไฟล์ที่มีขนาดเล็กเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่บางคนถึงขั้นเอาไปเก็บวิดีโอขนาดใหญ่ หรือที่เป็นเพลงคุณภาพสูง บางคนอาจนำไปเปิดกับ Smart TV หรือเครื่องเสียงติดรถยนต์ เหล่านี้จำเป็นต้องดูในเรื่องของความเร็วในการอ่านข้อมูล และสิ่งอื่นนำมาพิจารณาร่วมด้วย
จากนั้นให้ดูเรื่องของความจุหรือพื้นที่จัดเก็บ
แฟลชไดร์ฟนั้นถูกพัฒนาให้มีความจุหรือพื้นที่จัดเก็บมากมายหลากหลายด้วยกัน ในปัจจุบันความจุขั้นต่ำของอุปกรณ์ชนิดนี้จะอยู่ที่ประมาณ 16 GB ไปจนถึงหลัก TB เลยก็มี และแน่นอนว่ามีความจุมากเท่าไหร่ราคาก็จะยิ่งสูงขึ้นไปเท่านั้น สำหรับเรื่องความจุที่เหมาะสม เราจะพิจารณาว่าเราใช้ในการเก็บข้อมูลได้มากน้อยเพียงไหน การใช้งานพื้นฐานของเราเป็นอย่างไร อย่างที่กล่าวไปว่าคุณนำไปเก็บไฟล์เอกสารเพียงแค่นั้น หรือนำไปเก็บวิดีโอขนาดใหญ่ ไม่ใช่ว่าความจุมากจะดีเสมอไป เพราะอย่าลืมว่าราคายิ่งแพงตามขนาดความจุที่มากขึ้นไปด้วย
อย่าลืมดูเรื่องของความปลอดภัย
แน่นอนว่าใครก็ไม่อยากให้ข้อมูลที่สำคัญนั้นสูญหายไปได้อย่างง่ายดาย ในปัจจุบันนั้นแฟลชไดร์ฟหลาย ๆ รุ่นมาพร้อมกับเทคโนโลยีการป้องกันข้อมูลของคุณ ซึ่งก็มีอยู่ด้วยกันมากมายหลากหลายรูปแบบ ทั้งการใช้ซอฟต์แวร์ต่างๆ รวมไปถึงอาจจะมีการเข้ารหัสได้ด้วยเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการป้องกันข้อมูลของเราไม่ให้สูญหายหรือเกิดความเสียหาย นอกจากนี้เรื่องของซอฟต์แวร์ที่สำคัญ เรื่องของวัสดุภายนอกก็สำคัญด้วยเช่นเดียวกัน หากไม่อยากให้ข้อมูลเสียหาย อาจจะเลือกที่ทำจากวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทาน เพื่อที่ตกหล่นแล้วจะได้ไม่แตก
พอร์ตการเชื่อมต่อ
ในปัจจุบันนั้น แฟลชไดร์ฟ ได้มีการใช้มาตรฐานการเชื่อมต่อหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น USB 2.0, USB 3.0 หรือ USB 3.1 ก็ตาม ซึ่งเหล่านี้ถือเป็นพื้นฐาน มาตรฐานการเชื่อมต่อเหล่านี้มีความแตกต่างกันในเรื่องของความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล แน่นอนว่าราคาก็สูงขึ้นไปด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นหากเราต้องการนำไปใช้งานกับไฟล์ที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก อาจจะไม่จำเป็นต้องอ่านข้อมูลรวดเร็วขนาดนั้น อาจจะเลือกใช้เป็นแบบ USB 2.0 ได้เนื่องจากไฟล์ที่มีขนาดเล็กนั้นอาจจะใช้เวลาไม่นาน นอกจากนี้ USB 2.0 ในปัจจุบันยังมีราคาที่ถูกเอามาก ๆ
หรือหากจะนำไปใช้งานกับไฟล์ที่มีขนาดใหญ่ การเลือกแบบ USB 3.0 หรือ USB 3.1 ไปเลย ก็ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมมากกว่า